พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เรื่องราวของเท็ดดี้ สต๊อดดาร์ด


เสื้อผ้าของเขายับยู่ยี่ และตัวเขามักสกปรกมอมแมมอยู่เสมอ เท็ดดี้อาจไม่เป็นที่พอใจของเพื่อนคนอื่นๆ
>>>อ่านต่อ

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

คำพูดของนักบุญ


             "พระเจ้าทรงประทานมิตรสหายแก่เราเพื่อช่วยให้เรามั่นคงในชีวิตที่ต้องดิ้นรนและเพื่อเราจะได้พบความเข้มแข็งที่จะบรรลุถึงความตั้งใจดีของเรา"
              นักบุญ แมกซิมีเลี่ยน คอลเบ

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

จีนเริ่มถอดไม้กางเขนออกจากโบสถ์

             ไม้กางเขนของโบสถ์ St. Michael Church ในสังฆมณฑล Yongqiang ในเมือง Wenzhou ถูกรื้อถอนออกจากยอดในเดือนตุลาคม 2018 ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่คอมมิวนิสต์
              ฝ่ายบริหารคอมมิวนิสต์ในประเทศจีนได้เริ่มต้นการรื้อถอนไม้กางเขนออกจากโบสถ์หลังจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสลดลง แหล่งข่าวบอกกับทาง UCA News เมื่อวันที่ 27 เมษายน นี้ว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
              เจ้าหน้าที่ได้ถอดไม้กางเขนออกจากด้านบนของอาคารโบสถ์สองแห่ง และพวกเขากลัวว่าจะมีการกระทำดังกล่าวมากขึ้น
               การรื้อถอนไม้กางเขนเริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อมีรายงานการปล่อยตัวผู้ป่วย Covid-19 คนสุดท้ายในหวู่ฮั่น ทำให้ทางรัฐบาลเริ่มปลอดจากแรงกดดันจากการต่อสู้กับโรคระบาด

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เด็กชายโปรเตสแตนต์และพระแม่มารีย์

จงอุทิศตนเองอย่างสมบูรณ์เพื่อรับใช้พระแม่มาptรีย์เถิด และอย่าปล่อยให้วันเวลาผ่านไปแม้แต่วันเดียวโดยที่ไม่ได้สวดบทภาวนาที่สวยงามของบทวันทามารีย์และสวดสายประคำ
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ในยามวิกฤตโลกหันมาหาแม่พระ


โรคระบาดทำให้หลายคนรู้สึกหมดหนทาง บรรดาพระสังฆราชทั่วโลกแสดงความเชื่อของพวกเขาว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องหันมาอธิษฐานภาวนา
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

วิถีชีวิตในปัจจุบันของคาทอลิก


             สภาพชีวิตในปัจจุบันของเราได้ถูกทำนายไว้ก่อนแล้ว
             “ศีลสมรส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวของพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักรของพระองค์ ก็จะถูกโจมตีและถูกล่วงเกินอย่างหนักเช่นเดียวกัน ลัทธิฟรีเมซอน ซึ่งจะมีอำนาจ จะบังคับใช้กฎหมายโดยมีจุดประสงค์ให้คนไม่ต้องรับศึลสมรสนี้ โดยทำให้ทุกคนสามารถอยู่กินกันในบาปได้ง่ายๆ เป็นการทำให้ลูกๆของพวกเขาที่เกิดมาอย่างไม่ถูกต้องอดได้รับศีลล้างบาปจากพระศาสนจักร (เป็นกฏของพระศาสนจักรที่ไม่สามารถล้างบาปเด็กที่เกิดมาโดยไม่ได้รับศีลสมรสอย่างถูกต้อง เพราะพ่อแม่จะไม่สามารถให้การอบรมลูกแบบคาทอลิกได้)
               “จิตวิญญาณของคาทอลิกจะเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว แสงสว่างอันทรงคุณค่าแห่งความเชื่อจะค่อยๆดับหายไป ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่นกระจายอยู่ทั่วไปในทุกกิจการ สิ่งเหล่านี้มีผลมาจากการศึกษาตามวิถีทางโลก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระแสเรียกเป็นพระสงฆ์และนักบวชเสื่อมถอยไปด้วย
                คำทำนายของแม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี ศตวรรษที่ 18

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

จงสวมจิตใจใหม่ และละทิ้งจิตใจเก่า

             ท่านจงถอดสภาพมนุษย์เก่า เลิกประพฤติเลวทรามตามราคตัณหาที่หลอกให้หลงไป จงมีความรู้สึกและนึกคิดอย่างใหม่ จงสวมใส่สภาพมนุษย์ใหม่ซึ่งพระเจ้าทรงเนรมิตให้เหมือนพระองค์ มีความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากความจริง (เอเฟซัส 4:22-24)