ฝนกลีบกุหลาบโปรยปรายลงมาจากเบื้องบนวิหารเพนทิออนในกรุงโรมในวันอาทิตย์สมโภชพระจิตเจ้า หลังจากเสร็จสิ้นพิธีมิสซาแล้ว บรรดานักดับเพลิงจะช่วยกันโปรยกลี
กุหลาบจำนวนมากลงมาจากช่องแสงที่เรียกว่า
“eye of
the sky” สูง 43 เมตร
นี่เป็นพิธีเก่าแก่เกือบ 2000 ปีที่กระทำในวันอาทิตย์ที่ 5
หลังจากวันอิสเตอร์ เพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว
และเป็นการฉลองวันพระจิตเจ้าเสด็จลงมาสู่บรรดาอัครสาวกและพระนางมารีย์ กลีบกุหลายหมายถึงพระจิตเจ้าและพระโลหิตของพระคริสต์ที่หลั่งลงมาเพื่ออภัยบาปของคนจำนวนมากPages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
  ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
  พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
  มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
  ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
  พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
  มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560
วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560
วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560
พระธาตุนักบุญถูกขโมย
St. John Bosco in 1880.
Photo courtesy of Creative Commons
ROME
(RNS) - ตำรวจปิดกั้นถนนทางตอนเหนือของอิตาลี
หลังจากขโมยรายหนึ่งปลอมตัวเป็นผู้แสวงบุญและขโมยชิ้นส่วนเล็กๆที่เป็นพระธาตุสมองของนักบุญยอห์น
บอสโกไป
เหตุเกิดที่โบสถ์นักบุญยอห์น
บอสโก ใน Castelnuovo, ใกล้กับ Turin เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2017
พระธาตุของนักบุญบรรจุอยู่ในกล่องแก้ววางไว้ด้านหลังพระแท่น ขโมยได้ขโมยพระธาตุไปทิ้งไว้แต่กล่องบรรจุที่ว่างเปล่า
หลังจากข่าวแพร่ไป ผู้คนต่างสวดภาวนาขอให้ได้พระธาตุกลับคืนมา
ตำรวจคาดว่าขโมยคงต้องการเงินค่าไถ่ แต่ก็มีข่าวในสื่อของอิตาลีกล่าวว่าอาจมีคนที่ต้องการนำพระธาตุไปใช้ในพิธีกรรมของกลุ่มลัทธิบูชาซาตานก็ได้
ในยุโรปพระธาตุของนักบุญมักจะตั้งไว้ในโบสถ์เพื่อให้ผู้มีความเชื่อมาสวดภาวนา และมักจะเป็นเป้าหมายของบรรดาหัวขโมย ในปี 2014 พระธาตุโลหิตของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่
2ก็ถูกขโมยเช่นกัน
ตำรวจกำลังสอบสวนต่อไปและโบสถ์ไม่อนุญาตให้ผู้คนเข้าไปบริเวณที่เคยวางพระธาตุมาก่อน
วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2560
พระคาร์ดินัลองค์แรกของลาว
Bishop Louis-Marie Ling Mangkhanekhoun (C), Apostolic
Vicar of Pakse, ordaining Bishop Jean Marie Prida Inthirath (R), apostolic
vicar of Savannakhet. - EPA
25/05/2017 17:18
เมื่อวันอาทิตย์ 21 พ.ค. 2017
พระสันตปาปาฟรังซิสได้แต่งตั้งพระคาร์ดินัล 5 องค์ จากทั่วโลก
หนึ่งในนั้นเป็นพระคาร์ดินัลในอาเซี่ยน คือพระสังฆราช Louis-Marie Ling
Mangkhanekhoun แห่งประเทศลาว ท่านปกครองสังฆมณฑลปักเซ อายุ 73 ปี ส่วนพระคาร์ดินัลองค์อื่นๆมาจากประเทศ
มาลี สเปน สวีเดน และเอลซัลวาดอร์ และพิธีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะกระทำในวันอาทิตย์ที่
28 พ.ค. ตรงกับวันฉลองนักบุญเปโตรและเปาโล
Father Raphael Tran Xuan
Nhan แห่งสังฆมณฑล Vinh Diocese
ที่อยู่ตอนกลางของเวียดนาม ท่านเข้ามาทำงานที่ประเทศลาวตั้งแต่ปี 2005 กล่าวว่า
พระคาร์ดินัลองค์ใหม่ของลาวต้องทำงานหนักเพื่อเชื่อมโยงคุณค่าทางคริสตศาสนาให้เข้ากับวัฒนธรรมประเพณีของชาวลาวเพื่อที่พระศาสนจักรจะสามารถอยู่ร่วมกับพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาหลักของประเทศได้
