พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด

           พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)








วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์2


การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์เริ่มต้นที่ประเทศโปแลนด์เป็นประเทศแรก  แต่ก่อนหน้านี้รัฐบาลคอมมิวนิสต์ในโปแลนด์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในด้านการปกครอง
Edward Gierek เลขาธิการอันดับหนึ่งของพรรค Polish United Workers (คอมมิวนิสต์ PZPR) ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 1980  เป็นผู้นำที่แท้จริงของพรรคและรัฐ  ภายใต้การนำของเขา คนในประเทศมีความสุขกับการบูมของเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ก็สิ้นสุดลงด้วยวิกฤตที่หนักหนาที่สุดนับตั้งแต่สงคราม
ในโปแลนด์มีการจัดวันแรงงานประจำปีมีจุดประสงค์เพื่อ แสดงออกถึงการสนับสนุนของมวลชนที่มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งปกครองประเทศ ตัวแทนจากบริษัทต่างๆ และโรงงานผลิต โรงเรียน มหาวิทยาลัย องค์กรทางสังคม และกองทัพ รวมทั้งนักแสดงและนักดนตรีที่มีชื่อเสียงได้ร่วมเดินและโบกมือให้กับผู้ที่มีตำแหน่งสูงในพรรคการเมืองซึ่งมองลงมาจากพลับพลา ขบวนพาเหรดได้รับการออกอากาศทางโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของการเฉลิมฉลองต้องถูกรบกวนด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าบุคคลที่ไม่เข้าร่วมในขบวนพาเหรดจะประสบกับการข่มขู่คุกคามในที่ทำงาน 

 
 
ขบวนพาเหรดในวันแรงงานภายใต้เงาที่เป็นลางร้ายของพระราชวังแห่งวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ (Palace of Culture and Science)

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ก้อนเมฆรูปแม่พระที่ประเทศทองก้า


7 ก.พ. 2017 ประชาชนหลายคนที่อยู่บนเกาะในประเทศทองก้าทางแปซิฟิกต้อนใต้ได้เห็นและถ่ายรูปสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นรูปแม่พระบนท้องฟ้า ก้อนเมฆนี้ไม่เหมือนก้อนเมฆอื่นเพราะคงอยู่เป็นเวลานานและเด่นชัดขึ้นมากกว่าก้อนเมฆอื่นๆ

 

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พระพรแห่งลูรดส์


อัศจรรย์ของการเคารพศีลมหาสนิท


“ในตอนนั้นพวกเขากำลังจะปิดสามเณราลัยเพราะมีสามเณรเพียงแค่ 8 คนเท่านั้น  แต่เวลานี้จำนวนสามเณรเพิ่มขึ้นเป็น 88 คน พระสังฆราชบอกผมว่าสามเณรเหล่านี้ได้เข้าร่วมการเคารพศีลมหาสนิทในชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ด้วย”
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วาทะของนักบุญฟรังซิส.เดอ.ซาลส์

ต่อไปนี้เป็นวาทะของท่านนักบุญที่จะช่วยให้เรามีความรักในพระเยซูเจ้าและแม่พระมากขึ้น
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พลังอำนาจของการสวดภาวนา4

เราต้องไม่สวดภาวนาเหมือนกับ “การพร่ำบ่นคาถา” การที่ได้รับการตอบสนองต่อคำอธิษฐานภาวนาของเรานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้คำพูดที่สวยหรู  และไม่มีประโยคหรือคำพูดที่เฉพาะเจาะจงเพื่อทำให้พระเป็นเจ้าทรงตอบสนองการวอนขอของเรา  ในทางตรงกันข้าม พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา  จงอย่าทำเหมือนคนต่างศาสนา  เขาคิดว่าถ้าเขาพูดมากพระเจ้าจะทรงสดับฟัง อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะพระบิดาทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการอะไรก่อนที่ท่านจะขอเสียอีก” (มท. 6:7-8)  การสวดภาวนาเป็นการสื่อสารกับพระเป็นเจ้า สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์ สดุดีที่ 107 28-30 เตือนเราว่า “เมื่อพวกเขาร้องขอต่อพระเป็นเจ้าในความทุกข์ยากของพวกเขา  พระองค์ก็ทรงนำพวกเขาออกมาจากความทุกข์นั้น พระองค์ทรงทำให้พายุอ่อนกำลังลง  ทรงทำให้คลื่นในทะเลเงียบสงบ แล้วพวกเขาก็ยินดีเมื่อทุกสิ่งเป็นปกติ พระองค์ทรงนำพวกเขาไปสู่ที่หลบภัยตามที่พวกเขาต้องการ”การสวดภาวนามีพลังอำนาจมากยิ่งนัก