Lizzy Myers
เด็กหญิงชาวอเมริกัน อายุ 5 ปี มีความฝันที่จะพบกับพระสันตปาปาฟรังซิส เธอเป็นโรคทำให้ตาบอดสนิท พระสันตะปาปาทรงอวยพรเธอและตรัสว่าจะสวดภาวนาเพื่อเธอ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สันติจงมีในสวรรค์
และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สันติจงมีในสวรรค์
และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))
วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2559
วันทามารีย์7

นักบุญเบอร์นาร์ด และนักบุญหลายท่านกล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินเลยว่า พระนางมารีย์ทรงปฎิเสธคำวิงวอนขอของลูกของพระนางบนโลกนี้ซึ่งสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือจากพระนาง ทำไมเราจึงไม่ตระหนักในความจริงนี้ล่ะ? ทำไมเราปฏิเสธความรักและความบรรเทาใจซึ่งพระมารดาอ่อนหวานของพระเจ้าทรงเสนอให้กับเราเล่า?
นักบุญ เกอร์ทรูดได้บอกกับเราในหนังสือ "Revelations" ของเธอว่า เมื่อใดก็ตามที่เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าสำหรับพระหรรษทานใดๆที่พระองค์ทรงประทานแก่นักบุญองค์ใดก็ตาม, เราก็จะได้รับส่วนแบ่งพระหรรษทานนั้นๆด้วย.
จะมีพระหรรษทานใดหรือที่เราจะไม่ได้รับเมื่อเราสวดบทวันทามารีอา เพื่อขอบพระคุณพระเป็นเจ้า? เพราะพระหรรษทานทุกประการนั้น พระองค์ทรงประทานให้กับพระมารดาของพระองค์แล้ว
วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559
แม่น้ำไนล์สีเลือด

Tuesday, April 5, 2016, 7:01 PM –ภาพจากดาวเทียมของยุโรป <European Space Agency ดูเหมือนแม่น้ำไนล์ของอิยิปต์จะเป็นสีแดงเหมือนสีเลือด ทำให้คิดถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างอื่น
รายการโทรทัศน์รายงานอากาศกล่าวว่า สิ่งที่ดูเหมือนเลือดที่ปรากฏในแม่น้ำไนล์ที่อยู่ใจกลางประเทศอิยิปต์นั้นไม่ใช่เลือด และมันไม่ได้อยู่ในแม่น้ำไนล์ สีแดงที่เห็นเป็นทางยาวนั้นเป็นผักที่ขึ้นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำและแผ่ขยายไปตามแม่น้ำจนถึงสันดอน
ภาพข้างบนถ่ายได้เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2016 โดยดาวเทียม ESA's Sentinel-3
วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559
วันทามารีย์6

