ความเชื่อไม่ได้ขัดแย้งกับหลักเหตุผลเพราะทั้งสองมาจากพระเจ้าองค์เดียวกัน
นักปราชญ์ในยุคกลางของยุโรปได้ให้อรรถธิบายอย่างสวยงามดังที่กล่าวมานี้
พวกเขาอธิบายว่าพระเจ้าทรงสอนเราโดยผ่านทางหนังสือพระคัมภีร์แห่งการเปิดเผยของพระองค์
และยังได้สอนพวกเราโดยผ่านทางหนังสือแห่งธรรมชาติอีกด้วยซึ่งก็คือความเป็นจริงที่อยู่รอบๆตัวเรา และเพราะทั้งสองอย่างนี้มีต้นกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน
นั่นคือมาจากพระเจ้าผู้ทรงปรีชาญาณลึกล้ำ
ดังนั้นความเชื่อและหลักเหตุผลจึงไม่มีทางที่จะขัดแย้งกันได้
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561
สแตมป์ใหม่สำหรับวันอีสเตอร์
ไปรษณีย์ของวาติกัน Philatelic
and Numismatic Office ได้ออกแสตมป์ใหม่สำหรับเทศกาลอีสเตอร์ 2018
มีค่า 0.95 เซนต์ เป็นภาพจากต้นฉบับของศิลปินชาวสเปนชื่อ Raúl Berzosa, อายุ 38 ปี วาดในปี 2016. เป็นรูปพระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์
วันที่
18 ก.พ. เวปไซต์ของพระสังฆราชเยอรมนีได้วิจารณ์รูปภาพนี้ว่า พระเยซูเจ้าในรูปมีกล้ามเนื้อบึกบึนเหมือนกับนักเพาะกายดูไม่เหมาะสมนัก
Berzosa วาดรูปนี้ให้แก่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่
16 และรูปถูกประดับไว้ที่อาสนวิหาร cathedral of Fargo, North Dakota เขายังได้วาดรูปของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 และรูปอื่นๆอีกมากมาย
วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561
ทำไมฟินแลนด์ถึงมีการศึกษาดีที่สุดในโลก ?
ที่ฟินแลนด์ไม่มีเด็กสอบตก
ไม่มีการสอบมาตรฐานปรับการสอนตามบุคคลไมยึดตามมาตรฐานเดียว
นักเรียนไม่เกิน 20 คน/ห้อง ต่อสัดส่วนครู 3 คน
เรียนไม่เกิน 5 ชั่วโมงต่อวัน ประมาณ 3-4คาบ
พัฒนาความรู้แบบองค์รวม ไม่เน้นการแข่งขันหรือแค่วิชาเดียว
แต่วิชายาก เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เด็กฟินแลนด์ทำคะแนนได้ดีติดอันดับโลก
เด็กเกือบทั้งหมดพูดได้ 4 ภาษา
วิชาชีพครูต้องเรียน 5 ปี ครูที่นี่จึงเก่งดีมีคุณภาพ
กฎหมายกำหนดให้เรียนฟรีตั้งแต่ 9 ขวบจนจบปริญญาเอก เด็กจบมาทำงานตรงตามที่เรียน
วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561
คริสตชนคาทอลิกในจีนเพิ่มขึ้น
ในปี 2017 มีชาวจีนประมาณ 50,000 คน (อาจมากกว่านี้) ที่ได้รับศีลล้างบาปในพระศาสนจักรคาทอลิก
นี่เป็นตัวเลขที่ได้จาก Fides ซึ่งเป็นรายงานข่าวสารการแพร่ธรรมที่ตีพิมพ์เมื่อ 15 ก.พ.
ตัวเลขอย่างเป็นทางการคือ
48,566 คน อย่างไรก็ตาม
มีการประกอบพิธีล้างบาปในบริเวณนอกเมืองใหญ่ซึ่งยังไม่ได้ถูกนับรวมไว้ด้วย
เพราะการรับข้อมูลจากพื้นที่ห่างไกลของประเทศจีนนั้นมีความยากลำบากด้วยสาเหตุหลายประการ
พระศาสนจักรคาทอลิกและประเทศจีนมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาเป็นเวลายาวนาน
แต่ในปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก
รัฐบาลจีนซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์และไม่เชื่อในพระเจ้ายังคงไม่ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา
และทำการเบียดเบียนคริสตชนในหลายระดับ
พระศาสนจักรได้รับอนุญาติให้ดำเนินงานได้ภายใต้การควบคุมของรัฐเท่านั้น
หน่วยงานของรัฐเข้ามาดูแลและควบคุมโบสถ์และไม่ยอมรับอำนาจของพระสันตะปาปาในโรม
ผลลัพท์ของสิ่งนี้คือทำให้เกิด พระศาสนจักรสองพระศาสนจักรขึ้นในแผ่นดินจีน
คือพระศาสนจักรที่รัฐบาลรับรอง และพระศาสนจักรใต้ดินซึ่งรัฐบาลไม่รับรอง
พระศาสนจักรแรกไม่ความสัมพันธ์กับวาติกันน้อยมาก
ส่วนอีกพระศาสนจักรหนึ่งยังไม่ซื่อสัตย์ต่อทางสันตสำนัก พระสงฆ์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาลจะถูกเบียดเบียน
และอาจต้องถูกฆ่าเป็นมรณะสักขี
พระศาสนจักรพยายามพูดจากับทางรัฐบาลจีน
แต่ประเด็นปัญหาหลักก็คือฝ่ายใดที่เป็นผู้แต่งตั้งพระสังฆราช
รัฐบาลจีนไม่เต็มใจที่จะให้ทางวาติกันเลือกพระสังฆราชและกลับแต่งตั้งพระสังฆราชขึ้นมาเอง
มีคริสตชนคาทอลิกในประเทศจีนประมาณ 12 ล้านคน
และจำนวนก็เพิ่มมากขึ้นทั้งๆที่มีการเบียดเบียนจากรัฐบาลจีน เหมือนดังคำพูดที่ว่า พระศาสนจักรจะเติมโตขึ้นเมื่อถูกเบียดเบียน
และตัวเลขการล้างบาปก็แสดงให้เห็นประจักษ์ชัด
วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561
ซาตานประจญล่อลวงพระเยซูเจ้า
เมื่อซาตานเผชิญหน้ากับพระคริสต์ในทะเลทราย ซาตานพยายามล่อลวงพระองค์ผู้ทรงอยู่ในสภาพมนุษย์ มันล่อหลอกให้พระองค์แสดงพระฤทธานุภาพด้วยการประจญสามครั้ง
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561
รำพึงไตร่ตรองในเทศกาลมหาพรต
ระหว่างเทศกาลมหาพรต ขอให้เราร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำตาของแม่พระในหนทางแห่งพระมหาทรมานเพื่อร่วมเดินทางไปกับการพลีชีพบูชาด้วยความรักของพระเยซูคริสตเจ้า
>>>อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)