คุณคิดว่า
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงมีชัยชนะต่อปีศาจแล้วจะทำให้มันยอมแพ้หรือ? เป็นไปไม่ได้เลย. แท้จริงในพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
"เมื่อปีศาจล่อลวงทุกอย่างจนเสร็จสิ้นแล้วก็ละจากพระองค์
เพื่อรอโอกาสใหม่อีก" (Luke 4:13). มันหยุดล่อลวงก็จริงแต่มันจะไม่ไปไกล
มันจะกลับมาโจมตีพระเยซูเจ้าอีกโดยอาศัยยูดาส อิสคารีออท.
พระคัมภีร์บอกว่าก่อนที่ยูดาสจะทรยศต่อพระเยซูเจ้า ปีศาจได้เข้าสิงจิตใจของยูดาส.
นั่นแสดงให้เห็นว่าปีศาจยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ. มันเข้มแข็งมาก.
มีเรื่องของซิสเตอร์ผู้หนึ่ง เธอชื่อ ซิสเตอร์เอ็มมา.
เธอเป็นคนอ่อนหวานและมีจิตใจที่ดีงามและเธอจะพูดถึงคนอื่นในทางที่ดีเท่านั้น
แม้แต่คนที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคนชั่วมาก
เธอก็พยายามหาสิ่งที่ดีในตัวเขาเมื่อพูดถึงเขา
เธอไม่เคยพูดถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดีเลย. ครั้งหนึ่งคุณพ่ออธิการได้พูดกับเธอว่า
"เอ็มมา, พ่อขอพนันกับเธอว่า
เธอไม่สามารถหาอะไรที่เป็นความดีในตัวปีศาจได้"
เอ็มมาใช้เวลาคิดสักพักแล้วพูดว่า "อย่างน้อย, มันก็ขยันทำงานอยู่เสมอนะคะ".
ถูกต้องทีเดียว, มันทำงานของมันอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น,ถ้าหากคุณเคยชนะต่อการประจญล่อลวงของมันมาแล้วในอดีต.
ก็อย่าคิดว่าคุณได้รับชัยชนะเด็ดขาดแล้ว. นักบุญเปโตรเตือนเราว่า
"จงเตรียมตัวให้พร้อมไว้เสมอ. เพราะศัตรูของท่านคือปีศาจ
มันกำลังเดินวนเวียนประดุจสิงโตคำรามที่เสาะหาเหยื่อที่มันจะกัดกินได้" (1 Peter
5:8)
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2025 สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล
& พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟิลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” เขาทูลตอบว่า “บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร” ซีโมน เปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”
(มัทธิว 16:13-19)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2025 สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล
& พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟิลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” เขาทูลตอบว่า “บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร” ซีโมน เปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”
(มัทธิว 16:13-19)
วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559
การรักษาเซลส์
ประมาณ
ค.ศ.1931 ศาสตราจารย์ นพ.พอล นีฮาน (Dr.Paul Niehans) ศัลยแพทย์ชาวสวิสได้ค้นพบว่าเซลล์ที่เหมือนกันจะเดินทางไปรักษา
ไปซ่อมแซมเซลล์ที่อยู่ในอวัยวะเดียวกัน เช่น เซลล์ของตับก็จะเดินทางไปรักษาตับ
เซลล์ของหัวใจก็จะเดินทางไปรักษาหัวใจ แม้กระทั่งอวัยวะเล็กๆ เช่น ต่อมหมวกไต
ประสาทตา เซลล์จอตา หรือ เซลล์สมองพวก Cerebrum, Cerebellum ก็จะยังเกิดขบวนการซ่อมแซมภายหลังจากที่ได้รับเซลล์ชีวิตเข้าไป
ทฤษฎีนี้เรียกว่า Cell Heals Cell เซลส์ซ่อมเซลส์
เมื่อคราวที่พระสันตะปาปา
Pius ที่ 12
ป่วยหนัก มีอาการไม่สบายมาก สะอึกตลอดวันตลอดคืน
รับประทานอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ จึงได้เชิญ ศ.นพ.นีฮานไปรักษา
ศ.นพ.นีฮานตัดสินใจรับรักษาพระสันตะปาปา ที่กรุงโรม ด้วยวิธี Live Cell
Therapy ประมาณ 1 เดือน พระส้นตะปาปา Pius
ที่ 12 ก็กลับฟื้นขึ้นมาและมีสุขภาพแข็งแรงได้ราวปฎิหาริย์
ต่อมาท่านพระสันตะปาปาได้แต่งตั้ง ศ.นพ.นีฮาน ในฐานะ Papal Academy of
Science เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงความดีงามที่ ศ.นพ.นีฮาน
ได้ทุ่มเททวายการรักษาพระองค์
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559
