พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทภาวนาแห่งฟาติมา



ฤดูใบไม้ผลิปี 1916  ลูซีอา ฟรังซิสโก และยาชินทา ได้พบกับทูตสวรรค์  ในเวลาเช้าเด็กทั้งสามได้ต้อนแกะ ขึ้นไปบนเนินเขา Cabeco  ในท่ามกลางหมู่ต้นมะกอก  พวกเด็กๆอยู่ที่นั่นจนถึงเวลาเที่ยงจึงเริ่มทานอาหารกลางวัน  ทานเสร็จแล้วก็สวดสายประคำ  หลังจากนั้นพวกเด็กเล่นเกมส์ก้อนหินกัน  ต่อมามีลมพัดแรงจนต้นไม้สั่นไหวทั้งๆที่วันนั้นเป็นวันอากาศแจ่มใส  เด็กๆมองไปทั่ว  และทันทีทันใดก็เห็นแสงสว่างส่องมาจากยอดไม้เคลื่อนที่ลงมาหาพวกเขา  เด็กๆต่างนิ่งเงียบ  แล้วทูตสวรรค์ก็พูดกับเด็ก
“อย่ากลัวเลย  เราคือเทวดาแห่งสันติภาพ  มาสวดภาวนาพร้อมกับเราเถิด”  แล้วเทวดาก็ก้มลงกราบแทบพื้นดินและสอนเด็กให้สวดภาวนา
“พระเจ้าข้า  ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกกราบนมัสการพระองค์  วางใจในพระองค์และรักพระองค์  ลูกกราบขออภัยโทษแทนผู้ที่ไม่เชื่อในพระองค์  ไม่นมัสการพระองค์  ไม่วางใจในพระองค์และไม่รักพระองค์”
เทวดาบอกกับเด็กว่า “จงสวดภาวนาเช่นนี้  แล้วดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์จะสดับฟังคำวิงวอนของพวกเธอเสมอ”
ในอีกโอกาสหนึ่ง เทวดาแห่งสันติภาพได้มาหาเด็ก  แต่ในครั้งนี้ได้นำพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้ามาให้เด็กด้วย  แต่ก่อนจะให้เด็กรับศีล  เทวดาได้ปล่อยจอกกาลิกษ์และแผ่นศีลลอยอยู่ในอากาศ  เทวดาก้มกราบนมัสการแทบพื้นดินและสอนเด็กสวดภาวนาสามครั้งว่า
“ข้าแต่พระตรีเอกภาพสูงสุด พระบิดา พระบุตร และพระจิต  ลูกขอถวายพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์  พระวิญญาณและพระเทวภาพของพระเยซูคริสตเจ้า  ผู้ทรงประทับอยู่ในตู้ศีลทุกแห่งทั่วโลก  เพื่อชดเชยแทนการกระทำทุรจาร  การล่วงเกิน และความอกตัญญูของมนุษย์  ที่กระทำต่อพระองค์  และโดยอาศัยพระเมตตาหาที่สุดมิได้แห่งดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า  พร้อมด้วยดวงพระทัยนิรมลของพระมารดามารีย์  ลูกขอวิงวอนพระองค์โปรดบันดาลให้คนบาปกลับใจด้วยเทอญ”
หลังจากนั้นเทวดาจึงให้ลูซีอารับแผ่นศีลซึ่งเป็นพระกายพระคริสตเจ้า  ส่วนฟรังซิสโกและยาชินทา  เทวดาให้ดื่มเหล้าองุ่นซึ่งเป็นพระโลหิต
ในการประจักษ์ครั้งหนึ่ง  แม่พระได้สอนเด็กๆสวดภาวนาว่า
“พระเยซูเจ้าข้า  โปรดอภัยบาปของชาวเรา  โปรดช่วยเราให้พ้นไฟนรก  โปรดนำวิญญาณทั้งหลายไปสู่สวรรค์   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  วิญญาณของผู้ที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด” 

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรื่องเล่าจากหนังสือเก่า 3

ลองอ่านเรื่องที่ 3 นะครับ  - เรื่องเล่าจากหนังสือสมโภช 100 ปี (1890-1990) วัดพระคริสตประจักษ์ บ้านเล่า ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นครนายก  มีบทความที่น่าสนใจดี
.....อ่านต่อ
 

