พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

อารักขเทวดา


จงสวดภาวนาขอความช่วยเหลือจากอารักขเทวดาทุกวัน ท่านจะดูแลเราทั้งบนโลกนี้และในไฟชำระ และท่านจะต้อนรับเราในสวรรค์
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

อำนาจแห่งการสวดภาวนาด้วยความเชื่อ


ผมได้แปลเรื่องราวชีวิตของคุณพ่อเฮอร์แมนนี้ ซึ่งน่าสนใจสำหรับพวกเราทุกคนที่กำลังสวดภาวนา เพื่อวิญญาณที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังที่จะได้รับพระหรรษทานในการกลับใจ
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระเมตตาครั้งสุดท้าย


"เธอมีทางเลือก. เธอจะอยู่ที่นี่, หรือเธอจะกลับไป. ถ้าเธออยู่ที่นี่, เธอจะถูกลงโทษตามความยุติธรรมทันที"
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สวดภาวนาเวลาเช้า


คริสตชนยุคแรกใช้เวลาสวดภาวนานานนับชั่วโมงในแต่ละวันและประชุมกันในโบสถ์แม้ในเวลากลางคืนเพื่อสวดภาวนาและอ่านบทสดุดีร่วมกัน
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความศรัทธาของหญิงพิการชาวมองโกเลีย


"เมื่อประชาชนมองเห็นความเชื่อของฉัน พวกเขาก็สนใจในพระเจ้าและพระศาสนาจักร. โบสถ์ของเราที่ Nisekh มีบรรยากาศของครอบครัว. ฉันสอนตำสอนให้แก่ผู้ใหญ่เจ็ดคน เป็นผู้หญิงห้าและผู้ชายสองคน"
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความศรัทธาของหญิงพิการชาวอัฟริกัน

              (CNA).- ซิสเตอร์คณะรับใช้ผู้ถูกทอดทิ้งในกรุงชิสซาโน (โมแซมบิก) ได้รับหญิงอัฟริกันอายุ 25 ปีมาดูแลที่บ้านของคณะ. เธอชื่อ โอลิเวีย หญิงคนนี้ไม่มีขาและยังไม่ได้รับศีลล้างบาป. แต่ทุกวันอาทิตย์เธอจะคลานมาด้วยมือทั้งสองจากบ้านของเธอซึ่งอยู่ห่างโบสถ์ไป 2.5 ไมล์เพื่อมาร่วมพิธีมิสซา.
             ซิสเตอร์เล่าให้ฟังว่า "วันหนึ่งเธอเห็นอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่พื้นดินห่างออกไป และเมื่อสิ่งนั้นเข้ามาใกล้เธอจึงเห็นได้ชัดเจนและรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งที่เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง"
             "เราพูดกับเธอผ่านทางล่ามซึ่งเป็นผู้หญิงที่เดินมาเคียงข้างและสามารถแปลเป็นภาษาโปรตุเกสได้" ซิสเตอร์บอก
             ซิสเตอร์เล่าต่อไปว่า "ถึงแม้ทรายบนพื้นจะร้อนจัดในระหว่างช่วงเวลานี้ของปีและแผดเผามือของเธอ แต่เธอก็ยังยืนหยัดที่จะมาร่วมพิธีมิสซา ทำให้พวกเราทึ่งในความเชื่อขั้นวีรกรรมชองเธอมาก"
             หญิงอัฟริกันผู้นี้ได้รับศีล้างบาปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ โดยได้รับการเตรียมตัวจากผู้สอนคำสอนซึ่งไปเยี่ยมเธอที่บ้าน. ภายหลังจากได้รับศีลล้างบาป,ได้มีผู้สนับสนุนงานของซิสเตอร์รายหนึ่งได้มอบรถวีลแชร์ให้แก่โอลีเวีย

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563