พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2025 พระเยซูเจ้าทรงพบกับอัครสาวกที่กาลิลี

           หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่บรรดาศิษย์อีกครั้งหนึ่งที่ฝั่งทะเลสาบทีเบเรียส เรื่องราวเป็นดังนี้ ศิษย์บางคนอยู่พร้อมกันที่นั่น คือซีโมน เปโตร กับโทมัสที่เรียกกันว่า “ฝาแฝด” นาธานาเอล ซึ่งมาจากหมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี บุตรทั้งสองคนของเศเบดีและศิษย์อีกสองคน ซีโมน เปโตรบอกคนอื่นว่า “ข้าพเจ้าจะไปจับปลา” ศิษย์คนอื่นตอบว่า “พวกเราจะไปกับท่านด้วย” เขาทั้งหลายออกไปลงเรือ แต่คืนนั้นทั้งคืนเขาจับปลาไม่ได้เลย พอรุ่งสาง พระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่บนฝั่ง แต่บรรดาศิษย์ไม่รู้ว่าเป็นพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทรงร้องถามว่า “ลูกเอ๋ย มีอะไรกินบ้างไหม” เขาตอบว่า “ไม่มี” พระองค์จึงตรัสว่า “จงเหวี่ยงแหไปทางกราบเรือด้านขวาซิ แล้วจะได้ปลา” บรรดาศิษย์จึงเหวี่ยงแหออกไป และดึงขึ้นไม่ไหว เพราะได้ปลาเป็นจำนวนมาก ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักกล่าวกับเปโตรว่า “เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้านี่” เมื่อซีโมน เปโตรได้ยินว่า “เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาก็หยิบเสื้อมาสวม เพราะเขาไม่ได้สวมเสื้ออยู่ แล้วกระโดดลงไปในทะเล ศิษย์คนอื่นเข้าฝั่งมากับเรือ ลากแหที่ติดปลาเข้ามาด้วย เพราะอยู่ไม่ห่างจากฝั่งนัก ประมาณหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น
(ยอห์น 21:1-19)








วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การแสดง-แสง-เสียง-สี



9 ธ.ค. 2015 -การแสดง แสง เสียง สี ที่วาติกัน  เพื่อสนองตอบต่อพระสมณสาส์น "Laudato Si” ของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเดินขบวนประท้วงในสเปน


ชาวคาทอลิกในสเปนเดินขบวนประท้วงการทุรจารศีลมหาสนิทจำนวน 248 แผ่นที่มีผู้ขโมยไปจากโบสถ์

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประตูแห่งพระเมตตา


“ก่อนที่เราจะมาในฐานะผู้พิพากษาทรงความยุติธรรม  เราจะเปิดประตูแห่งพระเมตตาของเรา  ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมเข้าประตูแห่งพระเมตตานี้  จะต้องเข้าประตูแห่งพระยุติธรรมของเราแทน”  พระเยซูเจ้าตรัสกับ น.โฟสตินา

ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม  8 ธ.ค. 2015 – 20 พ.ย. 2016

