พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระสันตปาปาจะพบกับพระอัยกาคิริล


VATICANCITY : พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนเม็กซิโกในระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์นี้  และจะทรงหยุดแวะที่คิวบาเพื่อพบกับพระอัยกาแห่งพระศาสนจักรออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซีย  นับเป็นการพบกันครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร  ต่อไปนี้เป็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ Fuller
พระศาสนจักรและศาสนจักรแห่งรัสเซียมีความยินดีที่จะประกาศว่า  ด้วยพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า  พระสันตปาปาฟรังซิสและพระอัยกาคิริลแห่งมอสโคและแห่งรัสเซียจะพบกันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2016  การพบกันจะมีขึ้นที่คิวบา  โดยพระสันตะปาปาจะหยุดแวะในระหว่างการเดินทางไปเม็กซิโก  ส่วนพระอัยกาจะเยี่ยมคิวบาอย่างเป็นทางการ  จะมีการสนทนากันที่สนามบิน โจเซี่ มาร์ติในกรุงฮาวานา  และจะมีการลงนามประกาศร่วมกันด้วย
            การพบกันระหว่างหัวหน้าพระศาสนจักรคาทอลิกและศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย  หลังจากที่มีการเตรียมการอย่างเป็นเวลานานครั้งนี้  จะเป็นการพบกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์และจะเป็นขั้นสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรทั้งสอง  พระสันตปาปาและพระอัยกาแห่งมอสโคยังหวังว่านี่จะเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังสำหรับประชาชนผู้ที่มีน้ำใจดีทั้งหลาย  ทั้งสองท่านต่างเชื้อเชิญให้คริสตชนทุกคนสวดภาวนาเพื่อที่พระเป็นเจ้าจะทรงประทานพระพรสำหรับการพบกันครั้งนี้  เพื่อที่จะได้บังเกิดผลที่ดีตามมา

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ร่างของคุณพ่อปีโอถึงกรุงโรม



CNA Vatican City, Feb 4, 2016 / 10:03 am- พระธาตุร่างกายที่ไม่เน่าเปื่อยของคุณพ่อปีโอ ได้มาถึงกรุงโรมเป็นครั้งแรก  และจะไปตั้งอยู่ใกล้กับพระธาตุของนักบุญลีโอโปลด์  แมนดิค  นี่ถือเป็นการเริ่มต้นของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม  พระธาตุทั้งสองจะตั้งอยู่ในอาสนวิหารนักบุญลอเรนซ์ ในกรุงโรมตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2016  นักบุญทั้งสองท่านมีชื่อเสียงในด้านการเป็นผู้ฟังสารภาพบาป  ทั้งนี้เพื่อบอกทุกคนให้หันกลับมาคืนดีกับพระเป็นเจ้าและพระศาสนจักรในระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์นี้  ด้วยการไปสารภาพบาปแก้ไขความผิดของตน

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญ-2

ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด Saint Peter Julian Eymard ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ 

