พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรียนภาษาจีนในวันคริสต์มาส



คริสต์มาส เป็นการฉลองวันประสูติของพระเยซูเจ้า  ไม่ใช่ วันเกิดของซานตาคลอส นะครับ

กษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดน


LOS ANGELES, CA (Catholic Online) ในระหว่างการให้สัมภาษณ์  กษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดน ตรัสว่า กลุ่ม ISIS เป็นปัญหาของชาวมุสลิม  และชาวมุสลิมทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดคนพวกนี้
“เราต้องลุกขึ้นพูดยืนยันว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด  นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนา  นี่เป็นความชั่วร้ายและพวกเราทุกคนต้องตัดสินใจ” พระองค์ตรัส
“เราต้องลุกขึ้นพูด  นี่เป็นเส้นที่ขีดลงบนพื้นทราย  คนที่เชื่อในความถูกต้องจะมายืนทางด้านนี้  และคนที่ยังไม่ยอมตัดสินใจต้องไปยืนฝั่งตรงข้าม  มันชัดเจนว่านี่เป็นการต้อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว  ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นสงคราม  ดังที่ข้าพเจ้าพูดกับประธานาธิบดีปูติน  ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นสงครามโลกครั้งที่สามของพวกเรา”
กษัตริย์อับดุลลาแห่งจอร์แดน ทรงเตือนว่าโลกกำลังอยู่ชายขอบของสงครามโลก  และกลุ่ม ISIS เป็นตัวการในเรื่องนี้
กลุ่มนี้ได้ฆ่าชาวอิรักและซีเรียนับพันคน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คริสตชนและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ  อาสาสมัครชาวสหรัฐและอังกฤษก็ถูกจับตัวและฆ่าโดยกลุ่มนี้ด้วย
กษัตริย์อับดุลลาไม่ทรงคาดหวังว่า  การโจมตีทางเครื่องบินของสหรัฐต่อกลุ่ม ISIS จะเป็นการเพียงพอ “เราจำเป็นต้องมียุทธวิธีที่ดีและมากกว่านี้เพื่อจัดการกับองค์การเหล่านี้ซึ่งเรียกชื่อแตกต่างกัน แต่มีความเชื่ออย่างเดียวกัน”
กษัตริย์อับดุลลา ทรงเปิดเผยเหตุผลที่พระองค์มายังสหรัฐ เพื่อพบกับประธานาธิบดี  พระองค์ทรงหวังจะสถาปนาความร่วมมือในนโยบายทางตะวันออกกลางให้มากขึ้น  เพื่อป้องกันกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามไม่ให้มีอำนาจขึ้นจนสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมา”
“นี่เป็นประเด็นที่เราต้องเชื่อมโยงยุทธวิธีของเราเข้าด้วยกันจริงๆ  ข้าพเจ้าทราบว่าเราต้องพุ่งความสนใจไปที่ซีเรียและอิรัก  แต่เราต้องมองไปยังภูมิภาคอื่นๆด้วยเพื่อให้ครอบคลุมประเด็นดังกล่าวนี้”
พระองค์ยอมรับว่ากองกำลังสหรัฐและกองกำลังจากประเทศยุโรปสามารถดำเนินการในภูมิภาคนี้ได้  แต่รัฐบาลของตะวันออกกลางและผู้นำมุสลิมจะต้องร่วมมือด้วย

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อาทิตย์ที่ 2 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า


7 ธ.ค. 2014 อาทิตย์ที่ 2 ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

แสงของดวงจันทร์จะสว่างเหมือนแสงของดวงอาทิตย์  และแสงของดวงอาทิตย์จะสว่างเป็นเจ็ดเท่า (เหมือนความสว่างของเจ็ดวัน)  ในวันของพระเจ้า  พระองค์จะทรงรักษาบาดแผลของประชากรของพระองค์  พระองค์จะรักษารอยฟกช้ำให้หายด้วยลมหายใจของพระองค์ (อิสยาห์ 30:26)

ข้อคิด

หลายคนอาจเย้ยหยันและไม่เชื่อในอัศจรรย์  ไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าจะสามารถรักษาคนตาบอดให้กลับแลเห็นได้ในเวลาที่พระองค์ยังดำเนินอยู่ในโลก  พวกเขาไม่ต้องการเห็นอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในทุกวันนี้ด้วย  ถ้าเราเปิดใจยอมให้พระเป็นเจ้าทรงสัมผัสชีวิตของเรา  และพยายามค้นหาแผนการณ์ของพระองค์ที่ทรงมีต่อเรา  อัศจรรย์ก็จะบังเกิดขึ้น  อะไรหรือที่กีดขวางเราไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการณ์ของพระเป็นาเจ้า?  เราจะยังคงตาบอดอยู่อีกหรือ?