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พระสังฆราชไนจีเรียเห็นนิมิตพระเยซูเจ้า



โรม,อิตาลี, 21 เม.ย. 2015(CNA/EWTN News) – พระสังฆราช โอลีเวอร์ ดาเช โดมี แห่งไนจีเรียเล่าว่า ท่านได้เห็นพระคริสต์ในนิมิต  และเดี๋ยวนี้ท่านตระหนักแล้วว่า  สายประคำคือกุญแจสำคัญในการกำจัดกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามที่กำลังรุกรานประเทศอยู่ในเวลานี้
              พระสังฆราชกล่าวว่า  พระเป็นเจ้าทรงชี้แนะแก่ท่านให้เป็นผู้นำประชาชนในการสวดสายประคำจนกว่ากลุ่มก่อการร้ายจะสูญหายไป
“เมื่อปลายปีที่แล้ว  ผมอยู่ในโบสถ์น้อยและอยู่เบื้องหน้าศีลมหาสนิท...ผมสวดสายประคำ  และทันทีทันใด พระเยซูเจ้าก็ทรงปรากฏมา” พระสังฆราชเล่าให้ทาง CAN เมื่อ 8 เม.ย. 2015
ท่านเล่าต่อไปว่า  ในนิมิตนั้น พระเยซูเจ้ามิได้ตรัสอะไร  แต่ทรงยื่นดาบมาให้ท่าน  และท่านก็รับดาบนั้น
“ทันทีที่ผมรับดาบ  ดาบก็กลายเป็นสายประคำ”  พระสังฆราชเล่า  และพระเยซูเจ้าตรัสกับท่านสามครั้งว่า “โบโกฮารามจะสูญสิ้นไป”
“ผมไม่ต้องการประกาศกเพื่อให้คำอธิบาย  มันชัดเจนว่า ด้วยสายประคำ  เราจะสามารถขับไล่โบโกฮารามได้”
พระสังฆราชไม่ประสงค์จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง  แต่ท่านรู้สึกว่าพระจิตเจ้าทรงผลักดันท่านให้ต้องเล่า
ท่านเริ่มต้นกับพระสงฆ์ในสังฆมณฑลของท่านก่อน แล้วจึงบอกเล่าให้ผู้ที่มาร่วมประชุม N2015 ซึ่งจัดประชุมในกรุงแมดริดของสเปน  วันที่ 17-19 เม.ย. 2015  การประชุมจัดขึ้นในหัวข้อว่า  จะช่วยให้คริสตชนดำเนินชีวิตในประเทศที่มีการเบียดเบียนได้อย่างไร
พระสังฆราชปกครองสังฆมณฑล Maiduguri  อยู่ทางตอนเหนือของไนจีเรีย  ซึ่งมีคาทอลิกประมาณ 125,000 คน  หลังจากกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามเริ่มรุกรานคริสตชน  ทุกวันนี้มีคริสตชนเหลือเพียง 50,000 – 60,000 คน  หลายคนหลบหนีไปสู่ที่ปลอดภัยในส่วนอื่นของไนจีเรีย
ในปี 2014 โบโกฮาราม เริ่มเป็นที่รู้จักในประชาคมโลก  จากการลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิง 300 คน  เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2015  และต่อมาได้มีการระเบิดฆ่าตัวตาย 5 ครั้งในเมืองหลวงมาดากูรี  กลุ่มก่อการร้ายยังได้สังหารคน 1,000 คนในระยะเวลาสามเดือน  ทาง Human Rights Watch ได้รายงานว่า  มีประชาชน 6,000 คนที่ถูกกลุ่มนี้สังหารตั้งแต่ปี 2009
พระสังฆราชเชื่อว่า  พระเยซูเจ้าทรงขอให้ท่านเผยแพร่ความศรัทธาในการสวดสายประคำเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และท่านก็ทำเช่นนั้น
ไม่เพียงแต่พระสังฆราชดาเช่ เท่านั้นที่มีความศรัทธาในพระมารดาของพระคริสตเจ้าและมอบอนาคตของประเทศไว้ในพระหัตถ์ของพระนางมารีย์  ในการประชุมพระสังฆราชของไนจีเรียก็ได้มีการมอบถวายประเทศแด่พระนางถึงสองครั้งด้วย