วันหนึ่ง,ท่านอธิการแห่งทะเลทรายสเก็ตติสออกคำสั่งให้นักพรตทุกท่านทำการอดอาหารเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
ระหว่างนั้น,มีคนแปลกหน้าผู้หนึ่งแวะมาเยี่ยมท่านโมเสสแห่งเอธิโอเปีย โมเสสได้ปรุงอาหารเลี้ยงคนแปลกหน้าและต้อนรับเขาในห้องพักของท่าน
นักพรตองค์อื่นๆที่ผ่านมาเห็นอาหารให้ห้องพักของโมเสส จึงไปรายงานให้ท่านอธิการทราบถึงการที่โมเสสได้ละเมิดข้อบังคับ ท่านอธิการรับฟังอย่างตั้งใจและกล่าวกับนักพรตองค์อื่นๆว่า “ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” เมื่อถึงวันอาทิตย์,นักพรตทุกองค์มารวมกันในพิธีกรรม ท่านอธิการพูดกับโมเสสว่า
“โอ,ท่านโมเสส, ท่านได้ทำตามพระบัญญติแห่งความรักต่อเพื่อมนุษย์อย่างดีเพื่อทำตามพระบัญญัติของพระคริสต์อย่างสมบูรณ์”
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา
  สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)
วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564
อับบาแอนโทนี่และนายพราน
นายพรานคนหนึ่งตามล่าสัตว์อยู่ในทะเลทรายและบังเอิญไปพบกับอับบาแอนโทนี่กำลังพักผ่อนอยู่กับศิษย์ของท่านจำนวนหนึ่งเข้า
นายพรานตกใจและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าหัวหน้าของอารามน่าจะดำเนินชีวิตที่มีกฏข้อบังคับที่เข้มงวดมากกว่านี้ อับบาแอนโทนี่บอกนายพรานให้ขึ้นลูกศรที่คันธนูและยิงออกไป
นายพรานรู้สึกฉงนแต่ก็ทำตาม อับบาขอให้เขายิงอีก,ยิงอีกและยิงอีก นายพรานจึงบอกท่านนักบุญว่า ถ้าเขาทำตาม,คันธนูอาจจะงอและหักได้
อับบาแอนโทนี่จึงกล่าวว่า
“งานของพระเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกัน ถ้าหากเราใช้กฎระเบียบวินัยที่เคร่งครัดกับพี่น้องของเรามากเกินไป พวกเขาก็อาจทนไม่ไหว ดังนั้นบางครั้งเราก็ต้องลดความเข้มงวดลงบ้างตามกำลังของพวกเขา”
นายพรานตกใจและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าหัวหน้าของอารามน่าจะดำเนินชีวิตที่มีกฏข้อบังคับที่เข้มงวดมากกว่านี้ อับบาแอนโทนี่บอกนายพรานให้ขึ้นลูกศรที่คันธนูและยิงออกไป
นายพรานรู้สึกฉงนแต่ก็ทำตาม อับบาขอให้เขายิงอีก,ยิงอีกและยิงอีก นายพรานจึงบอกท่านนักบุญว่า ถ้าเขาทำตาม,คันธนูอาจจะงอและหักได้
อับบาแอนโทนี่จึงกล่าวว่า
“งานของพระเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกัน ถ้าหากเราใช้กฎระเบียบวินัยที่เคร่งครัดกับพี่น้องของเรามากเกินไป พวกเขาก็อาจทนไม่ไหว ดังนั้นบางครั้งเราก็ต้องลดความเข้มงวดลงบ้างตามกำลังของพวกเขา”
วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาในอิรัก
Pope Francis with the Grand Ayatollah Sayyid Ali Al-Husayni Al-Sistani
Vatican News
ตามแถลงการณ์ของสำนักข่าวสันตสำนัก, ในระหว่างการเสด็จเยื่ยมผู้นำศาสนาอิสลามของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งกินเวลาประมาณสี่สิบห้านาที “พระสันตปาปาทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างชุมชนทางศาสนาเพื่อการมีส่วนร่วมกัน โดยอาศัยการปลูกฝังความเคารพซึ่งกันและกันและการเสวนากัน เพื่อประโยชน์สุขของอิรัก,เพื่อความสงบของภูมิภาคและครอบครัวมนุษย์ทั้งมวล”
แถลงการณ์ยังกล่าวอีกว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่พระสันตะปาปาจะขอบคุณ อยาตอลลาห์ อัล – ซิสตานี,ผู้นำทางศาสนา,ที่ได้กล่าวแก่ชุมชนชีอะห์เพื่อปกป้องผู้ที่เปราะบางและถูกข่มเหงมากที่สุดท่ามกลางความรุนแรงและความยากลำบากครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและ เพื่อยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์และความสำคัญของความสามัคคีของชาวอิรัก”
ในการอำลาท่านอายาตอลลาห์,พระสันตะปาปากล่าวว่า พระองค์ยังคงอธิษฐานต่อไปขอให้พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนจะประทานอนาคตแห่งสันติภาพและความเป็นพี่น้องให้กับดินแดนที่รักของอิรัก,สำหรับตะวันออกกลางและสำหรับคนทั้งโลก
วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2564
วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาเสด็จเยือนอิรัก
พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนอิรักระหว่างวันที่ 5 – 8 มีนาคม 2021 นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศมุสลิมที่สำคัญและอันตรายที่สุดครั้งหนึ่ง
>>>อ่านต่อ
วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาเยือนอิรัก
ก่อนที่พระสันตปาปาฟรังซิสจะเดินทางไปอิรัก, ในวันพฤหัสบดี 5 มี.ค. 2021 พระองค์ได้ไปสวดภาวนาเบื้องหน้าพระรูปแม่พระ Maria Salus Populi Romani. ที่อาสนวิหาร Basilica of St. Mary Major และวอนขอความคุ้มครองในการเดินทางจากแม่พระ
พระองค์จะเดินทางออกจากกรุงโรมในตอนเช้าวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่ 33 ของพระองค์ และจะอยู่ที่อิรักไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. พระรูปแม่พระนี้มาอยู่ที่กรุงโรมในปี 590 ระหว่างรัชสมัยของพระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่(Gregory the Great.)
พระองค์จะเดินทางออกจากกรุงโรมในตอนเช้าวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่ 33 ของพระองค์ และจะอยู่ที่อิรักไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. พระรูปแม่พระนี้มาอยู่ที่กรุงโรมในปี 590 ระหว่างรัชสมัยของพระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่(Gregory the Great.)
วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564
พระเยซูเจ้าเดินผ่านทุ่งข้าวสาลี
พระเยซูท่ามกลางทุ่งข้าวสาลี วาดโดย J. R. Wehle, 1900 บรรยายฉากในมาระโก 2: 23-27 ที่กล่าวว่า พระเยซูเจ้าและบรรดาอัครสาวกกำลังเดินผ่านทุ่งข้าวสาลี พวกศิษย์รู้สึกหิวจึงเด็ดเมล็ดข้าวสาลี,บดบนมือและกิน พวกฟาริสีติดตามพระเยซูเจ้ามาด้วย,จึงถามพระเยซูเจ้าถึงการกระทำของบรรดาสาวก ซึ่งถือเป็นการทำงานในวันสะบาโต พระเยซูตอบว่า “วันสะบาโตมีไว้เพื่อมนุษย์ไม่ใช่มนุษย์มีไว้เพื่อวันสะบาโต”
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)