พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2025 ความสุขที่แท้จริง

           พระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากภูเขาพร้อมกับบรรดาศิษย์และทรงหยุดอยู่ ณ ที่ราบแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีศิษย์กลุ่มใหญ่และประชาชนจำนวนมากจากทั่วแคว้นยูเดีย จากกรุงเยรูซาเล็ม จากเมืองไทระ และจากเมืองไซดอนซึ่งอยู่ริมทะเล
           พระองค์ทอดพระเนตรบรรดาศิษย์ ตรัสว่า
           ท่านทั้งหลายที่ใยากจนย่อมเป็นสุข เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่าน
           ท่านที่หิวนเวลานี้ย่อมเป็นสุข เพราะท่านจะอิ่ม
           ท่านที่ร้องไห้ในเวลานี้ย่อมเป็นสุข เพราะท่านจะหัวเราะ
           ท่านทั้งหลายเป็นสุข เมื่อคนทั้งหลายเกลียดชังท่าน ผลักไสท่าน ดูหมิ่นท่าน รังเกียจนามของท่านประหนึ่งนามชั่วร้ายเพราะท่านเป็นศิษย์ของบุตรแห่งมนุษย์ จงชื่นชมในวันนั้นเถิด จงโลดเต้นยินดีเถิด เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านนั้นยิ่งใหญ่นักในสวรรค์ บรรดาบรรพบุรุษของเขาเหล่านั้นเคยกระทำเช่นนี้กับบรรดาประกาศกมาแล้ว
           วิบัติจงเกิดกับท่านที่ร่ำรวย เพราะท่านได้รับความเบิกบานใจแล้ว
           วิบัติจงเกิดกับท่านที่อิ่มเวลานี้ เพราะท่านจะเป็นทุกข์และร้องไห้
(ลูกา 6:17, 20-26)








วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

นักบุญชื่นชมยินดีในความทุกข์


เวลานี้คุณเห็นแล้วว่า ทำไมบรรดานักบุญจึงชื่นชมยินดีในการถูกดูหมิ่นและได้รับการเบียดเบียน เป็นเพราะความทุกข์เหล่านี้เป็นของถวายที่พวกเขาจะมอบให้แก่พระเยซูเจ้าเมื่อพวกเขาสวดภาวนาถึงพระองค์ แล้วตัวฉันซึ่งเป็นสิ่งสร้างที่น่าสงสารได้ทำอะไรบ้าง ฉันให้อภัยแก่ผู้อื่นเพียงเล็กน้อยและสิ่งที่ต้องได้รับการอภัยสำหรับตัวเองนั้นมีมากมาย?
- นักบุญเทเรซา แห่ง อาวิลา

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ความรักและความถ่อมตน


ข้าพเจ้าขอพูดเช่นเดิมว่า ถ้าการอดอาหารของท่านปราศจากความถ่อมตน มันก็ไม่มีค่าอะไรและไม่ทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัย....บัดนี้,ตามคำสอนของอัครสาวก ทุกสิ่งที่กระทำโดยปราศจากความรัก ก็ไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ดังนั้นข้าพเจ้าก็จะพูดในทำนองเดียวกันกับนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ นั่นคือ ถ้าการอดอาหารของท่านปราศจากความถ่อมตน การอดอาหารของท่านก็ไม่มีคุณค่าอะไร เพราะถ้าท่านไม่มีความถ่อมตน,ท่านก็ไม่มีความรักและถ้าท่านไม่มีความรัก,ท่านก็ปราศจากความถ่อมตนด้วยเช่นกัน

มันเกือบเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในการที่จะมีความรักโดยปราศจากการถ่อมตน และการมีความถ่อมตนโดยปราศจากความรัก คุณธรรมทั้งสองประการนี้มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน คุณธรรมหนึ่งไม่สามารถมีอยู่ได้โดยปราศจากอีกคุณธรรมหนึ่ง

- นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ (1567-1622)นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

เมลคีเซเดคคือใคร?


