โบสถ์ พระผู้ไถ่ทรงหลั่งพระโลหิต Church of the Savior
on Spilled Blood อยู่ที่ St. Petersburg, ประเทศรัสเซีย เป็นโบสถ์ในนิกายออร์โธดอกซ์ที่สวยงามมาก สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19
สร้างตรงบริเวณที่จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสในเดือนมีนาคม
1881 (ดูภาพเพิ่มเติม)
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558
คุณพ่อบอสโก..3
เรื่องราวของคุณพ่อบอสโกที่น่าสนใจมีมากมาย
และเรื่องอัศจรรย์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานของท่านก็มีมาก....อ่านต่อ
วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558
คุณพ่อบอสโก..2
เรื่องราวของคุณพ่อบอสโกที่น่าสนใจมีมากมาย
และเรื่องอัศจรรย์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานของท่านก็มีมาก....อ่านต่อ
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558
พันธ์ทิพดอทคอม
ที่มา - http://pantip.com/topic/34110822/comment7
กระทู้ - สงสัยในพระวรสารของนักบุญลูกา
ความคิดเห็นที่ 5
เวลาอ่าน อย่าเอามาแค่ข้อเดียวเอามาให้ครบๆจะได้ไม่เพี้ยน และเกิดความสมดุล
ดูข้ออื่นๆร่วมด้วยค่ะ
ลก1:47 และวิญญาณของข้าพเจ้าก็เกิดความปีติยินดีในพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า >>> นางเองก็สำนึกว่าเป็นคนบาปเหมือนผู้เชื่อทุกคนที่ต้องการการไถ่บาป และนางเป็นแค่อุปกรณ์หรือภาชนะ ในการลงมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์ หลังจากนั้นก็จบหน้าที่ของนาง อย่ายกนางขึ้นเกินความเป็นจริงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะอันตรายมากถ้ามีความเชื่อเช่นนี้ ขอพระวิญญาณทรงเปิดตาใจของท่านค่ะ
ผู้ที่เชื่อเป็นเหมือนมารดาและพี่น้องของพระเยซู (มธ 12:46-50; ลก 8:19-21)
3:31 เวลานั้นมารดาและพวกน้องชายของพระองค์มายืนอยู่ข้างนอก แล้วใช้คนเข้าไปทูลเรียกพระองค์
3:32 และประชาชนก็นั่งอยู่รอบพระองค์ เขาจึงทูลพระองค์ว่า “ดูเถิด มารดาและพวกน้องชายของพระองค์มาหาพระองค์คอยอยู่ข้างนอก”
3:33 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ใครเป็นมารดาของเรา และใครเป็นพี่น้องของเรา”
3:34 พระองค์ทอดพระเนตรคนที่นั่งล้อมรอบพระองค์นั้นแล้วตรัสว่า “ดูเถิด นี่เป็นมารดาและพี่น้องของเรา
3:35 ผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระเจ้า ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา”
ฉะนั้นจงกระทำตามพระเยซูสั่งไว้ในข้อนี้ค่ะ
*** ตอบให้เห็นอีกมุมค่ะ ****
อ่านทวนซ้ำในกระทู้นี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/33998034
ขอพระวิญญาณช่วยเราค่ะ บางอย่างเป็นโลกฝ่ายวิญญาณต้องมองด้วยสายตาฝ่ายวิญญาณค่ะ
ขอโทษคุณ จขกท ที่ตอบไม่ตรงตามสิ่งที่อยากได้ยินค่ะ
SHALOM
----------------------------------------------------------
ดังนั้นพระนางมารีย์จึงเป็นพระมารดาของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงยกย่องมารดาของพระองค์เสมอ ดังเช่น พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ครั้งแรกในงานแต่งงาน
ที่เมืองคานา เพราะพระนางมารีย์พระมารดาของพระองค์ทรงขอร้อง โดยบอกพระเยซูว่า เขาไม่มีน้ำองุ่นแล้ว
พระเจ้าทรงยกย่องพระนางมารีย์ในฐานะมารดาของพระองค์ และเราผู้เป็นศิษย์ของพระเยซูจะไม่ยกย่องพระนางมารีย์ได้อย่างไร
บนกางเขน พระเยซูเจ้าทรงมอบพระนางมารีย์ให้เป็นมารดาของมนุษย์ทั้งมวลโดยผ่านทางนักบุญยอห์น พระองค์ตรัสกับ น.ยอห์นว่า "นี่คือแม่ของท่าน" แล้ว น.ยอห์นก็รับพระนางมารีย์มาเป็นมารดาของท่าน
พระนางมารีย์ ยังมีบทบาทเป็นสตรีผู้มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ ตามในพระคัมภีร์วิวรณ์ ว่า "มีเครื่องหมายยิ่งใหญ่ในสวรรค คือสตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีดาวสิบสองดวงประดับศีรษะเป็นมงกุฏ" พระนางมารีย์ยังเป็นผู้ที่พระเจ้าตรัสกับงูว่า "เราจะให้เจ้ากับหญิงนั้นเป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของนางด้วย นาง(โดยอาศัยบุตรของนาง) จะเหยียบหัวของเจ้าจนบี้แบน ส่วนเจ้าทำได้เพียงขบสันเท้าของนางเท่านั้น"
พระนางมารีย์ได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้า แต่พระนางทรงถ่อมพระองค์ยิ่งนัก พระนางถือตนเองว่าเป็นเพียงข้ารับใช้ของพระเจ้า
