พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คุกใต้ดินที่ใช้ขังพระเยซูเจ้า


ในบ้านของกายฟาส หัวหน้าสมณะมีคุกใต้ดินที่ใช้ขังพระเยซูเจ้า เมื่อพวกทหารของสมณะจับพระเยซูเจ้ามาจากสวนเก็ธเซเมนี เขานำพระองค์มาที่วังของกายฟาส พระองค์ถูกไต่สวนและถูกกล่าวหาว่าได้ทำผิดเพราะได้อ้างว่าเป็นบุตรของพระเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงสะทกสะท้านต่อคำกล่าวหาของเขา สมณะได้ขังพระองค์ไว้ที่คุกใต้ดินซึ่งมืดและหนาวเย็นเป็นเวลา 1 คืน เพื่อที่จะนำพระองค์ไปให้ปิลาตสอบสวนในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น คุกใต้ดินนี้ถูกเรียกว่า Gallicantu มีความหมายว่า เสียงร้องของไก่, ไก่ขัน” (cock's crow)
คุกใต้ดินมีสภาพเหมือนถ้ำ และเมื่อมองขึ้นบนเพดานจะเห็นว่ามีช่อง ซึ่งคงใช้หย่อนตัวนักโทษลงมา และใช้สำหรับเฝ้ามองนักโทษซึ่งถูกจับขังจากเบื้องบน ในคุกนี้ทั้งมืดและหนาว และแน่นอนคงมีกลิ่นเหม็นมากด้วย นี่จึงเป็นอีกมิติหนึ่งของพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ผู้คุมหย่อนนักโทษลงมาด้วยเชือกและไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมื่อเขาดึงนักโทษกลับขึ้นไปก็ย่อมมีนักโทษบางคนที่กลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว บทสดุดีที่ 88:6 ได้กล่าวทำนายถึงพระมหาทรมานนี้ไว้อย่างไร? (“พระองค์ได้วางข้าพระองค์ไว้ในแดนผู้ตายที่ลึกที่สุด ทั้งมืดและลึก....)
ซากโบราณสถานนี้จึงให้ภาพของความทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้าในอีกแง่มุมหนึ่ง ลองจินตนาการถึงพระเยซูเจ้าขณะที่อยู่ในคุกใต้ดินนี้ซึ่งมีเพดานสูงมาก ไม่มีนักโทษคนใดสามารถหนีออกไปได้ อีกทั้งยังมีกลิ่นของสิ่งสกปรก พวกทหารคงหย่อนพระองค์ลงไปด้วยเชือก

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คำถามของอังกฤษ

คำถามที่ทางการอังกฤษจะถามผู้ลี้ภัยชาวคริสต์ที่ลี้ภัยจากการถูกเบียดเบียนทางศาสนา เพิ้อที่จะได้รับอนุญาตให้พักอาศัยในประเทศได้
1.         พระคัมภีร์ไบเบิลประกอบด้วยหนังสือกี่เล่ม?
2.         พระคัมภีร์พระธรรมใหม่ประกอบด้วยหนังสือกี่เล่ม
3.         พระคัมภีร์ฉบับนักบุญยอห์นมีทั้งหมดกี่บท?
4.         พระบัญญัติสิบประการมีอะไรบ้าง?
5.         พระวรสารเล่มไหนที่กล่าวถึงการบังเกิดของพระเยซูเจ้า?
6.         พระเยซูเจ้าประสูติที่ไหน?
7.         บิดามารดาของพระเยซูเจ้ามีชื่อว่าอะไร?
8.         บิดาของพระเยซูเจ้ามีอาชีพอะไร?
9.         อัครสาวกของพระเยซูเจ้ามีกี่คน?บอกชื่อ
10.    สถานที่ใดที่พระเยซูเจ้าทรงโกรธเจ้าหนี้เงินกู้?
11.    ผู้ที่พระเยซูเจ้าทรงทำให้กลับคืนชีพจากความตายคือใคร?อํศจรรย์นี้อยู่ในหนังสือเล่มใด?
12.    ให้สวดบทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
13.    มีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย?
14.    ใครที่ทรยศพระเยซูเจ้า?
15.    พระเยซูเจ้าถูกจับกุมที่ไหน?
16.    วันพุธรับเถ้าคือวันอะไร?
17.    วันอิสเตอร์ในแต่ละปีเป็นวันเดียวกันหรือไม่?
18.    วันพระจิตเจ้าเสด็จลงมาตรงกับวันอะไร?
19.    เทศกาลมหาพรตมีความหมายว่าอย่างไร?
คุณล่ะตอบได้หรือไม่? เป็นที่แน่นอนว่าผู้ลี้ภัยไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ทั้งหมด  กฏเกณฑ์นี้ทำให้ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ต้องหันไปหาประเทศอื่น