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระนางมารีย์ที่ฟาติมา

พระนางมารีย์ทรงประจักษ์มาหลายครั้งในระยะสุดท้ายของยุคสมัยนี้  เพื่อเตือนมนุษย์ให้กลับมาหาองค์พระบุตรของพระนาง  การประจักษ์ครั้งสำคัญที่สุดคือที่ฟาติมา  ประเทศโปรตุเกสในปี 1917  แม่พระทรงเตือนเกี่ยวกับการมาของลัทธิคอมมิวนิสต์และการปฏิวัติที่ปราศจากพระเจ้าซึ่งจะแพร่กระจายไปทั่วโลก  แม่พระทรงขอร้องให้เราทุกคนสวดสายประคำทุกวันเพื่อสันติภาพของโลก  ครั้งสุดท้ายที่แม่พระประจักษ์คือเดือนตุลาคม 1917  และไม่กี่วันหลังจากการประจักษ์  ก็มีการปฏิวัติของกษฏบอลเชวิคในประเทศรัสเซีย  สิ่งที่น่าสนใจคือ  ลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปเริ่มต้นโดยบรรดากรรมกรที่ไม่เชื่อในพระเจ้าทำการปฏิวัติบนท้องถนนของรัสเซียในปี 1917  และต่อมาลัทธิคอมมิวนิสต์ก็ถูกโค่นทำลายลงโดยบรรดากรรมกรคาทอลิกที่ลุกขึ้นต่อต้านบนถนนในประเทศโปแลนด์ (ประเทศซึ่งศรัทธาในแม่พระมาก) ในปี 1989 (72 ปี)
ย้อนกลับมาที่ฟาติมาในเดือนตุลาคม  มีอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นต่อหน้าสายตาประชาชนหลายหมื่นคน  คืออัศจรรย์ดวงอาทิตย์  และอัศจรรย์สำคัญนี้ถูกบันทึกและแพร่ข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ดำเนินงานโดยกลุ่มฟรีเมซอน  แม่พระยังทรงทำนายถึงความทุกข์ยากที่น่ากลัวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (เวลานั้นสงครามโลกครั้งที่1 ใกล้จะยุติ)  ถ้าหากประชาชนยังไม่กลับใจ  และในปี 1939 เยอรมนีก็ยกทัพโจมตีโปแลนด์  สงครามโลกครั้ง 2 อุบัติขึ้นเมื่อญี่ปุ่นโจมตีสหรัฐที่เพิรล์ฮาเบอร์ในวันที่ 7 ธ.ค. 1947  แต่สุดท้ายญี่ปุ่นก็ยอมแพ้ในวันที่ 15 ส.ค. 1945 ซึ่งตรงกับวันฉลองแม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ไม่มีแม่พระก็ไม่มีพระเยซูเจ้า

ไม่มีแม่พระก็ไม่มีพระเยซูเจ้า  ไม่รู้จักแม่พระก็ไม่รู้จักพระเยซูเจ้า
แม่พระทรงให้กำเนิดพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นปังแห่งชีวิต ที่”เบ็ทเลเฮ็ม” ซึ่งเป็นภาษายิวแปลว่า “บ้านขนมปัง”  แม่พระทรงวางพระกุมารไว้ในรางหญ้า (รางหญ้า = manger มาจากคำว่า mangia ซึ่งแปลว่า “สำหรับกิน”) รางหญ้ามีไว้เพื่อให้อาหารแกะ  นี่เป็นสัญลักษณ์ในการที่เราเข้าไปรับศีลมหาสนิท  พระคริสต์ทรงบังเกิดในสถานที่อันต่ำต้อย  แต่สถานที่อันต่ำต้อยนี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โดยการประทับอยู่ของพระเยซูคริสต์  ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อพระเยซูเจ้าทรงมาประทับอยู่ในสถานที่อันต่ำต้อยอีกแห่งหนึ่ง  นั่นคือร่างกายที่ต่ำต้อยเพราะบาปของเรา  พระองค์ทรงทำให้ร่างกายนี้ศักดิ์สิทธิ์  ถ้าปราศจากพระคริสต์  ซาตานจะเข้าครอบครองพวกเราทั้งหมด  แม่พระทรงเป็นมารดาที่น่ารัก  พระนางทรงเลี้ยงดูพวกเราด้วยพระบุตรของพระนางในศีลมหาสนิท  เพื่อที่พวกเราจะได้มีชีวิตนิรันดร  และพระนางปรารถนาให้เราทุกคนทำความสะอาดจิตใจของเราด้วยการไปรับศีลอภัยบาป  ในศีลอภัยบาปพวกเราได้บังเกิดใหม่ได้ชีวิตใหม่  และผู้บังเกิดมาย่อมต้องมีมารดา  และพระนางมารีย์ทรงเป็นมารดาของพวกเรา  ตามที่พระคัมภีร์วิวรณ์12:17 กล่าวไว้ว่า “และพวกเราจะเป็นลูกของพระนาง   ถ้าเราเป็นพยานยืนยันถึงพระคริสต์และปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์” 

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระดำรัสสำหรับเทศกาลมหาพรต2016


