ในราตรี ที่มืดมน บนโลกนี้ |
เวลาที่ บุตรอาดัม ร้องครวญคร่ำ
|
และลูกหลาน ของเอวา ทุกข์ระกำ |
ถูกปีศาจ ล่อลวงซ้ำ อยู่ร่ำไป |
พระเจ้าทรง สัญญา ว่าจะมี |
ยอดสตรี งดงาม ความสดใส |
บุตรของนาง จะปราบ กำหราบภัย |
พระนางไซร้ จะมีชัย ต่อมารร้าย |
ธ.มั่นคง รักษา พระสัญญา |
พระวาจา ไม่มี เสื่อมสลาย |
ทรงเลือกสรร อับราฮัม ให้ยิ่งใหญ่ |
เปิดทางให้ พระผู้ไถ่ เสด็จมา |
ครั้นเมื่อถึง เวลา พระกำหนด |
พระทรงยศ ส่งกาเบรียล ลงมาหา |
สตรีหนึ่ง นามว่า มารีอา |
ที่หมู่บ้าน นาซาเร็ธ เขตนคร |
ทูตสวรรค์ กาเบรียล มาแจ้งสาส์น |
แก่พระนาง มารีย์ ศรีสมร |
เธอได้รับ เลือกสรร เป็นมารดร |
พระภูธร ทรงฤทธิ์ นิจนิรันดร์ |
มารีย์ทรง ทราบความ ตามประสงค์ |
แห่งพระองค์ ผู้ดำรง สรวงสวรรค์ |
ทรงตระหนัก สำคัญใน ฤทัยนั้น |
ธ.เชื่อฟัง โดยพลัน ดำรัสไป |
ข้าพเจ้า เป็นเพียง ผู้รับใช้ |
ขององค์ไท้ ทรงฤทธิ์ อดิศร |
โปรดทำตาม พระประสงค์ องค์ภูธร |
แก่นิกร ผู้ต่ำต้อย น้อยค่าเทอญ |
บัดนั้น สรวงสวรรค์ พลันยินดี |
พระภูมี ปรีด์เปรม เกษมสันต์ |
อัญเชิญ องค์พระบุตร รุดโดยพลัน |
สู่พระครรภ์ มารีย์ สดศรีเอย |
|
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566
พระนางมารีย์ทรงรับสาส์น
**********************
วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2566
พระสังฆราชในชุดขาว
ฉันเห็นพระสันตปาปาในบ้านหลังใหญ่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆโต๊ะโดยมีมือป้องกันศีรษะไว้และกำลังร้องไห้
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2566
ผลจากบาปของลูซีเฟอร์
“เมื่อบาปของลูซิเฟอร์ทำให้ระเบียบของสวรรค์กลายเป็นความไร้ระเบียบ ความสยดสยองครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นกับทูตสวรรค์ทุกองค์ ความดีงามของทูตสวรรค์ถูกทำลายลงแล้ว ความเกลียดชังก็บังเกิดขึ้น ด้วยความงุนงงสับสน,พวกเราร้องไห้เพราะความเจ็บปวดของพระเจ้าและพระพิโรธของพระองค์ พวกเราร้องไห้ให้กับสันติสุขของสวรรค์ที่เปลี่ยนแปลงไป, เรารู้สึกท้อแท้และสงสัยว่า 'ความบริสุทธิ์มากเช่นนี้ไร้ประโยชน์จริงหรือ? ใครเล่าที่จะสามารถมอบความรักแด่พระเจ้าได้ดังที่พระองค์ทรงเรียกร้องและสมควรได้รับ ถ้าแม้แต่พวกเราก็ยังทำบาปก็ตาม? เวลานั้นเองที่เราเห็นพระนางมารีย์,ทรงได้รับการเปิดเผยในพระราชดำรินิรันดร โอ้, ความงดงามของช่วงเวลานั้น,ได้ปลอบประโลมใจเหล่าทูตสวรรค์, องค์นิรันดรทรงประทานอัญมณีแห่งความรักและทรงอำนาจของพระองค์แก่พวกเรา! และเราเห็นพระนางทรงถ่อมพระองค์ยิ่งนัก,ทรงถวายสักการะโดยลำพังพระนางเองเพื่อทดแทนความหยิ่งจองหองของบรรดาสิ่งสร้างทั้งหมด เป็นเวลานานมากแล้วที่เราทำงานในความอ่อนหวานของการเปิดเผยอันเจิดจ้าแห่งช่วงเวลานั้น ตลอดชั่วนิรันดร,เราชื่นชมยินดีที่ได้ครอบครองพระนางซึ่งเราใคร่ครวญถึงในจิตวิญญาณ”