ในภาษาฮีบรู คำว่ากษัตริย์คือ מלך (อ่านว่า Melch เมลเลค) 
 และคำว่า ความชอบธรรม ในภาษาฮีบรู คือ צדיק‎‎, (Tzedek ซิเดค)

คำว่า เมลคีเซเดค(Melchizedek) จึงแปลว่า กษัตริย์แห่งความชอบธรรม

เมลคีเซเดค(Melchizedek) เป็นกษัตริย์ของเมืองซาเลม(Salem) ซาเลม มีที่มาจากคำว่า Shalom ซึ่งแปลว่า สันติภาพ(Peace) คำเหล่านี้ให้วิสัยทัศน์บางอย่างแก่เรา

กษัตริย์เมลคีเซเดคแห่งเมืองซาเลม เป็นกษัตริย์แห่งความชอบธรรมและกษัตริย์แห่งสันติภาพด้วย (ฮีบรู 7:2). นอกจากนี้พระคัมภีร์ยังบอกว่า กษัตริย์เมลคีเซเดคเป็นสมณะสูงสุดของพระเจ้าอีกด้วย

ในหนังสือปฐมกาล สมัยนั้นยังไม่ได้เริ่มต้นมีสมณะเลย แต่พระคัมภีร์ได้พูดถึงเมลคีเซเดคซึ่งเป็นกษัตริย์และเป็นสมณะของพระเจ้าแล้ว

เมื่ออับราฮัมรบชนะข้าศึก, เมลคีเซเดคได้ออกมาพบอับราฮัมและนำขนมปังและเหล้าองุ่นมาให้ ทั้งอวยพรอับราฮัมในพระนามของพระเจ้าสูงสุด

การถวายขนมปังและเหล้าองุ่นของเมลคีเซเดคจึงเป็นรูปแบบของพระเมสสิยาห์,พระเยซูคริสต์ (ฮีบรู 6:20; ฮีบรู 7:2).และเป็นเครื่องหมายของพิธีกรรมในพิธีมิสซา

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ทำไมพระเยซูจึงทรงเขียนบนพื้นด้วยนิ้วของพระองค์


ใน ยอห์นบทที่ 8 เล่าว่า เมื่อบรรดาฟาริสีพาหญิงที่ถูกจับได้ว่าทำผิดประเวณีมาให้พระเยซูตัดสิน โดยพวกเขาบอกว่า”ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน ทำไมพระเยซูจึงทรงทำเช่นนั้น?

อพยพ 31:18 กล่าวว่า “เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสบนภูเขาซีนายแล้ว พระองค์ประทานแผ่นศิลาจารึกสองแผ่นให้เขา เป็นแผ่นศิลาที่ทรงจารึกด้วยพระหัตถ์ของพระองค์”

พระเยซูทรงเอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้น เท่ากับพระเยซูทรงปรารถนาที่จะบอกกับเราว่า พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงจารึกพระบัญญัติด้วยนิ้วพระหัตถ์บนศิลาและประทานศิลาสองแผ่นแก่โมเสส

และเป็นไปได้ว่าบนพื้นนั้นพระเยซูทรงเขียนพระบัญญัติหนึ่งในสิบประการ ซึ่งคงจะเป็นพระบัญญัติประการที่ 5 นั่นคือ "อย่าฆ่าคน"  เพราะฟาริสีต้องการให้พระองค์ทำตามกฎในเลวีนิติที่สั่งให้ลงโทษผู้ทำผิดประเวณีด้วยการเอาก้อนหินทุ่มให้ตาย แต่พระเยซูทรงล่วงรู้ถึงความคิดของพวกเขา ถึงแม้ว่าในพระบัญญัติข้อที่ 6 บอกว่า "อย่าทำผิดประเวณี"  แต่พระบัญญัติข้อที่ 5 มาก่อนบัญญัติข้อที่ 6 และในบัญญัติข้อที่ 6 ก็ไม่ได้สั่งให้ลงโทษผู้กระทำผิดแต่อย่างใด  พระบัญญัติของพระเจ้าย่อมใหญ่กว่ากฏเกณฑ์ของมนุษย์

พวกฟาริสีคิดแต่จะจับผิดพระเยซูเจ้าจนลืมและมองข้ามพระบัญญัติประการที่ 5 ที่สั่งว่า อย่าฆ่าคนและนำเอากฏเกณฑ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นเองมาใช้อย่างไร้ความเมตตา พระเยซูจึงทรงเขียนพระบัญญัติข้อที่ 5 เพื่อย้ำเตือนพวกเขา


ยอห์น 8:7-11 เล่าต่อไปว่า "เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”

พระเมตตาของพระเยซูเจ้ายิ่งใหญ่กว่าบาปใดๆทั้งสิ้น

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ฟรังซิสกับนก


พระองค์ประทานอิสระเสรีแห่งท้องฟ้านภากาศ,พวกเธอไม่ต้องหว่านข้าว,ไม่ต้องเก็บเกี่ยว
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ฉลองแม่พระแห่งลูรดส์


สิ่งที่เห็นไม่ใช่ภาพลวงตาที่เกิดจากความศรัทธาที่เกินจริงของผู้แสวงบุญ
>>>อ่านต่อ