Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู
  “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
  คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
  จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู
  “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
  คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
  จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)
วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566
ร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของนักบุญริต้า

สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ
+++++++++++++++++++++++++++
นี่เป็น ครั้งที่ 3 ในรอบ 60 ปี ที่มีการนำร่างกายอันบริสุทธิ์ของนักบุญริต้า ออกมาจากตู้กระจก กลิ่นหอมของดอกกุหลาบซึ่งเป็นลักษณะของ Saint Rita อบอวลไปทั่วทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
นักบุญริต้า เสียชีวิตในศตวรรษที่ 15 ร่างกายของเธอยังคงสภาพสมบูรณ์และมีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ กลิ่นหอมนี้จะฟุ้งไปทั่วสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
นักบุญริต้าบันดาลให้เกิดอัศจรรย์ในวันนี้ อาแมน!
วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566
อัศจรรย์การกลับใจอาศัยเสื้อจำพวก
เราควรจะมอบเสื้อจำพวก(Scapular) ให้กับผู้ที่ไม่ใช่คาทอลิกด้วย เพราะพระแม่มารีย์จะนำมาซึ่งการกลับใจแก่ผู้ที่จะสวมเสื้อจำพวกนี้และสวดบทวันทามารีย์วันละครั้ง ดังเรื่องจริงต่อไปนี้จะแสดงให้เห็น:
ชายชราคนหนึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาล St. Simon Stock ในนิวยอร์กซิตี้ เขาหมดสติและกำลังจะเสียชีวิต พยาบาลเห็นเสื้อจำพวกสีน้ำตาลบนตัวคนไข้ จึงโทรศัพท์เรียกพระสงฆ์ให้มาที่โรงพยาบาล ขณะที่พระสงฆ์กำลังสวดภาวนาให้ชายที่กำลังจะตาย เขาก็ได้สติและพูดขึ้นว่า
“คุณพ่อครับ ผมไม่ใช่คาทอลิก”
“แล้วทำไมคุณถึงสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาลนี่ล่ะ?” พระสงฆ์ถาม
“ผมสัญญากับเพื่อนว่าจะสวมมัน” ผู้ป่วยอธิบาย “และจะสวดภาวนาบทวันทามารีย์วันละหนึ่งครั้งด้วย”
“คุณกำลังจะตาย” พระสงฆ์บอกเขา “คุณอยากเป็นคาทอลิกไหม”
“ตลอดชีวิตของผม ผมอยากเป็นครับ” ชายที่กำลังจะตายตอบกลับ
เขารับศีลล้างบาป, รับศีลสำหรับผู้ใกล้ตาย และเสียชีวิตอย่างสงบ พระแม่มารีย์รับดวงวิญญาณอีกดวงหนึ่งภายใต้เสื้อคลุมของพระนางโดยอาศัยเสื้อจำพวกที่เขาสวมใส่นี้
วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566
พิธีมิสซาและวิญญาณในไฟชำระ

"เอากิจการดีทั้งหมดมารวมกันก็ไม่สามารถนำมาเทียบเท่ากับคุณค่าของมิสซาศักดิ์สิทธิ์แม้เพียงมิสซาเดียว เพราะกิจการดีเหล่านั้นเป็นงานของมนุษย์ แต่พิธีมิสซาเป็นงานของพระเจ้า" - นักบุญยอห์น เวียนเนย์,เจ้าอาวาสแห่งอารส์
เมื่อนักบุญยอห์นแห่งอาวิลาอยู่บนที่นอนในเวลาใกล้จะเสียชีวิต,บรรดาญาติถามท่านว่าท่านปรารถนาสิ่งใดมากที่สุดหลังมรณภาพ นักบุญตอบทันทีว่า "พิธีมิสซา....พิธีมิสซา.... ไม่มีอะไรอื่นนอกจากพิธีมิสซา
นักบุญเจอโรมเขียนว่า "สำหรับทุกๆมิสซาที่มีการประกอบด้วยความศรัทธา,วิญญาณจำนวนมากจะออกจากไฟชำระและขึ้นไปสู่สวรรค์”
