ชายคนหนึ่งต้องติดคุกเพราะความผิ ดพลาดทางธุรกิจ เมื่อครบกำหนดที่เขาจะออกจากคุก
เขาไม่แน่ใจว่าคนในครอบครัวคือภรรยาและลูกจะยังคงต้องการเขาอยู่หรือไม่? เพราะไม่มีใครติดต่อกับเขาเลยตั้งแต่ที่เขาอยู่ในคุก ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายไปถึงภรรยา บอกว่า
ถ้าหากคุณยังต้องการผม
ขอให้คุณผูกริบบิ้นสีเหลืองหนึ่งเส้นไว้รอบต้นโอ๊กเก่าๆต้นนั้น เมื่อผมออกจากคุกผมจะจับรถบัสผ่านไปที่บ้าน
ถ้าผมเห็นริบบิ้นสีเหลืองผูกอยู่ต้นโอ๊ก ผมก็จะลงจากรถไปหาคุณและลูก แต่ถ้าผมไม่เห็นริบบิ้นสีเหลือง
ผมก็จะนั่งในรถและผ่านเลยไปยังเมืองอื่นและจะไม่มารบกวนพวกคุณอีกต่อไป เมื่อวันสำคัญมาถึง ชายผู้นี้ก็นั่งรถบัสไปยังบ้านของเขา
เมื่อใกล้ถึงบ้าน เขารู้สึกตื่นเต้นและกังวล
เมื่อรถบัสเลี้ยวเข้าสู่ถนนหน้าบ้าน
เขาก็แทบไม่เชื่อสายตาของเขา เพราะมีริบบิ้นสีเหลืองผูกอยู่รอบต้นโอ๊ก
แต่ไม่ได้มีเส้นเดียวแต่มีมากมายเต็มต้น
เขารู้สึกสะเทือนใจมากและร้องไห้ออกมา
เมื่อลงจากรถเขาก็ได้เห็นภรรยาและลูกมายืนต้อนรับเขา
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สันติจงมีในสวรรค์
และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สันติจงมีในสวรรค์
และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))
วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560
ฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้า
ให้เรา
“สวมใส่พระคริสตเยซู” (โรม 13:14) ไม่เพียงแค่วันนี้เท่านั้น
แต่ทุกๆวัน ให้เราไปและกระทำเหมือนที่พระองค์ทรงกระทำ
(ลก. 10:37)
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560
สาส์นแม่พระจากซานนิโคลัส
“ในช่วงเวลาเหล่านี้มนุษยชาติกำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าหากเส้นด้ายขาดลง หลายคนจะเป็นผู้ที่ไปไม่ถึงความรอดพ้น เพราะเหตุนี้แม่จึงขอให้ลูกไตร่ตรอง จงรีบเร่งเถิดเพราะเวลาเริ่มเดินแล้ว จะไม่มีที่สำหรับคนที่รีรอที่จะมา"
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560
ละเลิกการใช้พลังงานจากฟอสซิล
หลายคนคงลืมเรื่องของการพิทักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม
ตามสมณสาส์น Laudato Si ของพระสันตปาปาฟรังซิสไปแล้ว
จึงขอนำข่าวเก่าจากปีที่แล้วมาเสนอเพื่อเตือนความจำกันหน่อย
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560
สารคดีเมดจูกอเรจ์
สารคดีจาก BBC ที่ถ่ายทำในปี 1986 ซึ่งทำขึ้นในระยะเวลา 5 ปี หลังจากแม่พระทรงประจักษ์มาที่เมดจูกอเรจ์ครั้งแรก
และในเวลานั้นประเทศยูโกสลาเวียยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560
โลกถูกปีศาจโจมตี
California
Network - คุณพ่อ วินเซนโซ ทาทาโบเรลลี่( Fr. Vincenzo Tataborelli )พระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจชาวอิตาลีได้ให้สัมภาษณ์กับทาง
BBC เมื่อไม่นานมานี้ ท่านบอกว่าประชาชนหนึ่งใน 30
คนต่อวันที่ท่านเห็นนั้น
จำเป็นต้องได้รับการทำพิธีขับไล่ปีศาจ
ท่านเล่าว่า ท่านเคยเห็นคนที่ถูกปีศาจสิง
และเขาอาเจียนออกมาเป็นก้อนหินและเศษไม้พร้อมกับเลือด
ท่านกล่าวกับ
BBC ว่า “ผมบอกพระสังฆราชว่า
ผมไม่สามารถหาใครที่ปรารถนาจะมาเป็นพระสงฆ์ที่ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจได้ พระสงฆ์เดี๋ยวนี้กลัวที่จะเป็น
เพราะมันเป็นชีวิตที่ลำบาก”
การทำพิธีขับไล่ปีศาจช่วยคนได้มากมาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ช่วยเหลือได้
