พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

การแพร่ธรรม



 “ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา  ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต” มัทธิว 28:19
และอัครสาวกของพระเยซูเจ้าก็ได้เดินทางไกลยังสถานที่ต่างๆเพื่อประกาศพระวรสาร  คริสต์ศาสนาได้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง  เป็นพลวัติที่สำคัญในประวัติศาสตร์  ในวีดีโอนี้แสดงให้เห็นการแพร่กระจายของคริสต์ศาสนาในแต่ยุคสมัย  โดยแต่ละเฟรมของวีดีโอเท่ากับหนึ่งปี และสิ้นสุดที่ปี 2000  วีดีโอจัดทำโดย westernconversatory.com  อัครสาวกและบรรดามิชชันนารีได้เดินทางไปทั่วโลก  ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์  ท่านเหล่านั้นต้องเผชิญกับการเบียดเบียนและความยากลำบากมากมาย  ต้องเสียชีวิตเพื่อยืนยันความเชื่อของท่าน  อนาคตต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับพวกเราที่เป็นคริสตชนที่จะสานต่องานของมิชชันนารีเหล่านี้

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

ฝนกลีบกุหลาบ

หลังจากที่อัครสังฆราชในฟิลิปปินส์ได้ประกาศรับรองการประจักษ์ที่ลิปา(ในปี 1948) อย่างเต็มรูปแบบโดยได้รับอนุญาตจากทางสันตสำนักแล้ว  ก็เกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้น....อ่านต่อ 

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

ชาวอิยิปต์ฉลองแม่พระเสด็จสู่สวรรค์


วันฉลองแม่พระได้รับเกียรติขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. 2015 ที่ผ่านมา  ในประเทศอียิปต์มีประชาชนจำนวนมากไมเพียงแต่คริสตชนเท่านั้นแต่ชาวมุสลิมได้ร่วมฉลองแม่พระด้วย
การฉลองแม่พระถูกจัดขึ้นโดยคริสตชนคอปติกออร์โธดอกซ์ในอียิปต์  ตั้งแต่วันพฤหัสบดี  ,วันศุกร์ และวันเสาร์  มีรายการทางวิทยุหลายแห่งได้กระจายข่าว “วันฉลองพระนางพรหมจารีย์มารีย์” และแถลงว่า  “ไม่เพียงแต่คริสตชนของอิยิปต์เท่านั้นแต่รวมทั้งพวกเราชาวอิยิปต์ทั้งหมดที่นับถือพระนางมารีย์ (ชาวมุสลิมเรียกแม่พระว่า Sitana Mariam ) พระนางเป็นสตรีที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก”
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ Al-Qahira (Cairo), ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงบทความและรูปภาพเต็มหน้าของพระนางมารีย์ “เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จสู่สวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระนางมารีย์"
สมาชิกของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เราไม่ค่อยแน่ใจนักเกี่ยวกับรูปภาพของพระนางมารีย์  เพราะทั้งๆที่เรารู้ว่าชาวอิยิปต์ทั้งมุสลิมและคริสตชนมีความรักและนับถือพระนางมารีย์เป็นอย่างสูง  เราไม่แน่ใจว่าชาวมุสลิมส่วนใหญ่จะรู้สึกดีหรือไม่เกี่ยวกับรูปภาพ  มีบางรูปที่เป็นรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขนรวมอยู่ด้วย”
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่ประสงค์ให้เปิดเผยชื่อกล่าวเกี่ยวกับรูปภาพ “เราไม่สามารถละเลยรูปภาพบางรูปซึ่งพระนางมารีย์กำลังอุ้มพระเยซูอยู่”
ในสมัยการปกครองของประธานาธิบดีฮอสนี  มูบารัค  ทางรัฐบาลได้เลือกวันคริสต์มาสให้เป็นวันหยุดของชาติ แทนที่จะเป็นวันอิสเตอร์  ซึ่งเป็นวันฉลองสำคัญที่สุดของคอปติกออร์โธดอกซ์ในอิยิปต์
สาเหตุในเรื่องนี้เป็นเพราะ  ประวัติการบังเกิดของพระเยซูในคัมภีร์ของมุสลิมและคริสต์นั้นตรงกัน  แต่ประวัติการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูของทางมุสลิมนั้นไม่เหมือนกัน  ชาวมุสลิมเชื่อว่าพระเยซูได้รับการยกขึ้นสวรรค์จากพระเป็นเจ้าและพระองค์ไม่ได้ถูกตรึงกางเขน

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

พระรูปแม่พระในอิสราเอลร้องไห้


 
มีการยิงต่อสู้อย่างหนักระหว่างตำรวจอิสราเอลกับผู้ประท้วงปาเลสไตน์ในม้สยิดอัลอักซา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2015  ก่อนหน้านี้ประมาณวันที่ 13 พ.ย. 2014 พระรูปแม่พระที่อยู่ในครอบครัว Khoury ในภาคเหนือของอิสราเอล ได้หลั่งน้ำตาออกมา  ซึ่งอาจมีสาเหตมาจากเรื่องนี้หรือไม่?