พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด

           พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)








วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เทศบาลเมืองสั่งเคลื่อนย้ายพระรูปแม่พระ


December 4, 2016 by sd 
เมือง Publier อยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศสติดกับสวิทเซอร์แลนด์ นาย Gaston Lacroix นายกเทศมนตรีของเมืองกำลังหาทางเคลื่อนย้ายพระรูปแม่พระออกจากที่สาธารณะไปยังที่ดินของเอกชนบางราย  ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติตามกฏหมายว่าด้วยการไม่อนุญาติให้มีสัญญลักษณ์ทางศาสนาใดๆแสดงในที่สาธารณะนั่นเอง
พระรูปแม่พระนี้ทำด้วยหินอ่อนตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้กับสระน้ำเจนีวา ตั้งแต่ปี 2011  ที่ใต้พระรูปมีอักษรจารึกว่า Notre Dame du Léman veille sur tes enfants (แม่พระแห่งสระน้ำเจนีวาเฝ้ามองดูบรรดาลูกของพระนาง)
เคยมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับพระรูปนี้มานานหลายปี  เพราะทางสภาเทศบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
ฝรั่งเศสมีกฎหมายที่เข้มงวดในการนำเอาศาสนาภัณฑ์ทุกอย่างออกจากสถานที่สาธารณะ ทำให้ประเทศฝรั่งเศสถูกระบุว่าเป็นประเทศ “ไร้ศาสนา” 
ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ไม่อนุญาตให้สวมผ้าคลุมศีรษะสตรีของชาวมุสลิมในที่สาธารณะตั้งแต่ปี 2011

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราวันดาฉลองครบรอบ35ปี


ผู้แสวงบุญพากันมาสวดภาวนาและเฉลิมฉลองแม่พระแห่งราวันดาเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2016 ครบรอบปีที่ 35 นับจากการประจักษ์ครั้งแรกแก่อัลฟองซีน ในวันที่ 28 พ.ย. 1981 เด็กนักเรียนหญิงในเมื่องกีเบโฮ
ผู้แสวงบุญเดินทางด้วยรถบัส หรือขี่จักรยาน  หรือเดินด้วยเท้า บางคนมาจากประเทศข้างเคียง
ผู้แสวงบุญบางคนนอนที่พื้นหญ้าด้านหน้าของโบสถ์ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องในโรงแรมซึ่งเต็มไปเรียบร้อยแล้ว
โบสถ์ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา และที่เชิงเนินเขานี้มีบ่อน้ำพุที่เรียกว่า “น้ำพุของแม่พระ” ที่มีอัศจรรย์การรักษาโรคได้  คาริตัส นิยีบีกีร่า อายุ 47 ปีเล่าว่า “ในอดีต ฉันมีปัญหาเท้าบวมและหายใจติดขัดแต่ต้องขอบคุณน้ำจากน้ำพุนี้ที่ช่วยรักษาฉันให้หาย”  เกรซ มอร์ริส สตรีวัย 31 ปีจากอูกันดา เล่าว่าเมื่อต้นปีนี้  เธอเห็นเด็กชายคนหนึ่งที่ขาพิการ ได้หายจากอาการพิการหลังจากที่ถูกนำเข้าไปในโบสถ์น้อยแห่งการประจักษ์ “เราเห็นเด็กคนนี้วิ่งออกมาจากโบสถ์และร้องตะโกนด้วยความยินดี”  มอร์ริสเล่า

การขอมิสซาให้วิญญาณคนต่างศาสนา

เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจ  และตรงกับความสงสัยของพี่น้องที่ชอบสงสัยว่า  ขอมิสซาให้คนต่างศาสนาได้หรือป่าว 
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ช่างบังเอิญ


วันที่27-28 พ.ย. 2016 :  มลรัฐเทนเนสซี่ประสบกับไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุด ไฟไหม้ลามถึงบ้านเรือนของชาวบ้านแถบนั้น  ทางรัฐต้องประกาศอพยพผู้คนราว 10,000 คนไปอยู่ยังที่พักชั่วคราว
ไอแซค แมคคอร์ด Isaac McCord จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ ซึ่งทำงานเป็นผู้ฝึกสอนด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ดอลลี่วูดกล่าวว่า  เขาไม่คิดว่ากระดาษที่ถูกไฟไหม้แล้วจะสามารถอ่านได้  แต่มีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ตกอยู่ทำให้เขาเกิดความสนใจ
“เมื่อผมก้มลงไปเก็บสิ่งของบนพื้นดิน  ผมสังเกตเห็นว่าในกระดาษที่ไหม้เกรียมนั้นเป็นประโยคในพระคัมภีร์ไบเบิล” ไอแซค พูดกับผมในโทรศัพท์ “และประโยคนั้นเขียนไว้ตรงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้  มันเขียนว่า”

“O Lord, to thee will I cry: For the fire hath devoured the pastures of the wilderness, and the flame hath burned all the trees of the field,”  
“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าร้องหาพระองค์  เพราะไฟเผาผลาญทุ่งหญ้าแห่งถิ่นทุรกันดาร  และเปลวไฟได้เผาผลาญต้นไม้ทุกต้นในทุ่งหญ้า”

(เนื้อหานำมาจากเฟสบุ๊คของไอแซค และมีภาพประกอบดังที่แสดงข้างบนเลข 19 )


บ้านที่ถูกไฟเผาหลังนี้ มีพระรูปพระเยซูเจ้าซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏอยู่ หลังจากบ้านถูกไฟเผาผลาญจนเหลือแต่ซาก
  

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เวเนซูเอล่ารอดจากหายนะได้อย่างไร?