พระสงฆ์องค์หนึ่งถูกเชิญให้ไปพบชายคนหนึ่งซึ่งใกล้ตายและรู้สึกสิ้นหวังเพราะมีบาปหนัก.
ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม, ชายคนนี้ก็ปฎิเสธที่จะสารภาพบาป ในที่สุด,คุณพ่อขอให้เขาสวดบทวันทามารีอาอย่างน้อยหนึ่งบท.
ชายคนนี้ยอมทำตาม, หลังจากสวดแล้วเขาก็ยอมสารภาพบาปอย่างเต็มใจและได้สิ้นใจอย่างดี.
พระสงฆ์อีกองค์หนึ่งได้รับการขอร้องให้ไปพบกับสตรีโปรแตสแตนท์ซี่งกำลังป่วยหนักและเธอปรารถนาจะมาเป็นคาทอลิก.
ท่านถามสตรีผู้นั้นว่า
เธอเคยไปโบสถ์คาทอลิก, หรือเคยพูดคุยกับคริสตชนคาทอลิก หรือเคยอ่านหนังสือคาทอลิกบ้างหรือไม่? เธอตอบว่า"ไม่เคยเลย"
สิ่งที่เธอจำได้คือ
- - - เมื่อตอนเป็นเด็ก ---
เธอเคยได้เรียนรู้บทสวดวันทามารีอาจากเด็กหญิงเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคาทอลิกคนหนึ่ง.
และเธอได้สวดบทวันทามารีอานี้ทุกคืน. เธอได้รับการล้างบาปมาเป็นคาทอลิก
และก่อนที่เธอจะสิ้นใจ,เธอมีความสุขมากที่ได้เห็นสามีและลูกๆของเธอได้รับศีลล้างบาปด้วย
วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559
กราดิเอเตอร์
อาณาจักรโรมันสมัยโบราณ มีเกมส์การต่อสู้ยอดนิยมอย่างหนึ่ง นั่นคือการต่อสู้ระหว่างนักโทษในสนามกีฬากลางแจ้ง เหมือนที่เราเคยดูในภาพยนตร์เรื่องกราดิเอเตอร์
(Gladiator)
มันเป็นความบันเทิงของคนดูที่ได้เห็นความรุนแรง
ความโหดร้ายของมนุษย์ซึ่งมักจะจบลงด้วยความตาย
ต่อมาเกมส์การต่อสู้กราดิเอเตอร์นี้ก็หมดสิ้นไป เท่าที่รู้คือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.
404 และมันหมดสิ้นไปได้อย่างไร?
นั่นเป็นเพราะนักบุญองค์หนึ่ง
เทเลมาคัส Telemachus เป็นนักพรตคริสตศาสนาที่มาจากตะวันออก เดินทางมายังโรม ท่านได้ชมกีฬาที่น่ากลัวนี้ และถึงแม้เวลานั้นจักรพรรดิทิโอโดซิอุสจะทำให้คริสตศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติแล้วในปี
ค.ศ. 380 แต่เกมส์การต่อสู้กราดิเอเตอร์ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป
ตามข้อเขียนในศตวรรษที่
5 ของพระสังฆราชทิโอโดเรทแห่งไซรัส (bishop Theodoret
of Cyrus)ได้เล่าว่า เทเลมาคัสวิ่งลงไปกลางสนามต่อสู้กราดิเอเตอร์ และพยายามหยุดการต่อสู้ที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้ผู้คนที่กำลังชมโกรธเคืองเป็นอันมาก พวกเขาขว้างก้อนหินลงมาทำให้เทเลมาคัสเสียชีวิต
จักรพรรดิโฮโนริอุส
รู้สึกวุ่นวายพระทัยมากที่มีการฆาตกรรมนักพรตผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้
พระองค์จึงสั่งระงับเกมส์กราดิเอเตอร์เสียตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และเกมส์กีฬาที่โหดเหี้ยมนี้ก็ไม่มีอีกเลย
ความกล้าหาญของนักบุญเทเลมาคัส คงเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับความอยุติธรรมในสมัยของเรานี้ด้วย
ความอยุติธรรมซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเรียกร้องให้เราคริสตชนแสดงความกล้าหาญที่จะหยุดยั้งมัน ถึงแม้จะต้องพลีชีพก็ตาม
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559
กล้าในการทูลวอนขอ
มีบางคนที่มีความกล้าในเวลาที่สวดภาวนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เขารู้สึกโกรธหรือผิดหวังในพระเจ้า
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559
วันทามารีย์5

นักบุญ
แมคทิลเด, ผู้ที่รักแม่พระมาก, วันหนึ่งสาละวนกับการแต่งบทสวดที่สวยงามเพื่อสรรเสริญแม่พระ.
แม่พระได้ประจักษ์มาแก่ท่านและมีอักษรสีทองปรากฏอยู่บนพระหทัยซึ่งเขียนว่า
"วันทามารีอาเปี่ยมด้วยหรรษทาน" พระนางตรัสแก่ท่านว่า "ลูกรัก,
ไม่ว่าลูกจะคิดบทสวดอะไรก็ตามก็ไม่สามารถจะนำความยินดีมาให้แก่แม่ได้มากเท่ากับบทสวดวันทามารีอานี้"
ท่านนักบุญองค์นี้จึงสวดบทวันทามารีอาอย่างช้าๆเสมอ
และได้พบกับปิติสุข. แม่พระทรงประจักษ์แก่ท่านอีกครั้ง, ทรงยิ้มและบอกให้ท่านทราบถึงวันเวลาที่ท่านจะเสียชีวิต
และจะทำให้ท่านสิ้นชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์และมีความสุขที่สุด
หลังจากมรณกรรมของท่าน,มีดอกลีลี่สวยงามได้งอกและเติบโตขึ้นจากปากของท่านและมีคำเขียนไว้บนกลีบดอกของมันว่า
"วันทามารีอา"
ท่านเซซารีอุสก็มีปรากฎการณ์คล้ายๆกัน.
ท่านเป็นนักพรตที่ศํกดิ์สิทธิ์และถ่อมตน ท่านอาศํยอยู่ในอาราม.
ท่านมีความจำที่ไม่ดีนักจนท่านจำบทสวดได้เพียงบทเดียวคือบท
"วันทามารีอา" . หลังจากท่านเสียชีวิต,มีต้นไม้เติบโตขึ้นบนหลุมฝังศพของท่านและใบทุกใบของมันจะมีอักษรเขียนไว้ว่า
"วันทามารีอา"
เรื่องเล่าอันสวยงามนี้แสดงให้เราเห็นว่าความศรัทธาต่อแม่พระมีคุณค่ามากสักเพียงไร
และบทสวดวันทามารีอามีอำนาจมากสักเพียงไร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)