พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คุกใต้ดินที่ใช้ขังพระเยซูเจ้า


ในบ้านของกายฟาส หัวหน้าสมณะมีคุกใต้ดินที่ใช้ขังพระเยซูเจ้า เมื่อพวกทหารของสมณะจับพระเยซูเจ้ามาจากสวนเก็ธเซเมนี เขานำพระองค์มาที่วังของกายฟาส พระองค์ถูกไต่สวนและถูกกล่าวหาว่าได้ทำผิดเพราะได้อ้างว่าเป็นบุตรของพระเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงสะทกสะท้านต่อคำกล่าวหาของเขา สมณะได้ขังพระองค์ไว้ที่คุกใต้ดินซึ่งมืดและหนาวเย็นเป็นเวลา 1 คืน เพื่อที่จะนำพระองค์ไปให้ปิลาตสอบสวนในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น คุกใต้ดินนี้ถูกเรียกว่า Gallicantu มีความหมายว่า เสียงร้องของไก่, ไก่ขัน” (cock's crow)
คุกใต้ดินมีสภาพเหมือนถ้ำ และเมื่อมองขึ้นบนเพดานจะเห็นว่ามีช่อง ซึ่งคงใช้หย่อนตัวนักโทษลงมา และใช้สำหรับเฝ้ามองนักโทษซึ่งถูกจับขังจากเบื้องบน ในคุกนี้ทั้งมืดและหนาว และแน่นอนคงมีกลิ่นเหม็นมากด้วย นี่จึงเป็นอีกมิติหนึ่งของพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ผู้คุมหย่อนนักโทษลงมาด้วยเชือกและไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมื่อเขาดึงนักโทษกลับขึ้นไปก็ย่อมมีนักโทษบางคนที่กลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว บทสดุดีที่ 88:6 ได้กล่าวทำนายถึงพระมหาทรมานนี้ไว้อย่างไร? (“พระองค์ได้วางข้าพระองค์ไว้ในแดนผู้ตายที่ลึกที่สุด ทั้งมืดและลึก....)
ซากโบราณสถานนี้จึงให้ภาพของความทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้าในอีกแง่มุมหนึ่ง ลองจินตนาการถึงพระเยซูเจ้าขณะที่อยู่ในคุกใต้ดินนี้ซึ่งมีเพดานสูงมาก ไม่มีนักโทษคนใดสามารถหนีออกไปได้ อีกทั้งยังมีกลิ่นของสิ่งสกปรก พวกทหารคงหย่อนพระองค์ลงไปด้วยเชือก

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คำถามของอังกฤษ

คำถามที่ทางการอังกฤษจะถามผู้ลี้ภัยชาวคริสต์ที่ลี้ภัยจากการถูกเบียดเบียนทางศาสนา เพิ้อที่จะได้รับอนุญาตให้พักอาศัยในประเทศได้
1.         พระคัมภีร์ไบเบิลประกอบด้วยหนังสือกี่เล่ม?
2.         พระคัมภีร์พระธรรมใหม่ประกอบด้วยหนังสือกี่เล่ม
3.         พระคัมภีร์ฉบับนักบุญยอห์นมีทั้งหมดกี่บท?
4.         พระบัญญัติสิบประการมีอะไรบ้าง?
5.         พระวรสารเล่มไหนที่กล่าวถึงการบังเกิดของพระเยซูเจ้า?
6.         พระเยซูเจ้าประสูติที่ไหน?
7.         บิดามารดาของพระเยซูเจ้ามีชื่อว่าอะไร?
8.         บิดาของพระเยซูเจ้ามีอาชีพอะไร?
9.         อัครสาวกของพระเยซูเจ้ามีกี่คน?บอกชื่อ
10.    สถานที่ใดที่พระเยซูเจ้าทรงโกรธเจ้าหนี้เงินกู้?
11.    ผู้ที่พระเยซูเจ้าทรงทำให้กลับคืนชีพจากความตายคือใคร?อํศจรรย์นี้อยู่ในหนังสือเล่มใด?
12.    ให้สวดบทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
13.    มีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย?
14.    ใครที่ทรยศพระเยซูเจ้า?
15.    พระเยซูเจ้าถูกจับกุมที่ไหน?
16.    วันพุธรับเถ้าคือวันอะไร?
17.    วันอิสเตอร์ในแต่ละปีเป็นวันเดียวกันหรือไม่?
18.    วันพระจิตเจ้าเสด็จลงมาตรงกับวันอะไร?
19.    เทศกาลมหาพรตมีความหมายว่าอย่างไร?
คุณล่ะตอบได้หรือไม่? เป็นที่แน่นอนว่าผู้ลี้ภัยไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ทั้งหมด  กฏเกณฑ์นี้ทำให้ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ต้องหันไปหาประเทศอื่น

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อาโมส 3: 8



เมื่อสิงโตแผดเสียงคำราม – มีผู้ใดจะไม่กลัวบ้างหรือ?  เมื่อพระเจ้าตรัส – มีผู้ใดเล่าจะไม่ประกาศพระวาจา? – อาโมส 3: 8

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ครบรอบ 145 ปีการประจักษ์ที่ปองต์แมง

ในวาระครบรอบ 145 ปีของการประจักษ์ที่ปองต์แมง  ให้เราระลึกถึงวาจาของแม่พระที่กล่าวว่า “จงทำตามทุกสิ่งที่พระองค์จะทรงสั่ง”
>>>อ่านต่อ 

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ครบรอบ 99 ปีการประจักษ์ที่ฟาติมา

ที่ฟาติมา วันที่ 13 ตุลาคม 1917 ถือเป็นจุดสำคัญของการประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง ในวันนั้นได้เกิด "อัศจรรย์ของดวงอาทิตย์" ต่อหน้าประชาชนประมาณ 70,000 คน>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เด็กที่ฝากผลงานไว้ให้โลก6

Malala Yousafzai
เราจะตระหนักถึงความสำคัญของเสียงเราได้อย่างแท้จริง เมื่อวันที่เราถูกสั่งให้เงียบ
สำหรับในรอบปีนี้ ชื่อของ Malala Yousafzai และรูปภาพของสาวน้อยนัยย์ตาแหลมคมคงผ่านสายตาใครหลายๆ คน เด็กสาวอายุน้อยที่สุดที่เคยถูกเสนอชื่อในรางวัลโบเบล เด็กที่เกิดมาท่ามกลางสังคมที่การศึกษาเป็นเรื่องอันตราย อย่าถึงขั้นสิทธิเด็กเลย เพราะแค่เพียงสิทธิของผู้หญิงก็แทบเลือนราง
มาลาลา เป็นผู้เรียกร้องสิทธิเพื่อการศึกษาของเด็กและผู้หญิง การเรียกร้องของเธอทำให้เธอโดนหมายหัวจากกลุ่มตาลีบาน และวันหนึ่งในวัย 15 ปี รถบัสโดยสารเธอที่เธอนั่งมาก็ถูกกลุ่มตาลีบานบุกยิงอย่างอุกอาจ
แม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่เธอก็รอดชีวิตมาได้ ทั่วโลกให้ความยกย่องในความกล้าหาญ เปรียบเธอเป็นแสงเทียนท่ามกลางพายุมืดมน
หลังจากรักษาหายดี มาลาลา ก็ได้รับการจัดชื่อเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในปี 2013 ของนิตยสาร TIMES พร้อมรางวัลเชิดชูเกียรติอื่นๆ อีกมากมาย
และปี 2014 มาลาลาก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในที่สุด และทำให้เป็นผู้รับรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยวัย 17 ปี เท่านั้น  แต่ภารกิจของเธอยังคงอีกยาวไกล เธอยังคงออกให้ความรู้ความเข้าใจและเรียกร้องในสิทธิการศึกษาเด็กจนถึงปัจจุบัน กับคำกล่าวที่ว่า
“One child, one teacher, one book, one pen can change the world.”