เครื่องหมายของบุตรแห่งมนุษย์
พระคัมภีร์บอกเราว่า
เครื่องหมายของบุตรแห่งมนุษย์จะเกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหวในเยรูซาเล็ม
เพื่อเป็นการเตือนมนุษยชาติถึงการลงทัณฑ์ครั้งสำคัญครั้งสุดท้ายในปัสกาของพระศาสนจักร
ในช่วงเวลาแห่งการเบียดเบียนของแอนตี้ไครส์
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559
พระสันตปาปาท่ามกลางพายุ
พระศาสนาจักรจะต้องเผชิญกับการเบียดเบียนทำร้ายและสิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตจนถึงเวลาของเรานั้นยังไม่มากและรุนแรงเท่ากับพระศาสนาจักรและพระสันตะปาปาที่จะต้องเผชิญในอนาคต
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559
ความลับของพระสันตปาปา
พระสันตปาปาฟรังซิสมีสิ่งของ 2
สิ่งอยู่ในกระเป๋าของพระองค์เสมอ
และนี่เป็นความลับของพระสันตปาปา
วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559
พระเจ้าทรงดูแล
มีคำกล่าวว่า
“มนุษย์เป็นผู้ลิขิตชีวิตของตนเอง”
เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะวางแผนการณ์อนาคตของเราไว้ให้เรียบร้อย แต่คนเรามักจะลืมที่จะวางแผนชึวิตสำหรับเวลาที่เราตายไปแล้วด้วย เราวางแผนอนาคตสำหรับชีวิตในโลกนี้เท่านั้น มีกล่าวไว้เช่นกันว่า “จงอย่าวิตกกังวล ว่าจะเอาอะไรกิน อะไรดื่ม หรือจะเอาอะไรนุ่งห่ม”(มธ.6:23)
“จงให้สิ่งต่างๆที่เจ้าต้องการ ความหวังและความกลัวของเจ้า ให้ทุกๆสิ่งมาอยู่ภายใต้ความดูแลของเรา”“จงแสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าก่อน แล้วพระองค์จะประทานสิ่งอื่นๆให้เอง” (มธ.6:33)
วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559
ความศรัทธาต่อพระนางมารีย์และศีลมหาสนิท
ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีความศรัทธาต่อพระนางมารีย์และมีความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทคู่กันไป เพราะเหตุใดหรือ? ก็เพราะผู้ที่ทำเช่นนี้จะรอดพ้นจากความผิดบาป พระนางมารีย์เป็นหีบพันธะสัญญาในพระธรรมใหม่ เช่นเดียวกับหีบพันธะสัญญาเดิม
พระนางมารีย์มีพระวจนาตถ์อยู่ภายในพระครรภ์ของพระนางเป็นเวลาถึงเก้าเดือน
(พระวจนะของพระเจ้าที่เป็นเลือดเนื้อ ไม่ใช่แผ่นศิลา) พระนางมารีย์และศีลมหาสนิทเป็นเสาหลักสองต้นของพระศาสนจักรคาทอลิกซึ่งเป็นที่หวาดกลัวของปีศาจ
พระวจนาตถ์ทรงรับเนื้อหนังจากพระนางมารีย์พระนางมารีย์และศีลมหาสนิทในพระธรรมใหม่มีความหมายที่สอดคล้องโดยตรงกับหีบพันธะสัญญาและพระวจนะของพระเจ้า (แผ่นศิลาที่จารึกพระบัญญํติสิบประการของพระเจ้า)ในพระธรรมเก่า ชาวอิสราแอลสามารถยึดเมืองเจริโคได้สำเร็จ เมื่อพวกเขาแห่แหนพระวจนะของพระเจ้าที่อยู่ในหีบพันธะสัญญาไว้ข้างหน้าพวกเขาไปรอบเมืองเจริโค พวกเราในวันนี้ก็ต้องกระทำเช่นเดียวกัน คริสตชนผู้ติดตามพระคริสต์และพระวาจาสั่งสอนของพระองค์ก็จำเป็นต้องมีพระนางมารีย์ (หีบพันธะสัญญา) และศีลมหาสนิท (พระวจนะของพระเจ้าที่ทรงเป็นเลือดเนื้อมนุษย์) อยู่ข้างหน้าพวกเขา แล้วพวกเขาจะได้รับชัยชนะในสงครามการสู้รบฝ่ายจิตกับซาตาน ยิ่งพวกเขามีความศรัทธาต่อพระนางมารีย์โดยการสวดสายประคำและกิจศรัทธาอื่นๆต่อพระนางพร้อมด้วยความศรัทธาต่อศีลมหาสนิท การประจญล่อลวงต่างๆของปีศาจที่อาจทำลายชายหญิง.บรรดา เยาวชน และมนุษย์ทั้งหลายให้พินาศได้ จักไม่อาจทำอันตรายต่อผู้ที่มีความศรัทธาในพระนางมารีย์และศีลมหาสนิทได้เป็นอันขาด กิจศรัทธาเหล่านี้จะเป็นดังชุดเกราะที่คอยปกป้องผู้สวมใส่ให้รอดพ้นจากอาวุธของศัตรู คริสตชนจะได้รับการปกป้องให้รอดพันจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อจิตใจของโลกยุคสมัยใหม่ซึ่งนิยมลุ่มหลงในวัตถุและถือเอาตนเองเป็นใหญ่ พระนางมารีย์ทรงเสนอวิงวอนองค์พระบุตรเพื่อมนุษย์อยู่เสมอ และองค์พระบุตรก็ทรงประทานพระหรรษทานต่างๆแก่พระนางโดยผ่านทางศีลมหาสนิท
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)