พระคาร์ดินัลยังต้องทำการฟื้นฟูปรับปรุงกลุ่มพลมารีย์ที่อยู่ในลาวตั้งแต่ปี
2005 ด้วย มีสมาชิกกลุ่มพลมารีย์อยู่ 500
คนที่ช่วยสอนคำสอนคาทอลิก
ช่วยนำศีลมหาสนิทไปให้ผู้ป่วย และทำงานอภิบาลอื่นๆร่วมกับพระสงฆ์
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม
2016 มีพิธีฉลองการสถาปนามรณสักขีชาวลาว 17 องค์ที่กรุงเวียงจันทร์
เมืองหลวงของลาว นี่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐและพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศนี้ มรณสักขี 17 องค์เป็นที่รู้จักในนาม “โยเซฟเทียนและเพื่อน”
ทั้งหมดยอมตายเพื่อยืนยันความเชื่อจากฝีมือของพรรคคอมมิวนิสต์ประเทศลาว
ในพิธีฉลองมีผู้แทนรัฐบาลและผู้แทนศาสนาอื่นๆเข้าร่วมโดยนั่งอยู่แถวหน้าสุด
ประธานในพิธีได้แก่ผู้แทนของพระสันตปาปาฟรังซิส และพระสังฆราชจากประเทศเพื่อนบ้าน
รวมทั้งประเทศไทยเข้าร่วมด้วย
ประเทศลาวมีคาทอลิกประมาณ
45,000 คน คิดเป็น 1 % ของประชากรที่มีอยู่ราว 7 ล้านคน มีพระสังฆราช 4 องค์ และ 2 องค์ได้ลาเกษียณแล้ว มีพระสงฆ์และสังฆานุกรชาวลาว 21 องค์
และมีซิสเตอร์สิบกว่าคน
มิชชันนารีที่ทำงานในลาวถูกทางการขับไล่ให้ออกนอกประเทศและคาทอลิกถูกเบียดเบียนเมื่อคอมมิวนิสต์เข้ามาครอบครองประเทศในปี
1975
วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560
นักบุญโยเซฟ
วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560
สามเณรชาวอิรักช่วยรักษาศีลมหาสนิทให้พ้นจากกลุ่มISIS
ในเดือนสิงหาคม 2014 สามเณรชาวอิรักได้สร้างวีรกรรมด้วยการนำศีลมหาสนิทจากโบสถ์ท้องถิ่นมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่กลุ่มทหารของ
ISIS จะเข้ามาโจมตีหมู่บ้านใน Karamlesh.
Martin Baani สามเณรอายุ 24 ปีกล่าวว่า “ในวินาทีสุดท้าย Pashmerga
(กองกำลังทหารเคอร์ดิชที่ปกป้องหมู่บ้าน) ได้บอกพวกเราว่าจะปลอดภัย”
“แต่แล้วเราก็ได้ยินมาว่า
พวกเขากำลังติดตั้งปืนใหญ่ไว้บนเนินเขา St Barbara’s Hill (อยู่ท้ายหมู่บ้าน)
เรารู้ในเวลานั้นเองว่าสถานการณ์อยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก”
มีโทรศัพท์จากเพื่อนโทรมาบอกมาร์ตินเกี่ยวกับข่าวของเมืองที่อยู่ใกล้ๆ
Telkaif ว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของ ISIS แล้ว และเมือง Karamlesh จะกลายเป็นรายต่อไป
สามเณรหนุ่มรีบวิ่งไปที่โบสถ์ nearby St Addai ทันที และนำถ้วยบรรจุศีลมหาสนิทติดตัวหนีออกจากหมู่บ้านทันทีพร้อมกับพระสงฆ์เจ้าอาวาสและนักบวชอีกสามท่าน
“ผมเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากเมือง
Karemlesh โดยมีศีลมหาสนิทอยู่ในมือของผม”
มาร์ตินและเพื่อนสามเณรรู้ข่าวว่าอนาคตของคริสต์ศาสนาในอิรักแทบหมดหวังแล้ว
คริสตชนในอิรักที่มีอยู่ 1.5 ล้านคนก่อนปี
2003 ได้ลดลงเหลือเพียง 300,000 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่น
มาร์ตินไม่ได้หลบหนี เขาพูดว่า “ผมอาจหนีไปได้ง่ายมาก
เพราะครอบครัวผมตอนนี้อยู่ที่คาร์ลิฟฟอร์เนีย ผมมีวิซ่าพร้อมแล้วที่จะไปอเมริกาได้ แต่ผมต้องการอยู่ ผมไม่ต้องการหนีจากปัญหา”
มาร์ตินเลือกที่รับใช้ประชาชนที่ยังคงอยู่ที่อิรัก
“เราต้องยืนหยัดเพื่อสิทธิอันชอบธรรมของเรา เราต้องไม่กลัว”
มาร์ตินศึกษาต่อเพื่อเป็นพระสงฆ์ในเมือง Erbil และในเดือนกันยายน 2016
เขาก็ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์
เวลานี้เขากำลังทำงานในเมืองบ้านเกิดของเขาซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระจากกลุ่ม
ISIS แล้ว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)