มีพระสังฆราชฟิลิปปินส์ 3 องค์ที่จะได้รับการสถาปนาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และหนึ่งในนี้ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย
>>>อ่านต่อ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ธนาคารเวลา
ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่ง
นำเงินเข้าบัญชีให้คุณทุกเช้าเป็นจำนวนเงิน 86,400 บาท
แต่ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้น ทุกสิ้นวันยอดเงินที่เหลืออยู่จะถูกลบจนหมด
คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนที่สุดคุณต้องถอนมาใช้ทุกบาททุกสตางค์ใช่ไหม!!!
เราทุกคนก็มีธนาคารอย่างนี้เหมือนกัน
ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า “เวลา” มันเข้าบัญชีให้คุณ
86,400 วินาที ทุกคืนมันจะถูกล้างบัญชีเหลือศูนย์
มันไม่สะสมยอดคงเหลือ ไม่ให้เบิกเกินบัญชี
ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้มันให้เกิดประโยชน์ในระหว่างวัน ผลขาดทุนก็เป็นของคุณ
ไม่สามารถถอยหลังกลับไปใช้ได้ ไม่มีการถอนของ “วันพรุ่งนี้”
มาใช้ได้ คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้
ให้ลงทุนจากเงินฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนกลับมาดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ
ความสุข และความสำเร็จ นาฬิกากำลังเดินไม่หยุด จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด
และมีคุณค่าที่สุด
จงใช้เวลาที่มีให้มีคุณค่า
และจำไว้เสมอว่า “เวลา” จะไม่คอยใครแม้สักคนเดียว
เมื่อวานคืออดีต พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย
ส่วนปัจจุบันเป็นของขวัญที่เรามี
เราจึงเรียกมันว่า “Present”
วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ขุมทรัพย์พระปรีชาญาณ และความรู้ทั้งปวง
พันธสัญญาใหม่ระบุว่าปรีชาญาณคือพระคริสตเจ้า
พระบุตร และพระวาจาของพระเจ้า พระองค์ประทานกฎแห่งชีวิต
ซึ่งมากกว่าข้อกำหนดในบัญญัติ 10 ประการ “เราคือหนทาง ความจริง และชีวิต”
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
อะไรเกิดขึ้นในเวลาที่เราตาย
อิวานกา ผู้เห็นแม่พระในเมดจูกอเรจ์ บอกว่า แม่พระตรัสกับเธอดังนี้
“พวกลูกจะไปสวรรค์โดยมีสติรับรู้เหมือนกับที่ลูกมีอยู่ในเวลานี้ ในเวลาที่ลูกเสียชีวิต
ลูกจะรับรู้ถึงการแยกจากของร่างกายและวิญญาณ
เป็นคำสอนที่ผิดที่สอนว่าคนเราสามารถเกิดได้หลายครั้งและคนเราจะไปมีร่างกายอื่นที่แตกต่างจากเดิม
คนเราเกิดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อตายไป ร่างกายถูกฝังในแผ่นดิน
ก็จะเสื่อมสลายไป มันจะไม่กลับมามีชีวิตอีก แต่มนุษย์จะได้รับสภาพใหม่”
มารีจา ผู้เห็นแม่พระอีกคนหนึ่งกล่าวว่า
“แม่พระตรัสว่า ชีวิตของพวกเราเหมือนกับดอกไม้ พวกเราอยู่ที่นี่เพียงชั่วคราว
มีแต่ชีวิตนิรันดรเท่านั้นที่จะไม่มีวันสิ้นสุด
ด้วยเหตุนี้แม่พระจึงทรงกระตุ้นพวกเราให้คิดถึงชีวิตฝ่ายจิตและสวรรค์ให้มากขึ้น
พระแม่ตรัสว่า ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงไป ท่าทีของเราเกี่ยวกับชีวิตก็จะเปลี่ยนไป
เมื่อเราคิดพิจารณาไตร่ตรองถึงเรื่องดังกล่าวนี้ เราจะมีความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า
ชีวิตของเราบนโลกนี้จะต้องผ่านพ้นไปเหมือนดอกไม้
เรากำลังอยู่ในโลกที่จะผ่านพ้นไป”
วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)