พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์

           เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว นางจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน” เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติด ๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ เขาทั้งสองคนยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
(ยอห์น 20:1-9)








วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2565

คำสอนเรื่องนรก


คนที่ไม่มีความสุขเหล่านี้หวังว่านรกจะไม่มีอยู่จริง และพยายามหลอกตัวเองว่านรกไม่มีอยู่จริง
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2565

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565

นักบุญฟิโลมีนา


เชื่อกันว่าเธอเป็นเจ้าหญิงชาวกรีกที่เป็นพรหมจารีมรณสักขีและเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 13 ปี
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2565

พระสงฆ์ที่ล้มเหลว


วันที่เศร้าที่สุดในชีวิตของผม เป็นความล้มเหลวในพันธกิจ และวันที่ไม่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในภารกิจ
>>>อ่านต่อ

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565

แม่พระทรงรับเกียรติยกขึ้้นสู่สวรรค์ที้งกายและวิญญาณ


การจากไปของวิญญาณของแม่พระไม่ได้เรียกว่าความตายเหมือนมนุษย์คนอื่นๆแต่เป็นการบรรทมหลับไป
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2565

รูปภาพอัศจรรย์ของแม่พระแห่งลาส ลาจาส


ปี 1754 ผู้หญิงชาวอินเดียนชื่อ Maria Mueses de Quinones ในโคลัมเบีย กำลังเดินทางเป็นระยะทาง 6 ไมล์ระหว่างหมู่บ้านของเธอกับหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งของ Ipiales เธอมีลูกสาวตัวน้อยอายุ 8 ขวบซึ่งเป็นใบ้หูหนวก ชื่อ โรซา ขี่หลังมาด้วย เมื่อมาถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกกันว่า ลาส ลาจาส (Las Lajas) แปลว่า แผ่นหิน มีพายัดแรงทำให้เธอและลูกสาวหาที่หลบภัยหลังก้อนหินใหญ่ ต่อมาลูกสาวของเธอ(ซึ่งเป็นใบ้)ก็ร้องขึ้นว่า “Mestiza (ก้อนหิน)กำลังเรียกหนู”  
แม่ของเธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าลูกสาวกำลังชี้ไปที่รูปภาพที่สวยงามบนก้อนหิน เป็นรูปของพระแม่มารีย์ที่อุ้มพระกุมารเยซู,ซึ่งมีแสงสว่างส่องออกมา สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญอย่างรวดเร็ว โดยมีรายงานของอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นมากมาย  
รูปภาพนี้ยังคงอยู่บนก้อนหินในปัจจุบันนี้ รูปภาพแสดงให้เห็นถึงพระแม่มารีย์ผู้เป็นราชินีแห่งสวรรค์ ทรงอุ้มพระกุมารเยซู โดยมีนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีและนักบุญโดมินิกกำลังคุกเข่าสวดภาวนาอยู่ทั้งสองข้าง นอกจากการปรากฏอย่างอัศจรรย์ตั้งแต่แรกแล้ว รูปภาพยังมีคุณลักษณะอันน่าอัศจรรย์ใจอื่นๆอีก  
“นักธรณีวิทยาจากเยอรมนีได้เจาะเอาตัวอย่างจากหลายจุดของก้อนหินในรูปภาพไปวิเคราะห์ทางธรณีวิทยา ผลปรากฏว่า เนื้อก้อนหินไม่มีสีใดๆ ไม่มีสีย้อม หรือเม็ดสีอื่นใดบนผิวของก้อนหิน สีที่เป็นอยู่เป็นสีของก้อนหินเอง ที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือ ก้อนหินนี้มีสีอย่างสมบูรณ์จนถึงความลึกลงไปหลายฟุต!” 
มีการสร้างอาสนวิหารหลายแห่งบนสถานที่นี้ อาสนวิหารล่าสุดสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้นที่ด้านหนึ่งของหุบเขาแล้วมีสะพานข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง  
📿🙏💙🙏💙🙏💙🙏💙🙏💙🙏💙🙏💙🙏💙🙏📿  

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565

การบรรทมหลับของพระนางมารีย์,พระมารดาของพระเจ้า


การจากไปของวิญญาณของแม่พระไม่ได้เรียกว่าความตายเหมือนมนุษย์คนอื่นๆแต่เป็นการบรรทมหลับไป
>>>อ่านต่อ