พระสงฆ์ใหม่กลัวเกินไปที่จะเรียนรู้พิธีกรรมและประกอบพิธีขับไล่ปีศาจ และความจริงอีกประการหนึ่งก็คือ
การทำพิธีขับไล่ปีศาจต้องใช้เวลา
บางครั้งอาจเป็นปี
มันไม่สามารถเกิดผลได้ในทันทีทันใด
และพระสงฆ์บางองค์ก็ไม่เห็นความสำคัญของพิธีนี้ด้วย
การถูกปีศาจสิงเป็นการที่ปีศาจเข้าไปในร่างกายของคุณ และเหยื่อของปีศาจหลายรายมีปีศาจเข้าสิงหลายตน
จุดประสงค์ของปีศาจก็คือลากดึงวิญญาณของคุณไปสู่นรกเมื่อคุณสิ้นชีวิต มันทำโดยล่อลวงคุณ ทำให้คุณหันหลังให้กับพระเจ้า ทำให้คุณอยู่ห่างไกลจากโบสถ์ ด้วยสารพัดวิธีเท่าที่มันจะทำได้
โลกกำลังถูกซาตานโจมตี
มันต้องการดึงวิญญาณทุกดวงให้ไปสู่นรก รวมทั้งตัวคุณด้วย มันล่อลวงด้วยวิธีที่เราคาดไม่ถึง ด้วยวิธีที่เราคิดว่าไม่สำคัญ เช่น ความบันเทิง
ความสนุกสนาน สิ่งที่ทำให้เราพอใจต่างๆ
เรามีชีวิตอยู่ในโลกของวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ดี
มันทำให้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ
ยาที่ทันสมัย
แต่เราอาจลืมไปว่าเราอยู่ในโลกฝ่ายจิตวิญญาณด้วย และโลกฝ่ายจิตวิญญาณนี้เป็นความจริงเช่นเดียวกับโลกทางกายภาพ และโลกทางจิตวิญญาณนี้ก็มีบางสิ่งที่ดีและบางสิ่งไม่ดีเช่นเดียวกัน
ช่างโชคร้าย
เรากำลังถูกหันเหให้ออกจากโลกฝ่ายจิตวิญญาณ
เราไม่รู้สึกถึงภัยอันตรายหรือไม่เราก็ไม่สนใจในอันตรายของโลกทางกายภาพเลย อุปมาเหมือนกับเรากำลังเดินข้ามถนนโดยไม่หันมองทางซ้ายหรือขวาว่ามีรถผ่านมาให้ดีเสียก่อน และเราขอเตือนคุณให้คุณตระหนักในเวลานี้ เพราะผลลัพท์ที่เกิดในตอนสุดท้ายอาจเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจวันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560
ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจในระดับชาติ
Vatican City- ประเทศที่เป็นคริสตชนอย่างเม็กซิโกจะกลายเป็นแหล่งอาศัยของปีศาจได้หรือ?
โบสถ์บางแห่งในเม็กซิโกขอให้มีการประกอบพิธีขับไล่ปีศาจในระดับชาติ( nation-wide
exorcism of Mexico
)และได้ประกอบพิธีนี้อย่างเงียบๆในอาสนวิหารแห่งซานลุยส์โปโตซี( cathedral of
San Luis Potosí)
ความรุนแรงที่มากขึ้นอาทิเช่น
ยาเสพติดและการทำแท้งในประเทศเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดพิธีกรรมพิเศษที่เรียกว่า “Exorcismo
Magno.”
พระคาร์ดินัล Juan Sandoval Íñiguez อัครสังฆราชแห่งกรุงกัวดาลาจาราเป็นประธานในพิธีกรรมประวัติศาสตร์นี้ซึ่งเป็นครั้งแรกของที่นี่ โดยมีพระอัครสังฆราช(Jesús Carlos
Cabrero of San Luis Potos) , คุณพ่อ José Antonio Fortea พระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจชาวสเปน
และพระสงฆ์กลุ่มเล็กๆพร้อมด้วยประชาชนบางคนเข้าร่วมในพิธีด้วย
เหตุการณ์นี้ไม่ได้บอกต่อสาธารณชนไว้ก่อน
เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดของผู้คนต่อพิธีกรรมนี้
แต่ประเทศได้กลายเป็นแหล่งชุมนุมและการปฏิบัติการของปีศาจไปได้อย่างไร?
จนต้องประกอบพิธี Exorcismo
Magno นี้ขึ้น
คุณพ่อฟอร์ทีกล่าวว่า “บาปหนักที่เพิ่มทวีมากขึ้นในประเทศ
ทำให้ปีศาจหลอกลวงประชาชนได้ง่ายขึ้น”
พระสงฆ์ชาวสเปนเตือนว่า “มีบาปมากขึ้น
ลัทธิพ่อมดหมอผีและลัทธิซาตานมีมากขึ้นจึงทำให้ปีศาจมีอำนาจมากขึ้นเป็นพิเศษ”
“จึงมีการประกอบพิธีขับไล่ปีศาจที่ซานลุยส์โปโตซีเป็นครั้งแรกในเม็กซิโก
โดยที่ผู้ประกอบพิธีมาจากประเทศอื่น เพื่อขับไล่อำนาจของความมืดมิดซึ่งครอบงำไม่ใช่อยู่ในคนใดคนหนึ่ง
แต่อยู่ในประเทศทั้งประเทศเลย”
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)