พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด

           พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)








วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ด้วยสายตาแห่งความเชื่อ

  สายตาแห่งความเชื่อคืออะไร?
สายตาแห่งความเชื่อ คือสายตาที่เราใช้มองดูสิ่งที่ไม่ใช่ของโลกนี้แต่เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่า  เป็นสายตาที่มองไปในอนาคต  เป็นสายตาที่สามารถแยกแยะสิ่งถูกและผิดและสามารถทำให้เห็นหนทางที่จะมุ่งไปสู่สิ่งที่ดี
เรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์ทั้งหมดบอกว่า  พระเป็นเจ้าทรงยกย่องผู้มีความเชื่อ  ความเชื่อหมายถึงความมั่นใจในพระเป็นเจ้า   ยอมให้พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งต่อเราและนำทางเราไปในทุกแห่งทุกสถานการณ์ตามพระประสงค์ของพระองค์  ด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระองค์  และเป็นแผนการของพระองค์ที่ทรงมีต่อชีวิตของเรา
ถ้ามีบางคนพูดถึงบางเรื่องเกี่ยวกับคุณในทางที่ไม่ดี?
จงสลัดมันทิ้งไปเสียจากชีวิตของคุณเหมือนสลัดฝุ่นดินออกจากรองเท้าของเรา  จงเรียนรู้ในเรื่องนี้เป็นอันดับแรก – คือสลัดละทิ้งสิ่งที่คนอื่นพูดหรือคิดถึงเราในทางที่ไม่ดี  มีบางเวลาที่เราทำสิ่งที่ถูกต้อง  แต่บ่อยครั้งปีศาจจะล่อลวงให้เราทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง  ทำให้เราตาบอดและเกิดความกลัว  เพื่อทำให้เราหมดกำลังใจ
ทันทีที่มันปรากฏต่อเรา  เราต้องรีบปฏิเสธมัน   เราต้องขุดรากของมันออกจากใจของเราทันที
ถ้าเราทำเช่นนี้บ่อยๆ  เราจะเรียนรู้วิธีในการกำจัดปีศาจได้ง่ายขึ้น
ขั้นต่อไป  เราต้องมองตัวเองในแสงสว่าง  อย่างที่พระเป็นเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นเรา  พระองค์ทรงรักเรายิ่งกว่าเรารักตัวเราเองเสียอีก  จงมองดูตัวเองตามความเป็นจริง – นี่เป็นพลังที่จะทำให้คุณกลายเป็นผู้รับใช้ที่ดีของพระเป็นเจ้าในนิรันดรภาพ  พระเป็นเจ้าทรงทราบดีว่า  ภายใต้เนื้อหนังแห่งร่างกายนี้  และส่วนลึกของชีวิตที่เต็มไปด้วยการดิ้นรนนี้  เป็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายในซึ่งพร้อมจะเปิดเผยออกมา  เหมือนดังเช่นดักแด้ที่อยู่ในรังเส้นใย  ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะออกมาจากรังเส้นใยกลายเป็นผิเสื้อที่สวยงามบินโผผินไปในอากาศ
เราจะสวยงามเช่นนี้ได้อย่างไรหรือ?  เราต้องกลับไปที่เรื่องสายตาแห่งความเชื่อ  ด้วยสายตานี้เรามองข้ามความวุ่นวายของปัจจุบัน – มองข้ามปัญหาทุกอย่าง – และหันไปมองดูสิ่งดีๆที่มีอยู่  สิ่งที่เราต้องการให้เกิด  บุคคลที่เราต้องการเป็นเหมือนเขา
และถ้าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า  สิ่งนั้นคือเส้นทางที่เราต้องเดินตาม  เมื่อเรายกสายตาของเราขึ้นมองข้ามบุคคลที่ทำร้ายเรา  มองข้ามการทดลองต่างๆของโลกไม่ว่ามันจะร้ายกาจสักเพียงใด  นั่นเป็นเส้นทางเดินแห่งความรุ่งเรืองของเรา
บนกางเขน  พระเยซูคริสต์ทรงทอดพระเนตรขึ้นเบื้องบน  สวรรค์อยู่ในจิตใจของพระองค์แม้ว่าพระองค์ทรงถูกตรึงอยู่บนกางเขน  และพระองค์ทรงมอบสวรรค์ให้แก่โจรที่ถูกตรึงพร้อมกับพระองค์
ในทางตรงข้าม  ปีศาจต้องการให้เราสูญเสียความหวัง  ต้องการให้เราหมดกำลังใจ  ต้องการให้เราคิดว่าเราตกต่ำจนไม่สามารถขึ้นมาจากหลุมแห่งความตกต่ำนั้นได้  มันพยายามขัดขวางเราไม่ให้สวดภาวนา  แต่มันจะทำไม่สำเร็จถ้าเราจะสลัดมันทิ้งไปเสียด้วยการเอ่ยพระนามของพระเยซูเจ้า
เพราะฉะนั้นในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกท้อแท้ใจ  จงสลัดละความรู้สึกนั้น  เริ่มต้นสวดภาวนา  ในการภาวนานี้ให้คุณมองตนเองและสภาพของคุณในแสงสว่าง  มองดูปัญหาต่างๆของคุณที่ค่อยๆละลายหายไป  มองดูพระคริสตเจ้าผู้ทรงกำลังพยุงคุณให้ลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ปีศาจจะมีอำนาจก็ต่อเมื่อคุณยอมมัน  พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ปกครองเหนือทุกสิ่งและทุกสถานการณ์  พระองค์ทรงเป็นความยินดีและสันติสุข  ผู้ทรงกำลังรอคอยคุณและรักคุณมากเกินกว่าที่คุณคิด  แต่พระองค์ทรงรอให้คุณยกสายตาแห่งความเชื่อของคุณขึ้น  มองดูดินแดนแห่งความชื่นชมยินดีและเข้ามาสู่ดินแดนนี้

