พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์

           ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
           ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)








วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สีแดงบนแผ่นศีลเป็นเชื้อรา


จากรายงานข่าวที่มีศีลมหาสนิทเป็นสีแดงคล้ายเลือดที่โบสถ์เซนต์เซีเวียร์ใน เซาท์เลคซิตี้  รัฐยูทาห์ ของสหรัฐอเมริกา  บัดนี้ทางสังฆมณฑลได้ประกาศอย่างเป็นทางการหลังจากได้ตรวจวิเคราะห์ในห้องทดลองแล้ว  ปรากฏว่าสีแดงที่อยู่บนแผ่นศีลไม่ใช่เลือด  แต่เป็นเชื้อราสีแดง หรือแบคทีเรียสีแดงประเภท Neurospora cressa or Serratia marcescens
ในอดีตมีปรากฏการณ์อัศจรรย์ศีลมหาสนิทหลายครั้ง  และทางพระศาสนจักรจะทำการตรวจสอบอย่างแน่ชัดเสียก่อน  อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากพระเป็นเจ้านั้นเป็นไปเพื่อความดีของมนุษย์  เพื่อส่งเสริมความเชื่อให้มั่นคง  ปรากฏการณ์ครั้งนี้ทำให้ประหลาดใจ  แต่ก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งเท่านั้น 

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558

พระประสงค์ของแม่พระย่อมสำเร็จเสมอ

ในการสร้างกางเขน ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทุรกันดาร ต้องขนปูนซีเมนต์จำนวนหลายตันบรรจุในถังและนำขึ้นไปบนภูเขาที่สูงชัน  อะไรคือสาเหตุที่ทำให้มีการก่อสร้างกางเขนขึ้นบนภูเขา?
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

จูบของพระสันตปาปา


PHILADELPHIA (CBS) - สามีภรรยา โจอี้ และ คริสเตน มาสเซียโตนีโอ (Joey and Kristen Masciantonio) เล่าว่า เมื่อพระสันตะปาปาเสด็จเยือนฟิลาเดลเฟีย, อเมริกา  พระองค์ทรงจูบเกียนนา (Gianna) ลูกสาวอายุ 1 ขวบของเขา  พระองค์ทรงจูบศีรษะลูกสาวของเขา
เกียนนาเป็นเนื้องอกในสมองที่รักษาไม่ได้  เม็ดเลือดได้โจมตีสมองของเธอหลังจากที่เธอเกิดมาได้หนึ่งสัปดาห์
ครอบครัวมาสเซียโตนีโออยู่ที่ด้านหน้าของกลุ่มคนที่มาต้อนรับพระสันตปาปาซึ่งเสด็จมาที่ Independence Hall พวกเขาหวังว่าพระองค์อาจจะเห็นพวกเขาบ้าง และต้องขอบคุณ Domenico Giani เพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจ FBIและเป็นบอดี้การ์ดของพระสันตปาปาในการเสด็จไปที่นั่น  เพื่อนตำรวจผู้นี้ได้อุ้มเกียนนาไปหาพระสันตปาปา
ครอบครัวมาสเซียโตนีโอเชื่อว่านี่เป็นความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้า  และเพื่อนตำรวจของเขาก็มีชื่อเหมือนลูกสาวของเขา  พวกเขาพูดว่า ในการสแกนสมองเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  พบว่ามีเนื้องอกในสมองของเกียนนา
และเมื่อสแกนอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน  ก็ไม่มีสัญญาณของเนื้องอกนั้นแล้ว.

              ผู้เป็นแม่บอกว่า “เธอมีอาการดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น  เธอจูบฉัน  เธอเริ่มชี้นิ้วไปที่สิ่งต่างๆ”

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การแสดง-แสง-เสียง-สี



9 ธ.ค. 2015 -การแสดง แสง เสียง สี ที่วาติกัน  เพื่อสนองตอบต่อพระสมณสาส์น "Laudato Si” ของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเดินขบวนประท้วงในสเปน


ชาวคาทอลิกในสเปนเดินขบวนประท้วงการทุรจารศีลมหาสนิทจำนวน 248 แผ่นที่มีผู้ขโมยไปจากโบสถ์

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประตูแห่งพระเมตตา


“ก่อนที่เราจะมาในฐานะผู้พิพากษาทรงความยุติธรรม  เราจะเปิดประตูแห่งพระเมตตาของเรา  ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมเข้าประตูแห่งพระเมตตานี้  จะต้องเข้าประตูแห่งพระยุติธรรมของเราแทน”  พระเยซูเจ้าตรัสกับ น.โฟสตินา

ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม  8 ธ.ค. 2015 – 20 พ.ย. 2016

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อันตรายจากสาหร่ายทอดกรอบ

        ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ "สาหร่ายทะเลแห้ง" เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีนและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง สาหร่ายทะเลแห้งที่จำหน่ายในท้องตลาด มีการปรุงแต่งรส และกลิ่นให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้ สาหร่ายทะเลแห้งกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตรวจพบการปนเปื้อนที่มีนัยสำคัญทางสถิติและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับประทาน
        ในเรื่องนี้ ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า สถาบันอาหารได้ตรวจสอบพบในตัวอย่างที่สุ่มมาตรวจมีสารแคดเมียมปนเปื้อนเกิน 2 มก./กก. ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่หลายประเทศกำหนดไว้ โดยปกติสาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีขีดความสามารถในการดูดซับสารที่อยู่ในทะเลได้มาก ดังนั้น หากบริเวณที่สาหร่ายทะเลขึ้นอยู่มีสารปนเปื้อนที่เป็นพิษสูง สาหร่ายก็จะดูดซับสารเหล่านั้นเข้ามาไว้ เมื่อนำมาบริโภคก็จะเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ แต่คนไทยไม่ได้บริโภคสาหร่ายทะเลเป็นอาหารหลักเหมือนกับญี่ปุ่น หรือ จีน และไม่ได้บริโภคกันในปริมาณมากนัก เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค จึงควรรับประทานสาหร่ายแห้งในปริมาณที่ไม่มาก และติดต่อกันนานเกินไป รวมทั้งต้องบริโภคอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย และลดโอกาสในการได้รับสารพิษจากสาหร่ายทะเลแห้งเพราะแคดเมียมเป็นสารที่ร่างกายสามารถขับออกมาได้ตามธรรมชาติ"
        ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ แต่ละประเทศจะมีมาตรฐานของการปนเปื้อนสารแคดเมียมในปริมาณที่แตกต่างกัน เแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 2 มก./กก. ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารไว้แน่ชัด แต่ได้กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนในน้ำดื่มว่า หากเป็นน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะกำหนดไม่ให้เกิน 0.003 พีพีเอ็ม และหากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดจะต้องไม่เกิน 0.005 พีพีเอ็ม
         จากเรื่องสาหร่ายทะเลแห้ง ก็มาถึงเรื่องความปลอดภัยในอาหารการกินอื่น ๆ กันบ้าง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปนเปื้อนน้อยลงลดลง โดยในกลุ่มอาหารสด เช่น สารเร่งเนื้อแดง สารฟอกสี สารกันรา บอแรกซ์ ฟอร์มาลิน และสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันนี้ ไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่า เนื้อสัตว์และพืชผักทั้งหลายที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีความปลอดภัยต่อการบริโภคมากน้อยเพียงใด
        มีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือไม่ อย่างไร ทางที่ดีจึงต้องใช้แนวทางของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยหันมาลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองเลือกกินผักผลไม้พื้นบ้านในท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมทั้งช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด