พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระสันตปาปาจะพบกับพระอัยกาคิริล


VATICANCITY : พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนเม็กซิโกในระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์นี้  และจะทรงหยุดแวะที่คิวบาเพื่อพบกับพระอัยกาแห่งพระศาสนจักรออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซีย  นับเป็นการพบกันครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร  ต่อไปนี้เป็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ Fuller
พระศาสนจักรและศาสนจักรแห่งรัสเซียมีความยินดีที่จะประกาศว่า  ด้วยพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า  พระสันตปาปาฟรังซิสและพระอัยกาคิริลแห่งมอสโคและแห่งรัสเซียจะพบกันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2016  การพบกันจะมีขึ้นที่คิวบา  โดยพระสันตะปาปาจะหยุดแวะในระหว่างการเดินทางไปเม็กซิโก  ส่วนพระอัยกาจะเยี่ยมคิวบาอย่างเป็นทางการ  จะมีการสนทนากันที่สนามบิน โจเซี่ มาร์ติในกรุงฮาวานา  และจะมีการลงนามประกาศร่วมกันด้วย
            การพบกันระหว่างหัวหน้าพระศาสนจักรคาทอลิกและศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย  หลังจากที่มีการเตรียมการอย่างเป็นเวลานานครั้งนี้  จะเป็นการพบกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์และจะเป็นขั้นสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรทั้งสอง  พระสันตปาปาและพระอัยกาแห่งมอสโคยังหวังว่านี่จะเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังสำหรับประชาชนผู้ที่มีน้ำใจดีทั้งหลาย  ทั้งสองท่านต่างเชื้อเชิญให้คริสตชนทุกคนสวดภาวนาเพื่อที่พระเป็นเจ้าจะทรงประทานพระพรสำหรับการพบกันครั้งนี้  เพื่อที่จะได้บังเกิดผลที่ดีตามมา

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ร่างของคุณพ่อปีโอถึงกรุงโรม



CNA Vatican City, Feb 4, 2016 / 10:03 am- พระธาตุร่างกายที่ไม่เน่าเปื่อยของคุณพ่อปีโอ ได้มาถึงกรุงโรมเป็นครั้งแรก  และจะไปตั้งอยู่ใกล้กับพระธาตุของนักบุญลีโอโปลด์  แมนดิค  นี่ถือเป็นการเริ่มต้นของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม  พระธาตุทั้งสองจะตั้งอยู่ในอาสนวิหารนักบุญลอเรนซ์ ในกรุงโรมตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2016  นักบุญทั้งสองท่านมีชื่อเสียงในด้านการเป็นผู้ฟังสารภาพบาป  ทั้งนี้เพื่อบอกทุกคนให้หันกลับมาคืนดีกับพระเป็นเจ้าและพระศาสนจักรในระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์นี้  ด้วยการไปสารภาพบาปแก้ไขความผิดของตน

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญ-2

ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด Saint Peter Julian Eymard ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ 

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระนางมารีย์ที่ฟาติมา

พระนางมารีย์ทรงประจักษ์มาหลายครั้งในระยะสุดท้ายของยุคสมัยนี้  เพื่อเตือนมนุษย์ให้กลับมาหาองค์พระบุตรของพระนาง  การประจักษ์ครั้งสำคัญที่สุดคือที่ฟาติมา  ประเทศโปรตุเกสในปี 1917  แม่พระทรงเตือนเกี่ยวกับการมาของลัทธิคอมมิวนิสต์และการปฏิวัติที่ปราศจากพระเจ้าซึ่งจะแพร่กระจายไปทั่วโลก  แม่พระทรงขอร้องให้เราทุกคนสวดสายประคำทุกวันเพื่อสันติภาพของโลก  ครั้งสุดท้ายที่แม่พระประจักษ์คือเดือนตุลาคม 1917  และไม่กี่วันหลังจากการประจักษ์  ก็มีการปฏิวัติของกษฏบอลเชวิคในประเทศรัสเซีย  สิ่งที่น่าสนใจคือ  ลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปเริ่มต้นโดยบรรดากรรมกรที่ไม่เชื่อในพระเจ้าทำการปฏิวัติบนท้องถนนของรัสเซียในปี 1917  และต่อมาลัทธิคอมมิวนิสต์ก็ถูกโค่นทำลายลงโดยบรรดากรรมกรคาทอลิกที่ลุกขึ้นต่อต้านบนถนนในประเทศโปแลนด์ (ประเทศซึ่งศรัทธาในแม่พระมาก) ในปี 1989 (72 ปี)
ย้อนกลับมาที่ฟาติมาในเดือนตุลาคม  มีอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นต่อหน้าสายตาประชาชนหลายหมื่นคน  คืออัศจรรย์ดวงอาทิตย์  และอัศจรรย์สำคัญนี้ถูกบันทึกและแพร่ข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ดำเนินงานโดยกลุ่มฟรีเมซอน  แม่พระยังทรงทำนายถึงความทุกข์ยากที่น่ากลัวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (เวลานั้นสงครามโลกครั้งที่1 ใกล้จะยุติ)  ถ้าหากประชาชนยังไม่กลับใจ  และในปี 1939 เยอรมนีก็ยกทัพโจมตีโปแลนด์  สงครามโลกครั้ง 2 อุบัติขึ้นเมื่อญี่ปุ่นโจมตีสหรัฐที่เพิรล์ฮาเบอร์ในวันที่ 7 ธ.ค. 1947  แต่สุดท้ายญี่ปุ่นก็ยอมแพ้ในวันที่ 15 ส.ค. 1945 ซึ่งตรงกับวันฉลองแม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ไม่มีแม่พระก็ไม่มีพระเยซูเจ้า

ไม่มีแม่พระก็ไม่มีพระเยซูเจ้า  ไม่รู้จักแม่พระก็ไม่รู้จักพระเยซูเจ้า
แม่พระทรงให้กำเนิดพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นปังแห่งชีวิต ที่”เบ็ทเลเฮ็ม” ซึ่งเป็นภาษายิวแปลว่า “บ้านขนมปัง”  แม่พระทรงวางพระกุมารไว้ในรางหญ้า (รางหญ้า = manger มาจากคำว่า mangia ซึ่งแปลว่า “สำหรับกิน”) รางหญ้ามีไว้เพื่อให้อาหารแกะ  นี่เป็นสัญลักษณ์ในการที่เราเข้าไปรับศีลมหาสนิท  พระคริสต์ทรงบังเกิดในสถานที่อันต่ำต้อย  แต่สถานที่อันต่ำต้อยนี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โดยการประทับอยู่ของพระเยซูคริสต์  ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อพระเยซูเจ้าทรงมาประทับอยู่ในสถานที่อันต่ำต้อยอีกแห่งหนึ่ง  นั่นคือร่างกายที่ต่ำต้อยเพราะบาปของเรา  พระองค์ทรงทำให้ร่างกายนี้ศักดิ์สิทธิ์  ถ้าปราศจากพระคริสต์  ซาตานจะเข้าครอบครองพวกเราทั้งหมด  แม่พระทรงเป็นมารดาที่น่ารัก  พระนางทรงเลี้ยงดูพวกเราด้วยพระบุตรของพระนางในศีลมหาสนิท  เพื่อที่พวกเราจะได้มีชีวิตนิรันดร  และพระนางปรารถนาให้เราทุกคนทำความสะอาดจิตใจของเราด้วยการไปรับศีลอภัยบาป  ในศีลอภัยบาปพวกเราได้บังเกิดใหม่ได้ชีวิตใหม่  และผู้บังเกิดมาย่อมต้องมีมารดา  และพระนางมารีย์ทรงเป็นมารดาของพวกเรา  ตามที่พระคัมภีร์วิวรณ์12:17 กล่าวไว้ว่า “และพวกเราจะเป็นลูกของพระนาง   ถ้าเราเป็นพยานยืนยันถึงพระคริสต์และปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์” 

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระดำรัสสำหรับเทศกาลมหาพรต2016


ROME — พระสันตปาปาฟรังซิสทรงเตือน “ผู้ร่ำรวยและมีอำนาจ” ว่า ถ้าพวกเขาละเลยคนยากจนซึ่งอยู่ใกล้พวกเขา (คนยากจนผู้เป็นเหมือนพระคริสต์อีกองค์หนึ่ง)  พวกเขาจะจบชีวิตในนรก
พระสันตะปาปาวิงวอนคริสตชนทุกคนให้ใช้เวลา 40 วันในเทศกาลมหาพรตที่จะเริ่มต้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เพื่อ”เอาชนะความโน้มเอียงที่ไม่ดี”ของตน  โดยฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติกิจเมตตา
โดยการให้อาหารแก่ผู้หิวโหย  ให้เสื้อผ้าแก่ผู้เปล่าเปลือย  ให้ที่พักแก่ผู้ไร้บ้าน  การเยี่ยมผู้ขัดสน  การให้คำปรึกษา และให้อภัยเหมือนที่พระคริสต์ทรงให้อภัย
“โดยการสัมผัสร่างกายของพระเยซูผู้ถูกตรึงกางเขนด้วยความทรมาน  คนบาปจะสามารถรับพระพรที่จะทำให้เขาตระหนักว่า  พวกเขาก็เป็นคนยากจนขัดสนด้วยเช่นกัน”
พระคริสต์กลับกลายเป็นผู้มองเห็นได้ในผู้ที่ทุกข์ทรมาน  ผู้ถูกบดขยี้  ผู้เจ็บป่วย  ผู้หิวโหยอดอาหารและผู้ลี้ภัย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือผู้ที่ได้รับการเบียดเบียนเพราะความเชื่อของพวกเขาซึ่งมีอยู่ทั่วโลก
โดยอาศัยกิจการแห่งความเมตตาเท่านั้นที่ผู้มีอำนาจและคนร่ำรวยสามารถได้รับการโอบกอดและความรักจากพระเยซู พระผู้ทรงถูกตรึงกางเขนและกลับคืนชีพเพื่อพวกเขา
ความรักของพระคริสต์เป็นคำตอบสำหรับ “การได้รับความสุขและความรักนิรันดร แทนสิ่งที่เราคิดว่ามันให้ความสุขด้วยอุปมัยของความรู้, อำนาจและความร่ำรวย”
“แต่อันตรายยังมีอยู่เสมอสำหรับผู้มีใจหยิ่งทะนง  คนร่ำรวยและผู้มีอำนาจ  ถ้าพวกเขาปิดประตูหัวใจของเขาต่อพระคริสต์ผู้ทรงเคาะประตูเรียกพวกเขาในตัวของผู้ยากจน  พวกเขาจะจบชีวิตและสาปแช่งตัวเองให้ตกลงสู่ห้วงมหรรณพอันโดดเดี่ยวอ้างว้างนั่นก็คือนรก”
 “พวกเขาคิดว่าตัวเองร่ำรวย  แต่แท้ที่จริงพวกเขายากจนที่สุดในบรรดาความยากจน  เพราะพวกเขาเป็นทาสของบาป  โดยการไม่ใช้ความร่ำรวยและอำนาจเพื่อรับใช้พระเจ้าและคนอื่นๆ  แต่จงรับรู้ในส่วนลึกของหัวใจของเขาเถอะว่า  พวกเขาก็เช่นกัน  เป็นเพียงคนยากจนและขอทานเท่านั้น”
 “ยิ่งมีอำนาจและร่ำรวยมากเท่าไร  ความมืดบอดและการหลอกลวงก็มีมากขึ้นเท่านั้น  พวกเขามืดบอดต่อพระคริสต์  พระผู้ทรงพร่ำวิงวอนพวกเขาโดยผ่านทางคนยากจนและสาส์นของเรา”
เทศกาลมหาพระกินเวลา 40 วัน  เป็นเวลาสำหรับทำพลีกรรมการอดอาหาร  สวดภาวนา  และกลับใจใช้โทษบาป  เริ่มต้นในวันพุธรับเถ้า 10 กุมภาพันธ์  และเตรียมจิตใจสำหรับวันอิสเตอร์ที่จะมาถึงซึ่งตรงกับวันที่ 24 มีนาคม