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

An Exorcist Tells His Story 2/3

คุณพ่อกาเบรียล เอมอร์ท Fr Gabriele Amorth เป็นพระสงฆ์ผู้พิธีขับไล่ปีศาจแห่งกรุงโรม  ท่านเคยทำพิธีนับร้อยครั้งในหลายปีที่ผ่านมา  ท่านเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีชื่อ An Exorcist Tells His Story  และ An Exorcist: More Stories.  บทความข้างล่างนี้กล่าวถึง “อำนาจของซาตาน” โดยนำมาจากหนังสือ An Exorcist Tells His Story (pages 25-36)
........อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ถ้าพระเยซูเจ้่าเกิดเป็นชาวเกาหลี

พระเยซูเจ้าเป็นชาวยิว  แต่ภาพวาดของพระเยซูเจ้าแสดงออกถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ  บางทีเรื่องนี้อาจเป็นสัญญลักษณ์ในความจริงที่ว่าพระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อทุกชนชาติในโลก.....อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สาส์นแม่พระ 2-25 มิ.ย. 2015

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 มิ.ย. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้องค์พระผู้สูงสุดทรงประทานพระหรรษทานแก่แม่ให้สามารถรักลูกและเรียกลูกให้กลับใจ
ลูกน้อยทั้งหลายของแม่  ขอให้วันพรุ่งนี้ของลูกคือพระเป็นเจ้าไม่ใช่สงครามและการขาดสันติภาพ  หาใช่ความโศกเศร้าไม่แต่เป็นความชื่นชมยินดีและสันติสุขที่ต้องเริ่มปกครองให้หัวใจของลูกทุกคน – แต่หากปราศจากพระเป็นเจ้า  ลูกจะไม่มีวันพบสันติภาพ
เพราะฉะนั้น  ลูกน้อยทั้งหลาย  จงหันกลับมาหาพระเป็นเจ้าและการสวดภาวนาเถิด  เพื่อที่หัวใจของพวกลูกจะบรรเลงเพลงด้วยความชื่นชมยินดี

แม่อยู่กับพวกลูกเสมอและรักลูกด้วยความรักอันมิอาจประมาณวัดได้
ขอขอบใจลูกที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
 
  สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 มิ.ย. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
       
แม่ปรารถนาที่จะทำงานโดยอาศัยพวกลูกผู้เป็นอัครสาวกของแม่  เพื่อที่ในวาระสุดท้ายแม่จะได้รวบรวมพวกลูกให้มาอยู่รวมกันในสถานที่ที่ได้ตระเตรียมไว้สำหรับความสุขของลูก
        แม่สวดภาวนาให้พวกลูก  เพื่อให้งานของลูกจะทำให้คนอื่นกลับใจ  เพราะเวลาได้มาถึงแล้วที่จะกระทำกิจการแห่งความจริงสำหรับองค์พระบุตรของแม่
         ความรักของแม่จะทำงานในตัวลูก  แม่จะใช้พวกลูก
         จงวางใจในแม่เถิด  เพราะทุกสิ่งที่แม่ปรารถนานั้น  แม่ปรารถนาเพื่อความดีของลูก  ความดีนิรันดรซึ่งถูกสร้างโดยพระบิดาเจ้าสวรรค์
          พวกลูกผู้เป็นอัครสาวกของแม่  ลูกกำลังดำเนินชีวิตในโลกนี้พร้อมกับบรรดาลูกคนอื่นๆของแม่ซึ่งยังไม่มารู้จักกับความรักขององค์พระบุตรของแม่  พวกเขายังไม่ได้เรียกแม่ว่า “แม่”  แต่จงอย่ากลัวที่จะเป็นพยานยืนยันความจริง     

          ถ้าลูกไม่กลัวและเป็นพยานอย่างกล้าหาญ  ความจริงจะได้รับชัยชนะอย่างอัศจรรย์  แต่จงจำไว้ว่า  พละกำลังอันแข็งแกร่งอยู่ในความรัก
          ลูกทั้งหลายของแม่  ความรักคือการสำนึกผิด  ความรักคือการให้อภัย  ความรักคือการสวดภาวนา  ความรักคือการเสียสละและความเมตตา
          ถ้าเพียงแต่ลูกรู้จักวิธีที่จะรัก  กิจการของลูกจะทำให้คนอื่นกลับใจได้  ลูกจะสามารถส่องแสงสว่างขององค์พระบุตรของแม่

ขอขอบใจลูก

       จงสวดภาวนาเพื่อนายชุมพาบาลของลูกด้วย  พวกท่านเป็นขององค์พระบุตรของแม่  พระองค์ทรงเรียกพวกท่านมา  จงสวดภาวนาเพื่อที่พวกท่านจะได้มีพละกำลังและความกล้าหาญเสมอในการส่องแสงสว่างขององค์พระบุตรของแม่