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อันตรายจากสาหร่ายทอดกรอบ

        ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ "สาหร่ายทะเลแห้ง" เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีนและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง สาหร่ายทะเลแห้งที่จำหน่ายในท้องตลาด มีการปรุงแต่งรส และกลิ่นให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้ สาหร่ายทะเลแห้งกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตรวจพบการปนเปื้อนที่มีนัยสำคัญทางสถิติและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับประทาน
        ในเรื่องนี้ ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า สถาบันอาหารได้ตรวจสอบพบในตัวอย่างที่สุ่มมาตรวจมีสารแคดเมียมปนเปื้อนเกิน 2 มก./กก. ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่หลายประเทศกำหนดไว้ โดยปกติสาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีขีดความสามารถในการดูดซับสารที่อยู่ในทะเลได้มาก ดังนั้น หากบริเวณที่สาหร่ายทะเลขึ้นอยู่มีสารปนเปื้อนที่เป็นพิษสูง สาหร่ายก็จะดูดซับสารเหล่านั้นเข้ามาไว้ เมื่อนำมาบริโภคก็จะเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ แต่คนไทยไม่ได้บริโภคสาหร่ายทะเลเป็นอาหารหลักเหมือนกับญี่ปุ่น หรือ จีน และไม่ได้บริโภคกันในปริมาณมากนัก เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค จึงควรรับประทานสาหร่ายแห้งในปริมาณที่ไม่มาก และติดต่อกันนานเกินไป รวมทั้งต้องบริโภคอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย และลดโอกาสในการได้รับสารพิษจากสาหร่ายทะเลแห้งเพราะแคดเมียมเป็นสารที่ร่างกายสามารถขับออกมาได้ตามธรรมชาติ"
        ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ แต่ละประเทศจะมีมาตรฐานของการปนเปื้อนสารแคดเมียมในปริมาณที่แตกต่างกัน เแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 2 มก./กก. ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารไว้แน่ชัด แต่ได้กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนในน้ำดื่มว่า หากเป็นน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะกำหนดไม่ให้เกิน 0.003 พีพีเอ็ม และหากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดจะต้องไม่เกิน 0.005 พีพีเอ็ม
         จากเรื่องสาหร่ายทะเลแห้ง ก็มาถึงเรื่องความปลอดภัยในอาหารการกินอื่น ๆ กันบ้าง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปนเปื้อนน้อยลงลดลง โดยในกลุ่มอาหารสด เช่น สารเร่งเนื้อแดง สารฟอกสี สารกันรา บอแรกซ์ ฟอร์มาลิน และสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันนี้ ไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่า เนื้อสัตว์และพืชผักทั้งหลายที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีความปลอดภัยต่อการบริโภคมากน้อยเพียงใด
        มีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือไม่ อย่างไร ทางที่ดีจึงต้องใช้แนวทางของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยหันมาลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองเลือกกินผักผลไม้พื้นบ้านในท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมทั้งช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเผาปีศาจ


7 ธ.ค. 2015 ที่กัวเตมาลา  ชาวคาทอลิกรวมตัวกันที่จัตุรัสของเมืองในวันจันทร์นี้  เพื่อร่วมในประเพณีเก่าแก่ของประเทศที่เรียกว่า “เผาปีศาจ”  ไฟลุกโชติช่วงที่ใจกลางถนนเป็นสัญญลักษณ์ว่าเทศกาลวันหยุดเริ่มต้นขึ้นแล้ว  ชาวกัวเตมาลาจะฉลองด้วยการเผารูปของซาตานในวันก่อนวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล  และถือเป็นการเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสอย่างไม่เป็นทางการด้วย

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ผู้เคยเห็นแม่พระในเมดจูกอเรจ์

แมกกาซีน National Geographic ฉบับเดือนธันวาคมนี้ ไดน่า มาร์โกเซียนได้สำรวจความศรัทธาต่อพระนางพรหมจารีย์มารีย์ของผู้คนทั่วโลก >>> อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คำถามเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์



คำถามเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์
ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาที่พิเศษสำรับชาวคาทอลิก โดยปกติปีศักดิ์สิทธิ์จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 4 ศตวรรษ  แต่ในปีนี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ต่อไปนี้เป็นคำตอบในคำถามต่างๆ
1. ปีศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?
ปีศักดิ์สิทธิ์มีประวัติสืบเนื่องมาจากประเพณีของชาวยิว  และเริ่มต้นในปี 1300 โดยพระสันตะปาปาโบนีฟาสที่ 8 ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นการให้อภัยบาปแก่คนทั่วไป  เป็นพระหรรษทานพิเศษทำให้เราสามารถใกล้ชิดพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์
2. ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษ แตกต่างอย่างไรจากปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา?
ตั้งแต่ปี 1475 ปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาจะมีขึ้น 1 ครั้งในทุก 25 ปี  ส่วนปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษจะมีขึ้นในโอกาสพิเศษ
จนถึงปัจจุบันนี้ มีปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา 24 ครั้ง และมีปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษแล้ว 4 ครั้ง  ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้ พระสันตปาปาฟรังซิสทรงกำหนดให้มีขึ้นและจะเป็นครั้งที่ 5
ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษครั้งล่าสุดกำหนดขึ้นโดยพระสันตปปายอห์นปอลที่ 2 ในปี 1983  และพระองค์ทรงกำหนดปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาขึ้นในปี 2000 ด้วย
3. ทำไมพระสันตะปาปาจึงทรงกำหนดปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษขึ้น?
พระสันตะปาปาทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในเดือนมีนาคม 2015  พระองค์ทรงตัดสินพระทัยอย่างเป็นทางการในเดือน เมษายน ในเวลานั้นพระองค์ทรงอธิบายว่า
POPE FRANCIS
April 11, 2015
“ทำไมจึงมีปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในเวลานี้?  เป็นเพราะพระศาสนจักรมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และเรียกร้องให้แสดงเครื่องหมายแห่งการถวายตนแด่พระเจ้าในการใกล้ชิดกับพระเป็นเจ้า  นี่ไม่ใช่เวลาแห่งการแยกตัวออกจากพระองค์”
และผู้ดำเนินการในปีศักดิ์สิทธิ์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า
RINO FISICHELLA
Organizer, Jubilee of Mercy 
“เราต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า  ความหมายหลักของปีศักดิ์สิทธิ์คือการที่เราต้องตระหนักว่าเราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเป็นเจ้า”
4. ปีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อไร?
ปีศักดิ์สิทธิ์ไม่จำเป็นต้องสิ้นสุดเมื่อครบ 365 วัน  ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมมีระยะเวลาน้อยกว่า1 ปี  มันเริ่มต้นวันที่ 8 ธันวาคมและสิ้นสุดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2016
5. จะมีคนมากเท่าไรที่จะมาที่โรม?
ปีศักดิ์สิทธิ์ 2000 มีคนมาที่โรมประมาณ 25 ล้านคน  และคาดว่าในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้จะมีคนมาจำนวนเท่าเดิม 
6. จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง?
มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมาก  มีพิธีเปิดประตูพระวิหารวันที่ 8 ธ.ค.  และประตูในวิหารอื่นๆในเมืองต่างๆก็จะถูกเปิดตามมา  พระสงฆ์จะเอาใจใส่เป็นพิเศษในการฟังแก้บาปซึ่งเป็นกุญแจหลักของปีศักดิ์สิทธิ์
RINO FISICHELLA
Organizer, Jubilee of Mercy 
 “ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการให้อภัยบาปจะเป็นศูนย์กลางในทุกวันของปีศักดิ์สิทธิ์  แต่จะมีโบสถ์ที่ถูกกำหนดเป็นพิเศษให้เป็นแสวงบุญ  มีโบสถ์สามแห่งใกล้วิหารนักบุญเปโตร  ที่จะให้มีการโปรดศีลอภัยบาปเป็นพิเศษ”
จะมีการสวดภาวนาที่เรียกว่า "dry the tears”ในเดือนพฤษภาคมและมีปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักโทษในเดือน พฤศจิกายน  ต้องการรู้เพิ่มเติมให้ไปที่ www.im.va
7. ประตูศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?
พิธีกรรมแรกในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมคือการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์
ในเวลาที่พระสันตปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนอัฟริกา  พระองค์ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในอาสนวิหารแห่ง Bangui ที่สาธารณรัฐอัฟริการกลาง   เป็นการบอกว่าปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมได้เริ่มต้นขึ้นแล้วทั่วโลก
แต่พระองค์ก็ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารนักบุญเปโตรด้วย  ประตูนี้โดยปกติจะเปิดเพียงหนึ่งครั้งทุก 25 ปี  มีกำแพงอิฐถูกก่อขึ้นบังประตูนี้ไว้และจะถูกพังลงเมื่อมีปีศักดิ์สิทธิ์  และเพราะปีนี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษ  ประตูศักดิ์สิทธิ์จึงถูกเปิดเร็วขึ้น
ประตูศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องหมายว่าชาวคาทอลิกต้องเปิดใจตนเองให้แก่ความเชื่อ  สำหรับผู้แสวงบุญ  การเดินเข้าสู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นสิ่งพิเศษ
                       8. การไปกรุงโรมมีความปลอดภัยไหม?
การโจมตีปารีสของผู้ก่อการร้ายทำให้หน่วยรักษาความปลอดภัยต้องเพิ่มมาตรการไปทั่วยุโรป  กรุงโรมอยู่ใจกลางของทวีปยุโรปและอาจเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายได้  หน่วยทหารและตำรวจอิตาลีจับตามองแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้ายเท่าที่จะทำได้  โดยเฉพาะที่วาติกันและจัตุรัสนักบุญเปโตร