สามีของหญิงคนหนึ่งกำลังป่วยหนัก ผู้หญิงคนนั้นวิ่งไปที่คอนแวนต์ แต่เธอถามตัวเองว่า “ฉันจะไปหาคุณพ่อปีโอได้อย่างไร” โดยปกติเธอต้องรออย่างน้อยสามวันถ้าเธอต้องการพบท่านเพื่อสารภาพบาป ดังนั้นในระหว่างพิธีมิสซา,เธอจึงยืนขึ้นและเดินจากด้านหนึ่งของโบสถ์ไปยังอีกด้านหนึ่งของโบสถ์ เธออธิษฐานในใจบอกแม่พระว่าปัญหาของเธอคืออะไร และวอนขอแม่พระในเวลาเดียวกันเพื่อให้เธอได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อปีโอ... หลังจากพิธีมิสซา เธอเดินเข้าไปอยู่ในโบสถ์อีกครั้งเพื่อที่จะไปให้ถึงที่ซึ่งคุณพ่อปีโออยู่ ในที่สุดเธอก็ไปถึงทางเดินที่มีชื่อเสียงที่คุณพ่อปีโอต้องผ่านเป็นประจำ ทันทีที่คุณพ่อปิโอเห็นเธอ,ท่านก็พูดว่า: “ผู้หญิงที่มีความเชื่อน้อย,ในที่สุดลูกก็มาขอความช่วยเหลือจากพ่อ ลูกคิดว่าพ่อหูหนวกหรือ ลูกบอกพ่อห้าครั้งแล้ว,เมื่อลูกอยู่ต่อหน้าพ่อ ที่ด้านหลัง,ทางขวาและทางซ้ายของพ่อ พ่อเข้าใจ! พ่อเข้าใจแล้ว! ...กลับบ้านไปเถิด! ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี" ผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านและพบว่าสามีของเธอหายจากโรคแล้ว
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2564
วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564
นักบุญโฟสตินาไปไฟชำระ
“ดิฉันเห็นอารักขเทวดาของดิฉัน ท่านสั่งให้ดิฉันตามท่านไป และในชั่วขณะหนึ่ง,ดิฉันก็มาอยู่ในสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยไฟ ที่นั่นมีวิญญาณที่ทุกข์ทรมานอยู่มากมาย พวกเขากำลังสวดภาวนาอย่างสุดจิตใจสำหรับตัวพวกเขาเอง, แต่ก็เปล่าประโยชน์ มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เปลวไฟที่แผดเผาพวกเขาไม่ได้สัมผัสดิฉันเลย อารักขเทวดาของดิฉันไม่ได้ละทิ้งฉันไว้แม้เพียงวินาทีเดียว ฉันถามวิญญาณเหล่านี้ว่าความทุกข์ทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออะไร พวกเขาตอบดิฉันเป็นเสียงเดียวว่า “การทรมานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือการโหยหาพระเจ้า” ดิฉันเห็นพระแม่มารีย์เสด็จมาเยี่ยมดวงวิญญาณในไฟชำระ วิญญาณเหล่านั้นเรียกพระนางว่า "ดวงดาราแห่งท้องทะเล" พระนางทรงนำความสดชื่นมาให้พวกเขา ดิฉันอยากคุยกับพวกเขามากกว่านี้ แต่อารักขเทวดากวักมือเรียกให้ฉันไป เราออกจากเรือนจำแห่งทุกขเวทนาแห่งนั้นแล้ว ดิฉันได้ยินเสียงภายใน ซึ่งพูดว่า "ความเมตตาของเราไม่ต้องการสิ่งนี้ แต่ความยุติธรรมเรียกร้อง ตั้งแต่นั้นมา ดิฉันก็ใกล้ชิดกับวิญญาณที่ทุกข์ทรมานเหล่านี้มากขึ้น (ไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา #20)
วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564
วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564
พระสันตปาปาเสด็จเยือนซโลวาเกีย
พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยี่ยมประเทศซโลวาเกียในวันที่ 13 – 15 กันยายน 2021 สภาพระสังฆราชแห่งซโลวาเกียได้ประกาศว่าประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมในพิธีต่างๆที่พระสันตปาปาจะทรงเป็นประธาน
มีประชาชนชาวซโลวาเกียมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และจำนวนของคนที่บอกว่าไม่ต้องการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คุณพ่อมาร์ติน ครามาร่า โฆษกของสภาพระสังฆราชกล่าวว่า “เรารู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้น” การตัดสินใจประกาศของสภาพระสังฆราชในเรื่องนี้ทำโดยมีการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขแห่งซโลวาเกีย
วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2564
Que Viva Cristo Rey!
นี่เป็นร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของบุญราศีโจเซ่ ลุยส์ ซานเชส เดล ริโอ(Blessed Jose Luis Sanchez del Rio) มรณะสักขีในระหว่างสงคราม Cristero War(สงครามคริสตกษัตริย์)ในเม็กซิโก ปี 1928ขณะที่ท่านมีอายุ 14 ปี หลังจากที่เสียชีวิตไป 84 ปี ร่างกายของท่านไม่มีร่องรอยของการเน่าเปื่อย ท่านเป็นผู้หนึ่งในบรรดาคริสตชนคาทอลิก 90,000 คนที่ถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อในสงครามนี้ ก่อนที่จะถูกทหารยิง,ท่านร้องตะโกนว่า "Que Viva Cristo Rey!" (พระคริสตกษัตริย์ จงทรงพระเจริญ)
วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2564
วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2564
นักบุญองค์อุปถัมภ์ของผู้ถูกปฏิเสธ
พระเจ้าทรงเลือกที่จะแบ่งปันพระองค์เองกับพวกเราทุกคน ทรงสถิตอยู่อย่างใกล้ชิดทั้งในความปิติยินดีและความยากลำบาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)