พระสันตปาปาฟรังซิสทรงช่วยให้ประเทศเวเนซูเอล่ารอดพ้นจากหายนะได้อย่างไร?โดยการทำตามคำแนะนำของพระสันตปาปาฟรังซิส  ทีละขั้นทีละตอน  ก็ทำให้เวเนซูเอล่ารอดพ้นจากวิกฤตการณ์ไปได้  โดยมีอดีตประธานาธิบดีของสเปน นาย Zapatero เป็นคนกลาง
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

You Raise Me Up by sister Indonesia



You Raise Me Up - Instrumental
When I am down and, oh, my soul, so weary;
When troubles come and my heart burdened be;
Then I am still and wait here in the silence,
Until you come and sit awhile with me.
You raise me up, so I can stand on mountains;
You raise me up to walk on stormy seas;
I am strong when I am on your shoulders;
You raise me up to more than I can be

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

น. แอนดรู ดุง แลค


น. แอนดรู ดุง แลค - พระสงฆ์ และเพื่อน ฉลองวันที่ 24 พ.ย.
ในการแพร่ธรรมมายังประเทศทางตะวันออกของมิชชันนารีชาวยุโรป ต้องประสบอุปสรรคมากมาย  และหลายครั้งที่ต้องพลีชีพเป็นมรณะสักขี  ที่เวียตนามมีมรณะสักขีหลายคนเป็นพระสงฆ์ในคณะโดมินิกัน และ คณะพระสงฆ์มิชชันนารีแห่งกรุงปารีส  และ แอนดรู ดุง แลค เป็นพระสงฆ์ชาวเวียตนามที่ได้ยอมตายเพื่อยืนยันความเชื่อในพระเยซูคริสต์  ในระหว่างปี 1745-1862
ในปี 1843 Paul Le-Bao-Tinh ซึ่งเป็นสามเณรชาวเวียตนามได้เขียนจดหมายสั้นๆก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเป็นมรณะสักขีว่า
“ข้าพเจ้า เปาโล ผู้ถูกใส่โซ่ตรวนในพระนามของพระคริสต์  ปรารถนาจะเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานที่ข้าพเจ้าได้รับในทุกๆวัน  เพื่อที่ท่านผู้เร่าร้อนด้วยความรักในพระเป็นเจ้า  จักได้เงยหน้าขึ้นสรรเสริญพระเป็นเจ้า  “เพราะพระเมตตาของพระองค์คงอยู่นิรันดร”   ในคุกนี้เป็นภาพลักษณ์ของนรกชั่วนิรันดรอย่างแท้จริง  มีการทรมานที่โหดร้ายที่สุดทุกชนิด  อย่างเช่น  โซ่ตรวน, โซ่เหล็กและเครื่องพันธนาการที่เพิ่มความเกลียดชังพยาบาท, คำพูดใส่ร้าย  คำพูดหยาบคายอนาจาร  การสอบสวนที่โหดเหี้ยมอำมหิต  การบังคับให้สาบาน  คำสาปแช่งและในที่สุดความยากลำบากและความเศร้าโศก  แต่พระเป็นเจ้า ผู้ทรงเคยทำให้ชายหนุ่มสามคนรอดพันจากการถูกเผาย่างในเตาไฟ (ดาเนียลและเพื่อน) ทรงประทับอยู่กับข้าพเจ้าเสมอและทรงช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากความทุกข์ทรมานเหล่านี้และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นความอ่อนหวาน “เพราะพระเมตตาของพระองค์คงอยู่นิรันดร
"โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยการสวดภาวนาของท่าน  เพื่อที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามพระบัญญัติ  และจะได้ “ต่อสู้เพื่อความดี”  และเพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้มีคุณค่าที่จะต่อสู้จนถึงที่สุดและจบชีวิตอย่างมีความสุข  ถ้าหากพวกเราไม่ได้พบกันอีกในชีวิตนี้  ในอนาคต  อย่างไรก็ตาม  นี่จะเป็นความยินดีของพวกเรา เมื่อเรายืนอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์ของพระชุมพาน้อยบริสุทธิ์  เราจะเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระองค์  และมีความชื่นชมยินดีในชัยชนะนิรันดร  อาแมน”