- คำบอกเล่าของอาซาริยาห์ อารักขเทวดาของมาเรีย วัลตอร์ตา
วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า 2
จงเขียนถ้อยคำเหล่านี้ลงไป,ลูกสาวของเรา,พูดให้โลกรู้เกี่ยวกับพระเมตตาของเรา, จงบอกให้มวลมนุษยชาติรับรู้ถึงพระเมตตาอันสุดจะหยั่งถึงได้ของเรา พระเมตตาเป็นหมายสำคัญบอกถึงวาระสุดท้าย หลังจากนั้น,วันแห่งพระยุติธรรมก็จะมาถึง ขณะที่ยังมีเวลาอยู่, ให้พวกเขาหันกลับมาหาน้ำพุแห่งพระเมตตาของเรา; ให้พวกเขาได้รับประโยชน์จากพระโลหิตและน้ำที่ไหลพุ่งออกมาเพื่อพวกเขา
โอ วิญญาณมนุษย์เอ๋ย, เจ้าจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า จงหลบภัยณ.บัดนี้ในน้ำพุแห่งพระเมตตาของพระเจ้าเถิด โอ้ เราเห็นวิญญาณมากมายยิ่งนัก! พวกเขานมัสการพระเมตตาของพระเจ้าและจะร้องเพลงสรรเสริญชั่วนิรันดร์ (ไดอารี่, 848)
คำภาวนาของข้าพเจ้า:
ข้าแต่พระเยซูเจ้า, เราขอสวดภาวนาร่วมกับนักบุญโฟสตินา อัครสาวกผู้ยิ่งใหญ่แห่งพระเมตตา: โปรดช่วยพวกเราให้หลบภัย ณ น้ำพุแห่งพระเมตตาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เถิด ขอให้เราจมอยู่ในมหาสมุทรแห่งพระเมตตาของพระองค์, เพื่อว่าแม้ในบัดนี้เราจะได้ “ร้องเพลงแห่งพระเมตตาของพระเจ้าตลอดไป” (สดุดี 89:2):
วันพุธที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2566
พระเจ้าทรงทราบความอ่อนแอของเรา
“พระเยซูเจ้าไม่เคยร้องขอการเสียสละมากเกินกำลังของเรา บางครั้ง, เป็นความจริงที่พระผู้ช่วยให้รอดองค์นี้ทำให้เรารู้สึกถึงความขมขื่นของถ้วยกาลิกษ์ที่พระองค์ทรงประทานแก่จิตวิญญาณของเรา เมื่อพระองค์ทรงร้องขอให้เราเสียสละของทุกสิ่งอันมีค่าในโลกนี้, มันจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากปราศจากพระหรรษทานพิเศษ,ที่จะทำให้เราไม่ร้องไห้ออกมา,เหมือนเช่นพระองค์ในสวนแห่งความทุกข์โศก... เป็นการปลอบใจอย่างยิ่งที่คิดว่าพระเยซู, พระเจ้าผู้เข้มแข็ง, ทรงทราบถึงความอ่อนแอของเรา"-
- นักบุญเทเรซาแห่งลิซิเออซ์:
วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2566
วิญญาณในไฟชำระช่วยเหลือเราในเวลาใกล้ตาย
