"ดอกกุหลาบได้รับการปกป้องด้วยหนามอันแหลมคม ผู้ที่ต้องการเด็ดดอกกุหลาบก็เสี่ยงที่จะหลั่งเลือด คำว่า”กุหลาบแห่งความอดทน”('Rose of Patience') มีความเชื่อมโยงกับสองแนวคิดที่น่าสนใจ คือ ความงามแห่งความอดทนของนักบุญโดมินิคและความกล้าหาญของท่าน ความอดทนช่วยให้มนุษย์อดทนต่อความชั่วร้ายโดยไม่พ่ายแพ้ต่อมัน ความอดทนช่วยให้มนุษย์จัดการกับความเศร้าโศกในปัจจุบันได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น... ชีวิตคือหุบเขาแห่งน้ำตา , นี่คือบทเรียนของอาดัมผู้เป็นบรรพบุรุษของเรา สิ่งสำคัญก็คือการเรียนรู้ที่จะมีความอดทนหรือวิธีใช้ชีวิตในความเศร้าอย่างชาญฉลาด คุณธรรม... ความอดทนที่แท้จริงไม่เรียกร้องให้คนเราอดทน เราต้องทำในสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อบรรเทาสถานการณ์...และในการทำเช่นนั้นเขาทำหน้าที่อย่างมีเหตุผล นั่นคือคุณธรรม การกระทำดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าคนนั้นไม่มีความอดทน แต่มีบางสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรนอกจากอดทนอย่างสงบและมีใจสันติ... ความอดทนของ นักบุญโดมินิกได้รับรางวัล โดยการเก็บเกี่ยววิญญาณที่ได้ผลดีเกินคาด และทำให้มีการจัดตั้งคณะโดมินิกันเพื่อรับใช้พระศาสนจักรและมนุษยชาติขึ้นในปี 1216 เป็นบุญของผู้มีความอดทนเพราะพวกเขาจะได้รับรางวัลเช่นกัน รางวัลส่วนหนึ่งก็คือการมีมุมมองที่กว้างขึ้น ความเศร้าโศกที่มีในแต่ละวัน นำพาให้มีความอดทนสำหรับแต่ละวัน...บรรดาศิษย์ของนักบุญโดมินิคต้องคอยเพ่งมองไปที่ความทุกข์ทรมานของพระผู้ไถ่ของพวกเขา เมื่อพระองค์เผชิญหน้ากับความเศร้าโศก แล้วนั้นพวกเขาจะไม่หดหู่ใจหรือท้อแท้ แต่จะยอมรับว่าที่เขาต้องเจ็บปวดและเป็นทุกข์นั้นเป็นการใช้โทษบาปของตน เป็นโอกาสที่เขาจะพิสูจน์ถึงความรักของพวกเขาที่มีต่อพระเจ้า "
- Fr Richard Murphy OP ภาพปูนเปียกสมัยศตวรรษที่ 17 แสดงการตายของนักบุญโดมินิก(St Dominic)ซึ่งเกิดขึ้นในวันนี้ (6 สิงหาคม) ในปี 1221 ภาพนี้อยู่ในอารามใหญ่ของอาสนวิหาร Santa Maria Novella ในฟลอเรนซ์
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2562
วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562
4 สัญญาณอาการสายตาเอียง
เคยสังเกตอาการของตัวเองบ้างหรือไม่ว่า ทำไมเวลามองตัวเลขที่มีลักษณะคล้ายๆกันอย่างเช่น เลข 3 หรือเลข 8 แล้วแยกไม่ออก
>>>อ่านต่อ
วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562
หย่อนอารมณ์
ลูกชายตัวน้อยที่ช่างสงสัยไปหาพ่อแล้วถามว่า “พ่อครับ ต้นกำเนิดของคนเรามาจากไหนครับ?”
พ่อตอบ – “เริ่มแรกพระเจ้าทรงสร้างอาดัมและเอวา แล้วทั้งคู่ก็ให้กำเนิดลูกหลานมากมาย และลูกหลานของเขาก็มีลูกหลานต่อๆมา จนถึงปัจจุบันนี้ คนเราจึงมีต้นกำเนิดมาจากอาดัมและเอวานี่แหละ”
ลูกเดินไปหาแม่และถามคำถามเดียวกัน
แม่ตอบ – “ในยุคโบราณลิงได้มีวิวัฒนาการแบบค่อยเป็นค่อยไป จนเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นมนุษย์ทุกวันนี้ คนเราจึงมีต้นกำเนิดมาจากลิง”
“ลูกชายเดินไปหาพ่อและพูดกับพ่อว่า “คุณพ่อโกหก แม่บอกว่าคนเรามีต้นกำเนิดมาจากลิงต่างหาก”
พ่อตอบ – “พ่อไม่ได้โกหกหรอก ที่แม่พูดอย่างนั้นเพราะแม่กำลังพูดถึงบรรพบุรุษทางครอบครัวของเขาน่ะ”
วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2562
พระเยซูประทานบทภาวนาสั้นๆแก่เรา
“พระเยซูทรงเปิดเผยถึงดวงพระทัยที่ทนทุกข์อย่างยิ่งอันเนื่องมาจากการไม่มีความเชื่อของวิญญาณที่ถวายตนแด่พระองค์ ”
>>>อ่านต่อ
วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562
ความลับข้อที่สามของฟาติมาส่วนที่ขาดหายไป
“ในกรุงโรมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน สิ่งที่เน่าเฟะจะล่วงหล่นและสิ่งที่ล่วงหล่นแล้วก็จะไม่ถูกเก็บไว้ พระศาสนจักรจะถูกบดบังและโลกทั้งโลกจะถูกโยนลงไปในความสับสน”
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2562
ไม้กางเขนแห่งนากาซากิ
ภายถ่ายวันที่7 ม.ค. 1946 โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมลในเมืองนากาซากิซึ่งถูกทำลายจากลูกระเบิดปรมาณูในวันที่ 9 ส.ค. 1945
ทางวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้คืนไม้กางเขนทำด้วยไม้ที่นำมาจากโบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมล ไม้กางเขนถูกค้นพบจากซากของโบสถ์ที่เหลืออยู่หลังจากถูกระเบิดปรมาณูในวันที่ 9 ส.ค. 1945 การมอบคืนไม้กางเขนนี้เพื่อเป็นเครื่องหมายของ"สันติภาพและการคืนดีกัน” Dr. Tanya Maus, ผู้อำนายการของ Wilmington College's Peace Resource Center, มีแผนที่จะคืนไม้กางเขนในวันที่ 7 ส.ค. 2019 ให้แก่โบสถ์ที่เมืองนากาซากิ
ในวันที่ 6 ส.ค. 1945 เมืองฮิโรชิมาถูกระเบิดปรมาณูทำลาย และในวันที่ 9 ส.ค. เมืองนากาซากิก็ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูต่อมา
ชาวเมืองฮิโรชิมาเสียชีวิตทันทีประมาณ 80,000 คน และรังสีจากระเบิดยังทำให้คนอีก 130,000 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมาอีกด้วย ส่วนเมืองนากาซากิ ผู้คนเสียชีวิตไปประมาณ 40,000 คน อาคารของเมืองสามในสี่ส่วนถูกทำลายจนราบเรียบ
เมืองนากาซากิเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนา นับตั้งแต่นักบุญฟรังซิส เซเวียร์มาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 16 เมื่อจักรพรรดิญี่ปุ่นปิดประเทศด้วยความกลัวว่าจะถูกต่างชาติยึดครองและคริสตชนก็ถูกจับกุมและทรมานจำนวนมากมาย คริสตชนคาทอลิกญี่ปุ่นที่เมืองนากาซากิสามารถรอดพ้นจากการถูกเบียดเบียนมาได้ จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงได้มีการให้อิสรภาพในการนับถือศาสนาอีกครั้งในศตวรรษที่ 19
โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมลของเดิมถูกทำลายไป(ตามรูปภาพ) และได้มีการร้างขึ้นใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบใหม่สำเร็จในปี 1959
Walter Hooke ซึ่งเป็นนาวิกโยธินสหรัฐ และเป็นคาทอลิกได้พบไม้กางเขนและนำไปให้มารดาของเขา ต่อมาเขาได้มอบไม้กางเขนให้แก่ Peace Resource Center
ไม้กางเขนที่ถูกส่งมอบคืนนี้จะนำมาแสดงในโบสถ์นี้
ทางวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้คืนไม้กางเขนทำด้วยไม้ที่นำมาจากโบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมล ไม้กางเขนถูกค้นพบจากซากของโบสถ์ที่เหลืออยู่หลังจากถูกระเบิดปรมาณูในวันที่ 9 ส.ค. 1945 การมอบคืนไม้กางเขนนี้เพื่อเป็นเครื่องหมายของ"สันติภาพและการคืนดีกัน” Dr. Tanya Maus, ผู้อำนายการของ Wilmington College's Peace Resource Center, มีแผนที่จะคืนไม้กางเขนในวันที่ 7 ส.ค. 2019 ให้แก่โบสถ์ที่เมืองนากาซากิ
ในวันที่ 6 ส.ค. 1945 เมืองฮิโรชิมาถูกระเบิดปรมาณูทำลาย และในวันที่ 9 ส.ค. เมืองนากาซากิก็ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูต่อมา
ชาวเมืองฮิโรชิมาเสียชีวิตทันทีประมาณ 80,000 คน และรังสีจากระเบิดยังทำให้คนอีก 130,000 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมาอีกด้วย ส่วนเมืองนากาซากิ ผู้คนเสียชีวิตไปประมาณ 40,000 คน อาคารของเมืองสามในสี่ส่วนถูกทำลายจนราบเรียบ
เมืองนากาซากิเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนา นับตั้งแต่นักบุญฟรังซิส เซเวียร์มาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 16 เมื่อจักรพรรดิญี่ปุ่นปิดประเทศด้วยความกลัวว่าจะถูกต่างชาติยึดครองและคริสตชนก็ถูกจับกุมและทรมานจำนวนมากมาย คริสตชนคาทอลิกญี่ปุ่นที่เมืองนากาซากิสามารถรอดพ้นจากการถูกเบียดเบียนมาได้ จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงได้มีการให้อิสรภาพในการนับถือศาสนาอีกครั้งในศตวรรษที่ 19
โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมลของเดิมถูกทำลายไป(ตามรูปภาพ) และได้มีการร้างขึ้นใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบใหม่สำเร็จในปี 1959
Walter Hooke ซึ่งเป็นนาวิกโยธินสหรัฐ และเป็นคาทอลิกได้พบไม้กางเขนและนำไปให้มารดาของเขา ต่อมาเขาได้มอบไม้กางเขนให้แก่ Peace Resource Center
ไม้กางเขนที่ถูกส่งมอบคืนนี้จะนำมาแสดงในโบสถ์นี้
วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562
นักบุญ 9 องค์พูดถึงนรก
สถานที่แบบใดหนอที่มีแต่เสียงร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน..ที่ซึ่งแม้แต่ซาตานก็ยังต้องสั่นสะท้าน?
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)