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า



เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เริ่มต้นในวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย. นี้  ซึ่งถือเป็นปีใหม่ในพระศาสนจักรคาทอลิก  วีดีโอนี้จะอธิบายถึงเทศกาลเตรียมรับเสด็จอย่างสั้นๆเป็นเวลาสองนาที

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คอเดินเบิร์ก



คอเดินเบิร์ก คือ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับเทศกาลคริส­ต์มาสในเยอรมนี

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

จงตื่นเฝ้าระวังเถิด


บทความต่อไปนี้นำมาจาก Scott Hahn:
บทอ่าน
อิสยาห์ 63:16-17, 19
บทสดุดี 80:2-3, 15-16, 18-19
โครินทร์ 1 1:3-9
มก. 13:33-37


ปีใหม่ในพระศาสนจักรเริ่มต้นด้วยคำวิงวอนขอให้พระเป็นเจ้าเสด็จมา “โอพระผู้สถิตในสรวงสวรรค์  โปรดเสด็จมาเถิด”  ประกาศกอิสยาห์ร้องคร่ำครวญในวันนี้  ในบทอ่านที่หนึ่ง

บทสดุดี ก็เช่นเดียวกัน  เราจะได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของชาวอิสราเอล  วิงวอนต่อพระเป็นเจ้าให้ทอดพระเนตรจากพระบัลลังก์บนสวรรค์  ให้ทรงช่วยเหลือและคุ้มครองประชากรของพระองค์

บทอ่านในวันนี้เป็นบทอ่านสั้นๆ  ใช้ภาษาง่ายๆ  แต่เราจะสังเกตุถึงอารมณ์ที่จริงจังและเปี่ยมด้วยความหวัง  เมื่อประชากรอิสราเอลตระหนักถึงบาปของตน  การที่พวกเขาไม่ถือตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้า และความอ่อนแอที่ไม่สามารถปกป้องตนเองได้

ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้  เราจึงควรพิจารณาชีวิตของเรา  ตรวจสอบจิตสำนึกของเรา  เช่นเดียวกับชาวอิสราเอลเหล่านั้น  มีหลายครั้งมิใช่หรือ ที่เรามีใจแข็งกระด้าง  ไม่ทำตามพระบัญญัติ  ออกนอกทางของพระเจ้า  และปฏิเสธความรักของพระองค์?

แต่พระเป็นเจ้าทรงซื่อสัตย์  นักบุญเปาโลเตือนเราในวันนี้ในบทอ่านว่า  พระเป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเรา  พระองค์ทรงจับตามองบรรดาบุตรของพระองค์เสมอ  เพื่อเห็นแก่ชาวอิสราเอลและเห็นแก่พวกเรา  พระองค์จึงทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ – เพื่อไถ่บาปเราทำให้เรากลับคืนดีกับพระเป็นเจ้าและดำรงอยู่ในความรักของพระองค์

ในองค์พระเยซูเจ้า เราได้เห็นพระบิดา (ยน. 14:8-9)  พระบิดาทรงฉายแสงพระพักตร์ของพระองค์มายังเรา  ในองค์พระเยซูเจ้า  พระองค์เป็นนายชุมพาบาลที่ดี (ยน. 10:11 – 15) ที่มานำทางเราไปสู่อาณาจักรสวรรค์  ไม่ว่าเราจะหลงออกนอกทางไปไกลเพียงใด  พระองค์จะประทานชีวิตใหม่ให้แก่เราถ้าเราหันมาหาพระองค์  ถ้าเราเรียกพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์  ถ้าเราสัญญาว่าจะไม่ถอยห่างออกจากพระองค์อีก

ดังที่นักบุญเปาโลกล่าวในวันนี้  พระองค์จะทรงประทานพระพรฝ่ายจิตทุกประการแก่เรา  -  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือศีลมหาสนิทและศีลอภัยบาป  -  เพื่อทำให้เรายืนหยัดอยู่ได้ในขณะที่เรากำลังรอคอยการเสด็จมาครั้งสุดท้ายของพระคริสตเจ้า  พระองค์จะช่วยเราให้ยืนหยัดจนถึงที่สุด   ถ้าหากเรายอมให้พระองค์ช่วยเรา

ดังนั้น  ในเทศกาลนี้  ให้เราสำนึกผิดกลับใจ  จงระลึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้  -  จงตื่นเฝ้าระวังเถิด  เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะกลับมาในเวลาใด