พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564

อัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่วัลเดิร์น


 
อัศจรรย์ศีลมหาสนิทที่วัลเดิร์น,เยอรมนี,ในปี1330 คุณพ่อไฮน์ริช อ็อตตา(Heinrich Otta) ซึ่งกำลังประกอบพิธีมิสซาอยู่ภายในโบสถ์เซนต์จอร์จ ท่านได้บังเอิญพลิกจอกกาลิกษ์เหล้าองุ่น,ทำให้ไวน์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเสกแล้วหกออกมา และในทันทีเหล้าองุ่นได้กลับกลายเป็นโลหิตมนุษย์อย่างแท้จริงซึ่งได้ก่อตัวขึ้นบนผ้ารองจอกกาลิกษ์เป็นพระรูปของพระคริสต์ที่ถูกตรึงกางเขน ล้อมรอบด้วยรูปศีรษะพระคริสต์ที่สวมมงกุฎหนามสิบเอ็ดรูป 
ศีรษะพระคริสต์ที่สวมมงกุฎหนามสิบเอ็ดรูปนี้ อาจหมายถึงอัครสาวกสิบเอ็ดองค์ที่ได้หนีไปหลบซ่อนตัวหลังจากที่พระเยซูทรงถูกจับกุม มีเพียงนักบุญยอห์น อัครสาวกเพียงคนเดียวที่อยู่แทบเชิงกางเขนพร้อมกับแม่พระ พระเยซูทรงแสดงให้รู้ว่าพระองค์ทรงเสียพระทัยและยอมทนทุกข์ทรมานเพื่ออัครสาวกสิบเอ็ดองค์นี้ด้วย อัครสาวกสิบเอ็ดองค์นี้อาจเป็นตัวแทนหมายถึงคริสตชนที่ยังมีความกลัวต่อภัยอันตรายจากโลกภายนอกและไม่กล้าเผชิญหน้ากับศัตรูของพระศาสนจักรซึ่งเป็นพระกายลึกลับของพระคริสต์

วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2564

วาระสุดท้ายของนักบุญ


“ช่างเป็นสถานที่ที่ดียิ่งนักสำหรับผู้ป่วยในการเตรียมตัวเพื่อรับความตาย”
>>>ดูเพิ่มเติม

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2564

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2564

อัศจรรย์จากบราเดอร์อังเดร


แพทย์หลายคนซึ่งเกลียดชังศาสนาได้ใส่ร้ายชายร่างเล็กที่พวกเขามองว่าเป็น “ผู้รักษาจอมปลอม”
>>>ดูเพิ่มเติม

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พระสันตะปาปาที่ครองราชย์นานที่สุด 10 พระองค์



วันนี้เราระลึกถึงนักบุญพระสันตะปาปาเลโอ(St. Pope Leo the Great) คุณรู้หรือไม่ว่าพระองค์อยู่ในอันดับที่ 10 ในรายการอย่างเป็นทางการของพระสันตะปาปาที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์? พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งสันตะปาปานานกว่า 21 ปี   
รัชสมัยของพระสันตะปาปาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7.5 ปี ค่าทศนิยมที่ปรากฏอยู่นั้นจะคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้นับปีอธิกสุรทิน E หมายถึงelection การเลือกตั้ง
1st Place: St. Peter—35 yrs. 
2nd Place: Pius IX—31.6 yrs. 
3rd Place: John Paul II—26.4 yrs. 
4th Place: Leo XIII 20—25.4 yrs. 
5th Place: Pius VI—24.5 yrs. 
6th Place: Adrian I — 23.9 yrs. 
7th Place: Pius VII— 23.4 yrs. 
8th Place: Alexander III—22.0 yrs 
9th Place: St. Sylvester—21.9 yrs. 
10 th Place: St. Leo I (the Great) 21.1 years   

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คำพูดของนักบุญ



มนุษย์เอ๋ย จงอย่ากลัวกองทัพศัตรูที่ทรงพลังใดๆเลย เพราะอำนาจแห่งนรกกลัวพระนามและการปกป้องของพระนางมารีย์ยิ่งนัก 
- นักบุญโบนาเวนตูลา

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564