พระโลหิตของพระเยซูเจ้าเป็นเสียงสวดภาวนาสำหรับวิญญาณในไฟชำระเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการช่วยให้วิญญาณพ้นจากไฟชำระ เพื่อนรักของบุญราศีเฮนรี ซูโซซึ่งได้เสียชีวิตไปและมาปรากฏแก่บุญราศีในสภาพที่เต็มไปด้วยความทุกข์เวทนาเป็นอย่างมากในไฟชำระได้ตำหนิบุญราศีว่า "คำภาวนาและการใช้โทษบาปของท่านไม่เพียงพอสำหรับฉัน ฉันต้องการพระโลหิตของพระเยซูเจ้า" แท้จริงแล้ว,พระโลหิตของพระเยซูเจ้าได้ชำระหนี้บาปของเรา ”
วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566
สาส์นแม่พระวันที่ 25 มิ.ย. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
องค์พระผู้สูงสุดทรงอนุญาตให้แม่มาอยู่ท่ามกลางพวกลูก---เพื่อสวดภาวนาเพื่อลูก,เพื่อเป็นแม่ของพวกลูกและเป็นที่ลี้ภัยของพวกลูก ลูกน้อยทั้งหลาย,แม่ขอให้ลูกกลับมาหาพระเจ้าและสวดภาวนา แล้วพระเจ้าจะทรงอวยพรพวกลูกอย่างอุดมบริบูรณ์
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2566
การพูดไม่ดีถึงคนอื่น
ครั้งหนึ่งคุณพ่อปีโอพูดว่า
เมื่อมีคนเราพูดถึงเพื่อนในทางไม่ดี เขาทำลายชื่อเสียงและเกียรติยศของพี่น้องที่มีสิทธิ์ได้รับความเคารพ
วันหนึ่ง คุณพ่อปีโอ กล่าวกับผู้มาพบกับท่านว่า "เมื่อคุณนินทาใครสักคน หมายความว่าคุณได้ลบคนๆนั้นออกจากใจของคุณแล้ว แต่ระวังไว้ เมื่อคุณลบคนนั้นออกจากใจ พระเยซูก็จะไปจากใจคุณพร้อมกับชายที่คุณลบเขาไปด้วย."
ครั้งหนึ่งคุณพ่อปิโอได้รับเชิญให้ไปอวยพรบ้าน แต่เมื่อท่านมาถึงทางเข้าห้องครัว ท่านพูดว่า: "ที่นี่มีงู ฉันไม่อยากเข้าไป" แล้วท่านก็พูดกับพระสงฆ์ผู้หนึ่งที่มักไปกินอาหารที่บ้านนั้นบ่อยๆว่า "อย่าไปบ้านนั้น เพราะเขาจะกล่าวร้ายพี่น้องของเขา"
วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2566
ความสมบูรณ์ครบครัน
ยิ่งมนุษย์เป็นอิสระจากความพึงพอใจในเรื่องทางโลกมากเท่าใด จิตใจของเขาก็จะยิ่งรักพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น นักบุญออกัสตินจึงกล่าวว่า "ความปรารถนาในสิ่งของชั่วคราวคือยาพิษของการทำดี การเติบโตของความดีคือการลดลงของความปรารถนาสิ่งของฝ่ายโลกนี้ และความสมบูรณ์ครบครันของความดีไม่ใช่ความปรารถนาสิ่งของฝ่ายโลก" ดังนั้น คำแนะนำทั้งหมดซึ่งเชื้อเชิญเราไปสู่ความสมบูรณ์ครบครันนั้น มีเป้าหมายที่สิ่งนี้คือ เพื่อให้จิตใจของมนุษย์หันเหจากความพึงพอใจในวัตถุทางโลก เพื่อที่จิตใจของเขาจะได้มีอิสระมากขึ้นสำหรับพระเจ้า โดยการพินิจใคร่ครวญถึงพระองค์,รักพระองค์,และทำตามพระประสงค์ของพระองค์
-นักบุญ โทมัส อไควนัส พูดถึงความสมบูรณ์ครบครันในความรักต่อพระเจ้า
วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566
การรักษาตนให้อยู่ในสถานะพระหรรษทาน

จิตวิญญาณได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยการรับศีลอภัยบาป,ซึ่งไม่เพียงได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากบาปเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มพูนพลังในการต่อต้านการประจญล่อลวงอีกด้วย ศีลมหาสนิทเรียกว่าปังแห่งสวรรค์ เพราะร่างกายไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากอาหารทางโลกฉันใด วิญญาณก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้หากปราศจากอาหารจากสวรรค์ฉันนั้น ถ้าท่านไม่กินเนื้อของบุตรแห่งมนุษย์และดื่มโลหิตของบุตรแห่งมนุษย์ ท่านจะไม่มีชีวิตอยู่ในตัวท่าน แต่ในทางกลับกัน สำหรับผู้ที่กินปังนี้บ่อยๆ จะได้รับชีวิตนิรันดร์ตามพระสัญญา ถ้าผู้ใดกินปังนี้ ผู้นั้นจะมีชีวิตนิรันดร์ ดังนั้นสภาแห่งเทรนต์จึงเรียกศีลมหาสนิทว่า'ยา',ซึ่งช่วยเราให้รอดพ้นจากโรคร้าย และปกป้องเราจากบาปหนัก
วิธีที่สามคือการรำพึงไตร่ตรองหรือที่เรียกว่าจิตภาวนา
เพื่อรักษาจิตวิญญาณให้อยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้า ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสวดภาวนาอยู่เสมอและทูลขอพระหรรษทานที่เราต้องการ
หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า,คริสตชนพึงระลึกถึงพระเจ้าเพื่อขอบคุณพระองค์, แสดงความรัก,การเทิดทูนบูชา, และความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงบาป พร้อมกับการสวดภาวนาต่อพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์เพื่อขอให้ทรงปกป้องเราจากบาป ในระหว่างวัน,เราควรอ่านหนังสือฝ่ายจิต,เฝ้าศีลมหาสนิทและเฝ้าพระรูปของแม่พระ ในเวลาเย็น,ให้เราสวดสายประคำ และสำรวจมโนธรรม เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องถวายเกียรติแด่พระแม่มารีย์ผู้บริสุทธิ์ที่สุดด้วยการแสดงความศรัทธาเป็นพิเศษ เช่น การจำศีลอดอาหารในวันเสาร์
#Catholic 4 Life
วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2566
อัศจรรย์จากนักบุญเบเนดิกต์
วันหนึ่ง,นักบุญเบเนดิกต์, เจ้าอาวาสผู้ยิ่งใหญ่ ( ค.ศ. 480-ค.ศ. 547) ซึ่งกำลังกลับมาที่โบสถ์จากการทำงานในไร่นา,ได้พบกับชาวนาผู้หนึ่งที่กำลังได้รับความทุกข์อย่างหนัก “เอาลูกชายฉันคืนมา! เอาลูกชายฉันคืนมา!” เขาร้องไห้.
เบเนดิกต์หยุดชะงัก
“แต่เราไม่ได้พรากลูกชายไปจากท่านนะ?”
"เขาตายแล้ว มาเถิด มาช่วยชุบชีวิตเขาขึ้นมา!" ชายผู้นั้นร้อง
สหายบางคนของเบเนดิกต์เริ่มเดินไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น ราวกับตั้งใจจะไปพร้อมกับบิดาที่กำลังเป็นทุกข์ผู้นี้ แต่เบเนดิกต์รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดที่ร้องขอเป็นนัยของบิดา ท่านพูดขึ้นว่า: "หยุดก่อนพี่น้อง! ถอยไป! อัศจรรย์เช่นนี้อยู่นอกเหนืออำนาจของเรา มีแต่อัครสาวกผู้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถชุบชีวิตคนตายได้ ทำไมพวกท่านถึงเป็นเช่นนั้น กระตือรือร้นที่จะยอมรับในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา” นักบุญพูดด้วยความถ่อมตน
แต่ชายคนนั้นขอร้องต่อไป เขาสาบานด้วยว่าเขาจะไม่ยอมจากเบเนดิกต์ไปจนกว่านักบุญจะคืนชีวิตให้กับลูกชายของเขา เบเนดิกต์อาจมีปัญหากับคำสาบานของชายผู้นี้ ท่านถามชายคนนั้นว่าศพอยู่ที่ไหน ผู้เป็นบิดาบอกนักบุญว่าเขาทิ้งศพไว้ที่ประตูอารามและมาตามหาเบเนดิกต์หลังจากได้รับแจ้งว่าท่านไม่อยู่
เมื่อทุกคนมาถึงประตูอาราม นักบุญคุกเข่าลงข้างๆร่างที่ไร้ชีวิตแล้วโน้มตัวลงเหนือร่างนั้น แล้วท่านก็ยืนยกมือขึ้นสวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระเจ้า, ขออย่าทรงพิจารณาถึงบาปของข้าพระองค์ แต่โปรดทอดพระเนตรความเชื่อของชายผู้นี้ซึ่งขอให้เห็นบุตรของเขามีชีวิตอีกครั้ง และโปรดทรงนำวิญญาณที่พระองค์ทรงพรากไปจากร่างนี้กลับคืนสู่ร่างนี้ด้วยเทอญ” คำอธิษฐานภาวนาของเบเนดิกต์จบลง,และร่างกายของเด็กก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีก ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ต่างก็ให้การอัศจรรย์ว่าเป็นการช่วยเหลือจากสวรรค์ เป็นอีกครั้งที่นักบุญได้ชุบชีวิตเด็กให้กลับมามีชีวิตและมีความสุขในอ้อมแขนของบิดาที่เปี่ยมล้นด้วยความยินดี
- Source: Raised from the Death
วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2566
มรณกรรมของนักบุญแอนโทนีแห่งปาดัว
ความยินดีอย่างยิ่งของชาวปาดัวคือการที่ศพถูกย้ายจากอาร์เซลลา(Arcella)ไปยังเซนต์แมรีซึ่งเป็นโบสถ์ของนักบุญในปัจจุบัน
>>>อ่านต่อ
วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2566
การประกวดที่ไม่เกิดขึ้น
นักบุญโบนาเวนตูราผู้ซึ่งปรารถนาให้วันสมโภชนี้เป็นประโยชน์ที่สุดต่อพระศาสนจักรคาทอลิกและถวายเกียรติแด่พระเจ้าอย่างสูงสุด
>>>อ่านต่อ
วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2566
ข้อคิดจากคุณแม่เทเรซา
“ปีศาจอาจพยายามใช้ความเจ็บปวดในชีวิตของเรา,และบางครั้งมันใช้ความผิดพลาดของเราเพื่อทำให้เรารู้สึกว่า เป็นไปไม่ได้ที่พระเยซูทรงรักเราจริง,สิ่งนี้ฝังแน่นอยู่กับเรา มันเป็นอันตรายสำหรับเราทุกคน,และน่าเศร้าใจมาก,เพราะมันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พระเยซูทรงประสงค์,และทรงรอคอยที่จะบอกกับเราว่า...พระองค์ทรงรักเราเสมอ,แม้แต่เวลาที่เรารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า”
~ นักบุญคุณแม่เทเรซา แห่งกัลกัตตา
วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566
โจน ออฟ อาร์ค
สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือการที่เธอกลายเป็นผู้แพร่ธรรมในหมู่ทหารฝรั่งเศส เธอให้กำลังใจพวกเขาในการปฏิบัติตามความเชื่อ
>>>ดูเพิ่มเติม
วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566
เอาชนะความซึมเศร้าด้วยความยินดี
เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีศาจเมื่อมันสามารถพรากเราจากความชื่นชมยินดีของชีวิตฝ่ายจิตได้
มันนำเอาฝุ่นแห่งความเศร้าที่ละเอียดใส่ไว้ในกล่องเล็กๆ และโปรยฝุ่นผ่านรอยร้าวของมโนธรรมของเราเพื่อทำให้แรงกระตุ้นอันบริสุทธิ์และความสวยงามของวิญญาณมืดบอดไป
แต่ความยินดีที่เต็มเปี่ยมในจิตใจของผู้ดำเนินชีวิตฝ่ายจิตได้ทำลายพิษร้ายของเจ้างูร้าย………
ส่วนคนที่ซึมเศร้าและคิดว่าตนถูกทอดทิ้งในความโศกเศร้าของเขา,ความซึมเศร้าก็จะฉีกทำลายพวกเขาอย่างต่อเนื่อง หรือมิฉะนั้นเขาก็จะเสียไปในความหลากหลายที่ว่างเปล่า
เมื่อความซึมเศร้าหยั่งรากลึก, ความชั่วร้ายก็เติบโต, หากไม่ถูกทำให้ละลายไปด้วยน้ำตา, ความเสียหายถาวรก็เกิดขึ้น”
- นักบุญฟรังซิส อัสซีซี
วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566
พระตรีเอกภาพ

คาทอลิกเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวที่ประกอบด้วยสามพระบุคคลที่แตกต่างกันและเท่าเทียมกันคือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต - เพราะในหลายครั้งพระเจ้าได้อธิบายพระองค์เองดังนี้
ในพันธสัญญาเดิมบอกเป็นนัยว่าในพระเจ้าทรงมีมากกว่าพระบุคคลเดียว ปฐมกาล 1:26 พระเจ้าตรัสว่า "ให้เราสร้างมนุษย์ตามรูปลักษณ์ของเรา"
ในอิสยาห์ 9:6-7 พระเจ้าพระบิดาทรงเปิดเผยการเสด็จมาในโลกของพระเจ้าพระบุตรที่ใกล้เข้ามา
ในสดุดี 2:7 เราพบว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ท่านเป็นบุตรของเรา ในวันนี้เราได้ให้กำเนิดท่าน"
และในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าทรงเปิดเผยหลักคำสอนนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ในพิธีล้างของพระเยซูคริสต์ พระจิตทรงปรากฏมาในรูปของนกพิราบ และได้ยินเสียงของพระเจ้าพระบิดาว่า: "นี่คือบุตรสุดที่รักของเรา (มธ. 3:16-17).
ในมัทธิว. 28:19 พระคริสตเจ้าทรงบัญชาอัครสาวกให้ล้างบาป "ในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระจิต" และใน 1 คร. 12:4-6 กล่าวถึงพระเจ้าด้วยพระนามสามพระนาม คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต
#Catholic 4 Life
วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)