พระคาร์ดินัลบาโรเนียส(Cardinal Baronius)นักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโดดเด่น เล่าใน Ecclesiastical Annals ว่าบุคคลหนึ่งซึ่งมีคุณธรรมที่หาได้ยากพบว่าตัวเองถูกโจมตีอย่างหนักในช่วงเวลาแห่งความตายของเขา และในความโศกเศร้าของเขา,เขาเห็นท้องฟ้าเปิดออกและนักรบราวแปดพันคนสวมชุดเกราะสีขาวได้ลงมาในทันทีเพื่อให้กำลังใจเขาโดยให้ความมั่นใจแก่เขาว่า พวกเขามาเพื่อช่วยเขาในการต่อสู้กับความสงสัย การปลอบประโลมใจอย่างเหลือล้นและด้วยน้ำตาที่หลั่งออกมา,เขาขอให้นักรบเหล่านั้นช่วยบอกให้รู้ว่าพวกเขาเป็นใครและทำไมจึงมีความผูกพันกับเขา พวกเขาตอบว่า "เราเป็นวิญญาณที่ท่านได้ช่วยไว้และท่านได้ปลดปล่อยพวกเราออกจากไฟชำระ บัดนี้,เพื่อเป็นการตอบแทนความกรุณาของท่าน, เราจึงลงมาเพื่อนำท่านสู่สวรรค์ทันที" หลังจากนั้นเขาก็เสียชีวิต
วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2566
คริสตชนทุกนิกายจะรวมกัน
11 ตุลาคม 2504: การาบังดัล
คำชี้แจงครั้งแรกของการเปิดเผยที่สำคัญของวันที่ 1 ตุลาคม 1961:
อนาคตของ "การเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ของคริสตชนทุกคนนิกาย"
การสนทนาระหว่างคุณพ่อหลุยส์(Father Luis)กับผู้เห็นแม่พระแห่งการาบังดัล ดูเหมือนว่าสำหรับเราแล้วจะเป็นไปในเชิงบวกสำหรับคริสตชนเสมอ เนื่องในวันสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีของพระเจ้า,คุณพ่อหลุยส์และคอนชิตาพูดถึงคำทำนายพิเศษนี้ซึ่งแม่พระทรงเปิดเผยบางส่วนแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา: "อา คริสตจักรต่างๆจะกลับมารวมกันอีกครั้ง . . . ใช่ค่ะ,พวกเขาจะกลับมารวมกันอีกครั้ง! . . " คอนชิตารู้สึกยินดีกับการลงข่าวคำทำนายนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 1965 เธอได้พูดมาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 1961 เธอได้ยืนยันความถูกต้องของการเปิดเผยอันยิ่งใหญ่นั้นต่อบรรณาธิการชาวเยอรมัน อัลเบรชท์ เวเบอร์ เธอยังชี้แจงถึงสิ่งที่พระแม่มารีย์ทรงบอกเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ของพระศาสนจักรที่จะมาถึง
“พระนาง (แม่พระ) บอกเราอีกครั้งว่าคริสตจักรที่แตกแยกจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จะมี 'ศาสนา' เพียงหนึ่งเดียว คำแปลที่ดีกว่า: "คริสตจักรคริสเตียนจะเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรคาทอลิก"
เมื่อพิจารณาถึงการเปิดเผยเชิงพยากรณ์ดังกล่าว ความหมายและขอบเขตของ "พระศาสนจักรหนึ่งเดียว สากล(คาทอลิก),สืบเนื่องมาจากอัครสาวก, และพระศาสนจักรแห่งโรมัน" ที่บรรดาผู้เห็นแม่พระแห่งการาบังดัลประกาศด้วยความปีติยินดีเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 สิงหาคม 1961 ในขณะที่พวกเขาอยู่ในญาณนิมิตและกำลังสวดบทข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า
นำมาจากหนังสือ 'Garabandal', J. Serre, หน้า 107
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)