เรื่องราวต่อไปนี้เล่าโดยนักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ตในหนังสือ “ความลับแห่งสายประคำ”
อัลฟอนซัส กษัตริย์แห่งเลออนและกาลิเซีย(Leon and Galicia) ทรงสวมสายประคำขนาดใหญ่ไว้ที่เข็มขัดของพระองค์ตลอดเวลาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นสวดสายประคำและถวายเกียรติแด่พระมารดา อย่างไรก็ตาม, ตัวพระองค์เองไม่ได้สวดสายประคำเลย
วันหนึ่ง,กษัตริย์ทรงประชวรหนักมาก หลายคนคิดว่าพระองค์คงอยู่ได้ไม่นาน ท่ามกลางความเจ็บป่วยสาหัสนี้ กษัตริย์ทรงมีนิมิต ในนิมิตนั้น,พระองค์เห็นว่าตนเองกำลังถูกพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพพิพากษา การพิพากษาครั้งสุดท้ายของพระองค์? พระองค์จะต้องถูกโยนลงนรกชั่วนิรันดร์ ทันใดนั้น,ในนิมิตนั้น,พระมารดาก็ทรงเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือกษัตริย์
พระมารดาทรงเรียกให้นำตาชั่งคู่หนึ่งมา และวางบาปของกษัตริย์ไว้ที่ด้านหนึ่งของตาชั่ง บาปนั้นหนักมาก และทำให้ตาชั่งด้านนั้นลดต่ำลง อีกด้านหนึ่งของตาชั่ง,แม่พระทรงวางสายประคำที่พระองค์ทรงสวมไว้เสมอ,ร่วมกับสายประคำทั้งหมดที่มีผู้สวดอันเนื่องมาจากแบบอย่างของพระองค์
ปรากฏว่าสายประคำมีน้ำหนักมากกว่าบาปของกษัตริย์มาก แม่พระจึงตรัสว่า “เพื่อเป็นรางวัลสำหรับเกียรติเล็กๆน้อยๆที่ลูกมอบให้แก่แม่ในการสวมสายประคำ แม่จึงได้รับพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่จากพระบุตรของแม่ ชีวิตของลูกจะรอดไปอีกสองสามปี ขอให้ลูกใช้ชีวิตอย่างฉลาดและหมั่นทำพลีกรรมชดเชยใช้โทษบาป'
เมื่อกษัตริย์ทรงฟื้นคืนสติจากนิมิต พระองค์ก็ตรัสออกมาว่า “สาธุการแด่สายประคำของพระนางมารีย์พรหมจารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ซึ่งทำให้เราได้รับการช่วยให้พ้นจากการสาปแช่งชั่วนิรันดร์!”
กษัตริย์ทรงรักษาสุขภาพของพระองค์ให้ดีขึ้น จากนั้นทรงสวดสายประคำทุกวันและทรงสวดภาวนาตลอดชีวิตที่เหลือของพระองค์
....................
แม่พระแห่งสายประคำ,โปรดภาวนาเพื่อลูกทั้งหลายด้วยเทอญ อาแมน
#Catholic 4 Life