ทุกสิ่งที่พระนางมารีย์ทรงทำ ก็ทำเพื่อพระเจ้าแต่เพียงอย่างเดียว พระนางทรงรับมนุษย์ทุกคนไว้เป็นลูกของพระนางด้วย พระนางจึงคอยช่วยเหลือพวกเราบนสวรรค์ หลายต่อหลายครั้งที่พระนางประจักษ์มาแก่บุคคลบางคน เพื่อตักเตือนมนุษย์ให้ละเลิกทำบาปผิดต่อพระเจ้า
กระทู้ - สงสัยในพระวรสารของนักบุญลูกา
ความคิดเห็นที่ 5
เวลาอ่าน อย่าเอามาแค่ข้อเดียวเอามาให้ครบๆจะได้ไม่เพี้ยน และเกิดความสมดุล
ดูข้ออื่นๆร่วมด้วยค่ะ
ลก1:47 และวิญญาณของข้าพเจ้าก็เกิดความปีติยินดีในพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า >>> นางเองก็สำนึกว่าเป็นคนบาปเหมือนผู้เชื่อทุกคนที่ต้องการการไถ่บาป และนางเป็นแค่อุปกรณ์หรือภาชนะ ในการลงมาบังเกิดของพระเยซูคริสต์ หลังจากนั้นก็จบหน้าที่ของนาง อย่ายกนางขึ้นเกินความเป็นจริงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะอันตรายมากถ้ามีความเชื่อเช่นนี้ ขอพระวิญญาณทรงเปิดตาใจของท่านค่ะ
ผู้ที่เชื่อเป็นเหมือนมารดาและพี่น้องของพระเยซู (มธ 12:46-50; ลก 8:19-21)
3:31 เวลานั้นมารดาและพวกน้องชายของพระองค์มายืนอยู่ข้างนอก แล้วใช้คนเข้าไปทูลเรียกพระองค์
3:32 และประชาชนก็นั่งอยู่รอบพระองค์ เขาจึงทูลพระองค์ว่า “ดูเถิด มารดาและพวกน้องชายของพระองค์มาหาพระองค์คอยอยู่ข้างนอก”
3:33 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ใครเป็นมารดาของเรา และใครเป็นพี่น้องของเรา”
3:34 พระองค์ทอดพระเนตรคนที่นั่งล้อมรอบพระองค์นั้นแล้วตรัสว่า “ดูเถิด นี่เป็นมารดาและพี่น้องของเรา
3:35 ผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระเจ้า ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา”
ฉะนั้นจงกระทำตามพระเยซูสั่งไว้ในข้อนี้ค่ะ
*** ตอบให้เห็นอีกมุมค่ะ ****
อ่านทวนซ้ำในกระทู้นี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/33998034
ขอพระวิญญาณช่วยเราค่ะ บางอย่างเป็นโลกฝ่ายวิญญาณต้องมองด้วยสายตาฝ่ายวิญญาณค่ะ
ขอโทษคุณ จขกท ที่ตอบไม่ตรงตามสิ่งที่อยากได้ยินค่ะ
SHALOM
----------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่
7
พระนางมารีย์เป็นมารดาของพระเยซูเจ้า และพระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้าดังนั้นพระนางมารีย์จึงเป็นพระมารดาของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงยกย่องมารดาของพระองค์เสมอ ดังเช่น พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ครั้งแรกในงานแต่งงาน
ที่เมืองคานา เพราะพระนางมารีย์พระมารดาของพระองค์ทรงขอร้อง โดยบอกพระเยซูว่า เขาไม่มีน้ำองุ่นแล้ว
พระเจ้าทรงยกย่องพระนางมารีย์ในฐานะมารดาของพระองค์ และเราผู้เป็นศิษย์ของพระเยซูจะไม่ยกย่องพระนางมารีย์ได้อย่างไร
บนกางเขน พระเยซูเจ้าทรงมอบพระนางมารีย์ให้เป็นมารดาของมนุษย์ทั้งมวลโดยผ่านทางนักบุญยอห์น พระองค์ตรัสกับ น.ยอห์นว่า "นี่คือแม่ของท่าน" แล้ว น.ยอห์นก็รับพระนางมารีย์มาเป็นมารดาของท่าน
พระนางมารีย์ ยังมีบทบาทเป็นสตรีผู้มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ ตามในพระคัมภีร์วิวรณ์ ว่า "มีเครื่องหมายยิ่งใหญ่ในสวรรค คือสตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีดาวสิบสองดวงประดับศีรษะเป็นมงกุฏ" พระนางมารีย์ยังเป็นผู้ที่พระเจ้าตรัสกับงูว่า "เราจะให้เจ้ากับหญิงนั้นเป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของนางด้วย นาง(โดยอาศัยบุตรของนาง) จะเหยียบหัวของเจ้าจนบี้แบน ส่วนเจ้าทำได้เพียงขบสันเท้าของนางเท่านั้น"
พระนางมารีย์ได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้า แต่พระนางทรงถ่อมพระองค์ยิ่งนัก พระนางถือตนเองว่าเป็นเพียงข้ารับใช้ของพระเจ้า
ทุกสิ่งที่พระนางมารีย์ทรงทำ ก็ทำเพื่อพระเจ้าแต่เพียงอย่างเดียว พระนางทรงรับมนุษย์ทุกคนไว้เป็นลูกของพระนางด้วย พระนางจึงคอยช่วยเหลือพวกเราบนสวรรค์ หลายต่อหลายครั้งที่พระนางประจักษ์มาแก่บุคคลบางคน เพื่อตักเตือนมนุษย์ให้ละเลิกทำบาปผิดต่อพระเจ้า
วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2558
คุณพ่อบอสโก..1
เรื่องราวของคุณพ่อบอสโกที่น่าสนใจมีมากมาย
และเรื่องอัศจรรย์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานของท่านก็มีมาก....อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558
ปีศาจชอบบาปอะไรมากที่สุด?
ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจให้คำตอบแก่เรา
ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจมีความกลัวไหม? บาปอะไรที่ปีศาจชอบมากที่สุด? มีผู้ถามคำถามนี้กับคุณพ่อ
Juan José
Gallego แห่งคณะโดมินิกัน
ท่านเป็นผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจจากสังฆมณฑล Barcelona in Catalonia,
Spain
คุณพ่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจมาเป็นเวลา
9 ปีแล้ว ในการให้สัมภาษณ์กับ Spanish daily El Mundo ท่านกล่าวว่า
จากประสบการณ์ของท่าน
ความหยิ่งจองหองเป็นบาปที่ปีศาจชอบมากที่สุด
“คุณพ่อมีความกลัวบ้างไหมครับ?” นักข่าวถาม
“ในตอนต้นที่เริ่มรับตำแหน่งนั้น พ่อมีความกลัวมาก” คุณพ่อตอบ “สิ่งที่พ่อทำก็คือ
พ่อมองข้ามไหล่ไปและพ่อก็เห็นปีศาจ.....อีกวันหนึ่งขณะที่กำลังทำพิธีขับไล่ปีศาจอยู่ พ่อพูดว่า ‘เราสั่งเจ้า เราสั่งเจ้า’...และเจ้าปีศาจก็ส่งเสียงดังเหมือนไฟตอบกลับมาว่า ‘กาลลลลลเลโก..แกทำมากเกินไปแล้ว’ นั่นทำให้พ่อสั่นสะท้านเลย”
อย่างไรก็ตาม
คุณพ่อรู้ว่าปีศาจไม่มีอำนาจมากกว่าพระเป็นเจ้า ท่านอธิบายว่า “เมื่อผมได้รับแต่งตั้ง ญาติคนหนึ่งของผมบอกผมว่า ‘ว้าว ฮวน โจเซ่ ฉันกลัวจริงๆ เพราะในภาพยนตร์เรื่อง The
Exorcist มีคนหนึ่งตายและอีกคนกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง ผมจึงพูดกับเธอว่า ‘อย่าลืมว่า
ปีศาจเป็นเพียงสิ่งสร้างอย่างหนึ่งของพระเป็นเจ้าเท่านั้น”
เมื่อใครบางคนถูกปีศาจเข้าสิง ท่านอธิบายต่อ “พวกเขาจะสูญเสียสติสัมปชัญญะ พวกเขาจะพูดภาษาแปลกๆ มีกำลังมากผิดปกติ พวกเขาจะรู้สึกแย่มากจริงๆ คุณจะเห็นคนที่เคยมีมารยาทดีพูดจาสบถและอ๊วกออกมา”
“มีเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกปีศาจเอาเสื้อเชิ้ตของเขาโยนบนกองไฟในตอนกลางคืน
เขาบอกพ่อว่าปีศาจได้ให้ข้อเสนอกับเขาว่า –
ถ้าแกทำสัญญากับพวกข้า แกจะไม่ต้องลำบากอีกต่อไปเหมือนกับที่แกลำบากอยู่ในตอนนี้”
คุณพ่อกาลเลโกเตือนว่า ลัทธิยุคใหม่ “New Age” อย่างเช่น การทำโยคะ หรือ
นั่งสมาธิ
สามารถเป็นทางให้ปีศาจเข้าสิงได้
ท่านยังอธิบายด้วยว่า ยาเสพติด เป็น การสิงของปีศาจชนิดหนึ่ง
“เมื่อผู้คนตกอยู่ในวิกฤตการณ์ พวกเขามีความทุกข์ใจมาก
พวกเขาจะรู้สึกสิ้นหวัง
คนที่รู้สึกเช่นนั้น
เขาทำให้ปีศาจเข้ามาในใจของเขาได้” คุณพ่อกล่าว วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)