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อาโมส 3: 8



เมื่อสิงโตแผดเสียงคำราม – มีผู้ใดจะไม่กลัวบ้างหรือ?  เมื่อพระเจ้าตรัส – มีผู้ใดเล่าจะไม่ประกาศพระวาจา? – อาโมส 3: 8

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ครบรอบ 145 ปีการประจักษ์ที่ปองต์แมง

ในวาระครบรอบ 145 ปีของการประจักษ์ที่ปองต์แมง  ให้เราระลึกถึงวาจาของแม่พระที่กล่าวว่า “จงทำตามทุกสิ่งที่พระองค์จะทรงสั่ง”
>>>อ่านต่อ 

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ครบรอบ 99 ปีการประจักษ์ที่ฟาติมา

ที่ฟาติมา วันที่ 13 ตุลาคม 1917 ถือเป็นจุดสำคัญของการประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง ในวันนั้นได้เกิด "อัศจรรย์ของดวงอาทิตย์" ต่อหน้าประชาชนประมาณ 70,000 คน>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เด็กที่ฝากผลงานไว้ให้โลก6

Malala Yousafzai
เราจะตระหนักถึงความสำคัญของเสียงเราได้อย่างแท้จริง เมื่อวันที่เราถูกสั่งให้เงียบ
สำหรับในรอบปีนี้ ชื่อของ Malala Yousafzai และรูปภาพของสาวน้อยนัยย์ตาแหลมคมคงผ่านสายตาใครหลายๆ คน เด็กสาวอายุน้อยที่สุดที่เคยถูกเสนอชื่อในรางวัลโบเบล เด็กที่เกิดมาท่ามกลางสังคมที่การศึกษาเป็นเรื่องอันตราย อย่าถึงขั้นสิทธิเด็กเลย เพราะแค่เพียงสิทธิของผู้หญิงก็แทบเลือนราง
มาลาลา เป็นผู้เรียกร้องสิทธิเพื่อการศึกษาของเด็กและผู้หญิง การเรียกร้องของเธอทำให้เธอโดนหมายหัวจากกลุ่มตาลีบาน และวันหนึ่งในวัย 15 ปี รถบัสโดยสารเธอที่เธอนั่งมาก็ถูกกลุ่มตาลีบานบุกยิงอย่างอุกอาจ
แม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่เธอก็รอดชีวิตมาได้ ทั่วโลกให้ความยกย่องในความกล้าหาญ เปรียบเธอเป็นแสงเทียนท่ามกลางพายุมืดมน
หลังจากรักษาหายดี มาลาลา ก็ได้รับการจัดชื่อเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในปี 2013 ของนิตยสาร TIMES พร้อมรางวัลเชิดชูเกียรติอื่นๆ อีกมากมาย
และปี 2014 มาลาลาก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในที่สุด และทำให้เป็นผู้รับรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยวัย 17 ปี เท่านั้น  แต่ภารกิจของเธอยังคงอีกยาวไกล เธอยังคงออกให้ความรู้ความเข้าใจและเรียกร้องในสิทธิการศึกษาเด็กจนถึงปัจจุบัน กับคำกล่าวที่ว่า
“One child, one teacher, one book, one pen can change the world.”