พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ

           เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
           ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
           ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
           สันติจงมีในสวรรค์
           และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
           ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))








วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2565

หลักฐานจากไฟชำระ


หตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 1815 ในสังฆมณฑลเมตซ์,ฝรั่งเศส นางมาร์เกอริต(Margherite Demmerlé) ได้รับการเยี่ยมเยียนโดยวิญญาณที่แนะนำตัวเองว่าเป็นแม่สามีของเธอ วิญญาณกล่าวว่า“ฉันเป็นแม่สามีของเธอที่เสียชีวิตในการคลอดบุตรเมื่อ 30 ปีที่แล้ว” และวิญญาณขอให้มาร์เกอริตไปแสวงบุญที่สักการสถานของแม่พระแห่งมาเรียนทัล(Shrine of Our Lady of Mariental)และขอพิธีมิสซาสองมิสซาที่นั่นอุทิศให้เธอ

ตามคำแนะนำของพระสงฆ์,มาร์เกอริตขอเครื่องหมายเพื่อยืนยันว่าเป็นวิญญาณจริง,วิญญาณจึงวางมือบนหนังสือจำลองแบบพระคริสต์ที่เธอกำลังอ่านอยู่และปรากฏภาพมือพิมพ์อยู่บนหน้ากระดาษที่กำลังเปิดอยู่ วิญญาณกลับมาเยี่ยมมาร์เกอริตอีกครั้งภายหลังการจาริกแสวงบุญและการประกอบพิธีมิสซาอุทิศให้เพื่อขอบคุณมาร์เกอริต และบอกมาร์เกอริตว่าเธอได้รับการปลดปล่อยจากไฟชำระแล้ว ทั้งหมดนี้ถูกบันทึกโดยพระสงฆ์ประจำโบสถ์ในเขตที่อยู่อาศัยของเธอ

หนังสือจำลองแบบพระคริสต์เล่มนั้นเวลานี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ไฟชำระที่กรุงโรม,ในโบสถ์ตามรูปข้างล่างนี้

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ถ้ำคริสต์มาสจำลองที่วาติกัน




          ถ้ำจำลองการประสูติของพระเยซูในวันพระคริสตสมภพถูกสร้างขึ้นที่วาติกัน โดยใช้ไม้จากทางตอนเหนือของอิตาลีนำมาแกะสลักด้วยมือเป็นรูปต่างๆ

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ทนทุกข์เพื่อผู้อื่น


ผู้หญิงคนหนึ่งไปหาคุณพ่อปีโอและถามท่านว่า: คุณพ่อคะ ช่วยบอกหน่อยว่าทำไมลูกจึงเจ็บป่วยหนักเช่นนี้? ลูกเจ็บป่วยมานาน 30 ปีแล้ว จริงอยู่ที่ลูกยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ลูกต้องทนต่อความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
 
คุณพ่อปีโอตอบว่า: นั่นเป็นความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าได้เลือกให้ลูกทนทุกข์!

ลูกมีพี่น้องสองคนที่ดำเนินชีวิตที่แย่มาก และญาติคนอื่นๆของลูกก็ไม่ได้ประพฤติตนดีนัก เพื่อความรอดของจิตวิญญาณพวกเขา,ลูกจะต้องทนทุกข์อีกสองปี หลังจากนั้นลูกจะหาย จากนั้นลูกจะช่วยวิญญาณคนเหล่านั้นทั้งหมด ความทุกข์ทุกอย่างเป็นความโปรดปราน แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจในลักษณะนั้นก็ตาม

นำมาจาก Refugium Peccatorum

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ทำไมพระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้มีความชั่วเกิดขึ้น?


ความชั่วร้ายไม่ได้มาจากพระเจ้า,แต่พระองค์ทรงสร้างโลกที่มีเสรีภาพซึ่งทำให้ความชั่วที่มาจากความบาปเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ซิสเตอร์ลูซีอา,อามีเลีย,และไฟชำระ


สำหรับฉันแล้ว,ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำให้เราบริสุทธิ์คือความรัก ซึ่งเป็นไฟแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2565

สิ่งที่พระเจ้าขอจากเรา


พระเจ้าไม่ได้ขออะไรจากเรามากมายนัก พระองค์ขอให้เราคิดถึงพระองค์บ้างเท่านั้น ให้เราเคารพเทิดทูนพระองค์สักหน่อย ให้เราวอนขอพระหรรษทานจากพระองค์ในบางครั้ง ถวายความทุกข์ของเราแด่พระองค์ และในบางครั้ง,ขอบคุณสำหรับพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้,ทั้งในอดีตและปัจจุบัน,ในเวลาที่เรายากลำบาก เพื่อปลอบพระทัยพระองค์บ่อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ 
  
ขอให้เรายกจิตใจถึงพระองค์บ้างในระหว่างทานอาหารหรืออยู่ที่ทำงาน การระลึกถึงพระองค์แม้เพียงเล็กน้อยก็เป็นที่พอพระทัยพระองค์เป็นที่สุดแล้ว

ไม่จำเป็นที่เราต้องร้องไห้เสียงดัง พระองค์อยู่ใกล้เรามากกว่าที่เราคิด