ROME — พระสันตปาปาฟรังซิสทรงเตือน “ผู้ร่ำรวยและมีอำนาจ” ว่า ถ้าพวกเขาละเลยคนยากจนซึ่งอยู่ใกล้พวกเขา (คนยากจนผู้เป็นเหมือนพระคริสต์อีกองค์หนึ่ง)  พวกเขาจะจบชีวิตในนรก
พระสันตะปาปาวิงวอนคริสตชนทุกคนให้ใช้เวลา 40 วันในเทศกาลมหาพรตที่จะเริ่มต้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เพื่อ”เอาชนะความโน้มเอียงที่ไม่ดี”ของตน  โดยฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติกิจเมตตา
โดยการให้อาหารแก่ผู้หิวโหย  ให้เสื้อผ้าแก่ผู้เปล่าเปลือย  ให้ที่พักแก่ผู้ไร้บ้าน  การเยี่ยมผู้ขัดสน  การให้คำปรึกษา และให้อภัยเหมือนที่พระคริสต์ทรงให้อภัย
“โดยการสัมผัสร่างกายของพระเยซูผู้ถูกตรึงกางเขนด้วยความทรมาน  คนบาปจะสามารถรับพระพรที่จะทำให้เขาตระหนักว่า  พวกเขาก็เป็นคนยากจนขัดสนด้วยเช่นกัน”
พระคริสต์กลับกลายเป็นผู้มองเห็นได้ในผู้ที่ทุกข์ทรมาน  ผู้ถูกบดขยี้  ผู้เจ็บป่วย  ผู้หิวโหยอดอาหารและผู้ลี้ภัย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือผู้ที่ได้รับการเบียดเบียนเพราะความเชื่อของพวกเขาซึ่งมีอยู่ทั่วโลก
โดยอาศัยกิจการแห่งความเมตตาเท่านั้นที่ผู้มีอำนาจและคนร่ำรวยสามารถได้รับการโอบกอดและความรักจากพระเยซู พระผู้ทรงถูกตรึงกางเขนและกลับคืนชีพเพื่อพวกเขา
ความรักของพระคริสต์เป็นคำตอบสำหรับ “การได้รับความสุขและความรักนิรันดร แทนสิ่งที่เราคิดว่ามันให้ความสุขด้วยอุปมัยของความรู้, อำนาจและความร่ำรวย”
“แต่อันตรายยังมีอยู่เสมอสำหรับผู้มีใจหยิ่งทะนง  คนร่ำรวยและผู้มีอำนาจ  ถ้าพวกเขาปิดประตูหัวใจของเขาต่อพระคริสต์ผู้ทรงเคาะประตูเรียกพวกเขาในตัวของผู้ยากจน  พวกเขาจะจบชีวิตและสาปแช่งตัวเองให้ตกลงสู่ห้วงมหรรณพอันโดดเดี่ยวอ้างว้างนั่นก็คือนรก”
 “พวกเขาคิดว่าตัวเองร่ำรวย  แต่แท้ที่จริงพวกเขายากจนที่สุดในบรรดาความยากจน  เพราะพวกเขาเป็นทาสของบาป  โดยการไม่ใช้ความร่ำรวยและอำนาจเพื่อรับใช้พระเจ้าและคนอื่นๆ  แต่จงรับรู้ในส่วนลึกของหัวใจของเขาเถอะว่า  พวกเขาก็เช่นกัน  เป็นเพียงคนยากจนและขอทานเท่านั้น”
 “ยิ่งมีอำนาจและร่ำรวยมากเท่าไร  ความมืดบอดและการหลอกลวงก็มีมากขึ้นเท่านั้น  พวกเขามืดบอดต่อพระคริสต์  พระผู้ทรงพร่ำวิงวอนพวกเขาโดยผ่านทางคนยากจนและสาส์นของเรา”
เทศกาลมหาพระกินเวลา 40 วัน  เป็นเวลาสำหรับทำพลีกรรมการอดอาหาร  สวดภาวนา  และกลับใจใช้โทษบาป  เริ่มต้นในวันพุธรับเถ้า 10 กุมภาพันธ์  และเตรียมจิตใจสำหรับวันอิสเตอร์ที่จะมาถึงซึ่งตรงกับวันที่ 24 มีนาคม