พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สีแดงบนแผ่นศีลเป็นเชื้อรา


จากรายงานข่าวที่มีศีลมหาสนิทเป็นสีแดงคล้ายเลือดที่โบสถ์เซนต์เซีเวียร์ใน เซาท์เลคซิตี้  รัฐยูทาห์ ของสหรัฐอเมริกา  บัดนี้ทางสังฆมณฑลได้ประกาศอย่างเป็นทางการหลังจากได้ตรวจวิเคราะห์ในห้องทดลองแล้ว  ปรากฏว่าสีแดงที่อยู่บนแผ่นศีลไม่ใช่เลือด  แต่เป็นเชื้อราสีแดง หรือแบคทีเรียสีแดงประเภท Neurospora cressa or Serratia marcescens
ในอดีตมีปรากฏการณ์อัศจรรย์ศีลมหาสนิทหลายครั้ง  และทางพระศาสนจักรจะทำการตรวจสอบอย่างแน่ชัดเสียก่อน  อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากพระเป็นเจ้านั้นเป็นไปเพื่อความดีของมนุษย์  เพื่อส่งเสริมความเชื่อให้มั่นคง  ปรากฏการณ์ครั้งนี้ทำให้ประหลาดใจ  แต่ก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งเท่านั้น 

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558

พระประสงค์ของแม่พระย่อมสำเร็จเสมอ

ในการสร้างกางเขน ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทุรกันดาร ต้องขนปูนซีเมนต์จำนวนหลายตันบรรจุในถังและนำขึ้นไปบนภูเขาที่สูงชัน  อะไรคือสาเหตุที่ทำให้มีการก่อสร้างกางเขนขึ้นบนภูเขา?
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

จูบของพระสันตปาปา


PHILADELPHIA (CBS) - สามีภรรยา โจอี้ และ คริสเตน มาสเซียโตนีโอ (Joey and Kristen Masciantonio) เล่าว่า เมื่อพระสันตะปาปาเสด็จเยือนฟิลาเดลเฟีย, อเมริกา  พระองค์ทรงจูบเกียนนา (Gianna) ลูกสาวอายุ 1 ขวบของเขา  พระองค์ทรงจูบศีรษะลูกสาวของเขา
เกียนนาเป็นเนื้องอกในสมองที่รักษาไม่ได้  เม็ดเลือดได้โจมตีสมองของเธอหลังจากที่เธอเกิดมาได้หนึ่งสัปดาห์
ครอบครัวมาสเซียโตนีโออยู่ที่ด้านหน้าของกลุ่มคนที่มาต้อนรับพระสันตปาปาซึ่งเสด็จมาที่ Independence Hall พวกเขาหวังว่าพระองค์อาจจะเห็นพวกเขาบ้าง และต้องขอบคุณ Domenico Giani เพื่อนของเขาที่เป็นตำรวจ FBIและเป็นบอดี้การ์ดของพระสันตปาปาในการเสด็จไปที่นั่น  เพื่อนตำรวจผู้นี้ได้อุ้มเกียนนาไปหาพระสันตปาปา
ครอบครัวมาสเซียโตนีโอเชื่อว่านี่เป็นความช่วยเหลือของพระเป็นเจ้า  และเพื่อนตำรวจของเขาก็มีชื่อเหมือนลูกสาวของเขา  พวกเขาพูดว่า ในการสแกนสมองเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  พบว่ามีเนื้องอกในสมองของเกียนนา
และเมื่อสแกนอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน  ก็ไม่มีสัญญาณของเนื้องอกนั้นแล้ว.

              ผู้เป็นแม่บอกว่า “เธอมีอาการดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น  เธอจูบฉัน  เธอเริ่มชี้นิ้วไปที่สิ่งต่างๆ”

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การแสดง-แสง-เสียง-สี



9 ธ.ค. 2015 -การแสดง แสง เสียง สี ที่วาติกัน  เพื่อสนองตอบต่อพระสมณสาส์น "Laudato Si” ของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเดินขบวนประท้วงในสเปน


ชาวคาทอลิกในสเปนเดินขบวนประท้วงการทุรจารศีลมหาสนิทจำนวน 248 แผ่นที่มีผู้ขโมยไปจากโบสถ์

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประตูแห่งพระเมตตา


“ก่อนที่เราจะมาในฐานะผู้พิพากษาทรงความยุติธรรม  เราจะเปิดประตูแห่งพระเมตตาของเรา  ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมเข้าประตูแห่งพระเมตตานี้  จะต้องเข้าประตูแห่งพระยุติธรรมของเราแทน”  พระเยซูเจ้าตรัสกับ น.โฟสตินา

ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม  8 ธ.ค. 2015 – 20 พ.ย. 2016

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อันตรายจากสาหร่ายทอดกรอบ

        ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ "สาหร่ายทะเลแห้ง" เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีนและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง สาหร่ายทะเลแห้งที่จำหน่ายในท้องตลาด มีการปรุงแต่งรส และกลิ่นให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้ สาหร่ายทะเลแห้งกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตรวจพบการปนเปื้อนที่มีนัยสำคัญทางสถิติและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับประทาน
        ในเรื่องนี้ ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า สถาบันอาหารได้ตรวจสอบพบในตัวอย่างที่สุ่มมาตรวจมีสารแคดเมียมปนเปื้อนเกิน 2 มก./กก. ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่หลายประเทศกำหนดไว้ โดยปกติสาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีขีดความสามารถในการดูดซับสารที่อยู่ในทะเลได้มาก ดังนั้น หากบริเวณที่สาหร่ายทะเลขึ้นอยู่มีสารปนเปื้อนที่เป็นพิษสูง สาหร่ายก็จะดูดซับสารเหล่านั้นเข้ามาไว้ เมื่อนำมาบริโภคก็จะเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ แต่คนไทยไม่ได้บริโภคสาหร่ายทะเลเป็นอาหารหลักเหมือนกับญี่ปุ่น หรือ จีน และไม่ได้บริโภคกันในปริมาณมากนัก เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค จึงควรรับประทานสาหร่ายแห้งในปริมาณที่ไม่มาก และติดต่อกันนานเกินไป รวมทั้งต้องบริโภคอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย และลดโอกาสในการได้รับสารพิษจากสาหร่ายทะเลแห้งเพราะแคดเมียมเป็นสารที่ร่างกายสามารถขับออกมาได้ตามธรรมชาติ"
        ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ แต่ละประเทศจะมีมาตรฐานของการปนเปื้อนสารแคดเมียมในปริมาณที่แตกต่างกัน เแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 2 มก./กก. ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารไว้แน่ชัด แต่ได้กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนในน้ำดื่มว่า หากเป็นน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะกำหนดไม่ให้เกิน 0.003 พีพีเอ็ม และหากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดจะต้องไม่เกิน 0.005 พีพีเอ็ม
         จากเรื่องสาหร่ายทะเลแห้ง ก็มาถึงเรื่องความปลอดภัยในอาหารการกินอื่น ๆ กันบ้าง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปนเปื้อนน้อยลงลดลง โดยในกลุ่มอาหารสด เช่น สารเร่งเนื้อแดง สารฟอกสี สารกันรา บอแรกซ์ ฟอร์มาลิน และสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันนี้ ไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่า เนื้อสัตว์และพืชผักทั้งหลายที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีความปลอดภัยต่อการบริโภคมากน้อยเพียงใด
        มีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือไม่ อย่างไร ทางที่ดีจึงต้องใช้แนวทางของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยหันมาลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองเลือกกินผักผลไม้พื้นบ้านในท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมทั้งช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด