พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2567

มือของคุณว่างเปล่าอยู่หรือไม่?


การประจักษ์ครั้งสุดท้ายที่การาบังดัล วันที่ 13 พฤศจิกายน 1965 เป็นวันที่คอนชิตามีทั้งความสุขและความเศร้าปะปนกัน พระแม่มารีย์ทรงประจักษ์มาพร้อมกับพระกุมาร แต่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่การาบังดัล 
ดังที่พระนางมารีย์ทรงระบุไว้แล้วว่า นี่จะเป็นการประจักษ์พิเศษสำหรับการจูบศาสนภัณฑ์ และคอนชิตาก็มีศาสนภัณฑ์หลายอย่างอยู่กับเธอด้วย หลังจากจูบสิ่งเหล่านั้น, พระแม่มารีย์ตรัสว่า: 'ด้วยการจูบที่แม่ได้มอบให้กับสิ่งของเหล่านี้ องค์พระบุตรของแม่ก็ประทานพระพร,จงแจกจ่ายให้กับผู้อื่น 
พูดกับแม่สิ, คอนชิต้า, พูดกับแม่เรื่องเกี่ยวกับบรรดาลูกๆของแม่ แม่ปกป้องพวกเขาทั้งหมดไว้ใต้เสื้อคลุมของแม่ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ลูกจะเห็นแม่ที่นี่ แต่แม่จะอยู่กับลูกและบรรดาลูกๆของแม่ตลอดไป 
คอนชิต้า,ทำไมลูกไม่ไปเยี่ยมองค์พระบุตรของแม่ในตู้ศีลล่ะ? พระองค์ทรงรอคอยลูกทั้งกลางวันและกลางคืน” คอนชิตาทูลพระแม่มารีย์ว่า “ลูกมีความสุขมากที่ได้พบท่านทั้งสอง ทำไมไม่พาลูกไปสวรรค์ด้วยเล่า?” 
แม่พระตรัสตอบว่า "จำสิ่งที่แม่บอกลูกในวันฉลองนักบุญองค์อุปถัมภ์ของลูกได้ไหม เมื่อลูกไปอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า มือของลูกจะต้องเต็มไปด้วยการทำดีเพื่อพี่น้องของลูกและเพื่อพระสิริมงคลของพระองค์ ในเวลานี้, มือของลูกยังว่างเปล่า"
#Catholic 4 Life 

วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567

แม่พระทรงช่วยพระสงฆ์พ้นจากโทษของบาป


เมื่อนักบุญฟรังซิส แห่งบอร์เจียอยู่ในกรุงโรม มีพระสงฆ์คนหนึ่งมาหาเพื่อพูดคุยกับท่าน แต่ท่านนักบุญมีธุระมากจึงส่งคุณพ่อ Acosta ไปพบกับพระสงฆ์ท่านนั้นแทน พระสงฆ์พูดกับคุณพ่อ Acosta ว่า “คุณพ่อ,ผมเป็นพระสงฆ์และนักเทศน์ แต่ผมดำเนินชีวิตอยู่ในบาป และไม่วางใจในพระเมตตาของพระเจ้า วันหนึ่งหลังจากเทศน์เกี่ยวกับผู้มีจิตใจดื้อรั้น,ผู้ซึ่งภายหลังสิ้นหวังในการขออภัยโทษ, มีคนหนึ่งมาหาผมเพื่อสารภาพบาปของเขา และเขาได้สารภาพบาปทั้งหมดของเขาต่อผม ในาตอนท้าย,เขาบอกผมว่าเขาหมดหวังจากพระเมตตาของพระเจ้าแล้ว เพื่อทำหน้าที่ของผม,ผมบอกเขาว่าเขาต้องเปลี่ยนชีวิต และวางใจในพระเจ้า แล้วผู้สำนึกผิดคนนั้นก็ลุกขึ้นยืนกล่าวติเตียนผมว่า “ส่วนท่านที่กล่าวแก่ผู้อื่นอย่างนี้ ทำไมท่านไม่แก้ไขตัวท่านเอง และเหตุใดท่านจึงไม่ไว้วางใจ? รู้ไหมเขาพูดกับผมว่า ข้าพเจ้าคืออารักขเทวดาที่มาช่วยท่าน, จงแก้ไขความประพฤติของท่านเสียและท่านจะได้รับการอภัยโทษ เมื่อกล่าวดังนี้แล้วเขาก็หายตัวไป ผมได้เลิกทำบาปเป็นเวลาหลายวัน แต่เมื่อถูกล่อลวงมากเข้า,ผมก็กลับไปทำบาปอีกครั้ง ในอีกวันหนึ่ง,ขณะที่ผมกำลังประกอบพิธีมิสซา,พระเยซูคริสต์ตรัสกับผมจากศีลมหาสนิทว่า: ทำไมท่านถึงทำไม่ดีต่อเราเช่นนี้ ในเมื่อเราปฏิบัติต่อท่านอย่างดี? หลังจากนั้นผมก็ตั้งใจที่จะแก้ไขตัวเอง แต่เมื่อถูกล่อลวงครั้งต่อไปผมก็ตกในบาปอีก เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา,มีหนุ่มคนหนึ่งมาหาผมที่ห้องพัก และดึงจอกกาลิกษ์ออกมาจากใต้เสื้อคลุมของเขา และมีศีลมหาสนิทอยู่ในจอกศักดิ์สิทธิ์ เขาพูดว่า: ท่านรู้จักพระเจ้าองค์นี้ที่ฉันถืออยู่ในมือของฉันหรือไม่? ท่านจำได้ไหมว่าพระองค์ทรงโปรดปรานท่านมากมายเพียงใด? บัดนี้จงดูการลงโทษแห่งความอกตัญญูของท่านเถิด เมื่อพูดเช่นนี้,เขาก็ชักดาบออกมาจะฆ่าผม ผมร้องไห้พูดว่า: โดยอาศัยความรักของพระนางมารีย์,โปรดอย่าฆ่าผมเลย ผมจะแก้ไขตัวเองอย่างแน่นอน แล้วเขาก็พูดว่า: นี่เป็นสิ่งเดียวที่ท่านสามารถพูดได้เพื่อช่วยตัวเอง: จงใช้พระหรรษทานนี้ให้เกิดประโยชน์ เพราะนี่คือพระเมตตาครั้งสุดท้ายสำหรับท่าน เมื่อเขาพูดจบ,เขาก็ทิ้งผมไว้ตามลำพัง ผมจึงได้มาที่นี่ทันที ผมวิงวอนขอให้ท่านได้โปรดรับผมไว้ในหมู่พวกท่านด้วยเถิด” คุณพ่อ Acosta ปลอบใจเขา, และพระสงฆ์ท่านนั้น,ได้ทำตามคำแนะนำของนักบุญฟรังซิสโดยได้เข้าสู่คณะนักบวชที่เคร่งครัดคณะหนึ่ง เขาได้ยืนหยัดในความศักดิ์สิทธิ์จวบจนสิ้นชีวิต
#Catholic 4 Life 

วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2567

คำแนะนำจากคุณพ่อบอสโก


“จงฟังให้ดี มีสองสิ่งที่ปีศาจกลัวมาก นั่นคือ: ศีลมหาสนิทและการไปเฝ้าศีลมหาสนิทบ่อยๆ ลูกต้องการพระหรรษทานมากไหม? ไปเฝ้าพระองค์บ่อยๆเถิด ลูกต้องการให้พระองค์ประทานพระหรรษทานเพียงไม่กี่อย่างหรือ?ไปหาพระองค์แต่น้อยครั้ง ลูกต้องการให้ปีศาจโจมตีลูกหรือ?ไม่ต้องไปหาพระเยซู  ลูกต้องการให้ปีศาจหนีไปจากลูกหรือ?ไปหาพระเยซูบ่อยๆ ลูกต้องการเอาชนะปีศาจหรือ? จงลี้ภัยแทบพระบาทพระเยซู ลูกต้องการให้ปีศาจชนะลูกหรือ? เลิกไปเยี่ยมพระเยซู การไปเยี่ยมพระเยซูในศีลมหาสนิทเป็นสิ่งสำคัญ...หากลูกต้องการเอาชนะมารร้าย จงไปเยี่ยมพระเยซูบ่อยๆ หากลูกทำเช่นนั้นมารจะไม่มีวันชนะลูก”
~ นักบุญยอห์น บอสโก: 

วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567

สุขสันต์วันปีใหม่ 2024



ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่านและพิทักษ์รักษาท่าน 
 ขอพระเจ้าทรงสำแดงพระพักตร์แจ่มใสต่อท่านและโปรดปรานท่าน 
 ขอพระเจ้าทรงผินพระพักตร์มายังท่านและประทานสันติแก่ท่านด้วยเทอญ

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ปรีชาญาณที่แท้จริง


ขอให้เราเชื่อมั่นเถิดว่า ผู้ที่มีปัญญาอย่างแท้จริงคือผู้ที่รู้วิธีที่จะได้รับพระหรรษทานอันศักดิ์สิทธิ์และได้รับอาณาจักรแห่งสวรรค์ ขอให้เราวิงวอนพระเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อให้ทรงประทานศาสตร์แห่งการเป็นนักบุญแก่เรา ซึ่งพระองค์จะทรงประทานแก่ทุกคนที่วอนขอจากพระองค์ โอ้! ช่างเป็นศาสตร์อันล้ำค่าจริงๆที่จะรู้วิธีรักพระเจ้า,และช่วยวิญญาณของเราให้รอด! 
ถ้าเรารู้ทุกสิ่ง,แต่ไม่รู้วิธีช่วยวิญญาณของเราให้รอด ความรู้ของเราก็ไร้ประโยชน์ และเราจะเป็นทุกข์ตลอดกาล แต่ในทางกลับกัน,แม้ว่าเราจะไม่รู้ทุกสิ่ง, แต่ถ้าเรารู้จักรักพระเจ้า,เรากลับจะได้รับความสุขชั่วนิรันดร “บุคคลนั้นย่อมเป็นสุข” นักบุญออกัสตินกล่าว “คือผู้ที่รู้จักพระองค์แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องอื่นก็ตาม” วันหนึ่ง บราเดอร์กิลส์(Brother Giles)พูดกับนักบุญโบนาเวนเจอร์ว่า ท่านช่างมีความสุขจริง,คุณพ่อโบนาเวนเจอร์ผู้รอบรู้มากมาย, ส่วนข้าพเจ้าเป็นเพียงคนยากจน, โง่เขลา, ไม่รู้อะไรเลย ท่านสามารถเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่าข้าพเจ้า “ฟังนะ” นักบุญโบนาเวนเจอร์ตอบ “ถ้าหญิงชราผู้โง่เขลารักพระเจ้ามากกว่าข้าพเจ้า เธอก็จะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าข้าพเจ้า” เมื่อได้ยินดังนั้น,บราเดอร์กิลส์ก็อุทานขึ้นว่า: โอ หญิงชราผู้น่าสงสาร! จงฟัง ฟังข้าพเจ้า: ถ้าเธอรักพระเจ้า เธอสามารถที่จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าคุณพ่อโบนาเวนเจอร์เสียอีก"
#Catholic 4 Life 

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2566

การบังเกิดสองครั้ง


พระคริสต์ทรงบังเกิดสองครั้ง ครั้งแรกทรงบังเกิดมาในโลกที่เบทเลเฮม และครั้งที่สองทรงบังเกิดในจิตวิญญาณของเราแต่ละคน 
มนุษย์คิดถึงการบังเกิดครั้งแรกมากกว่าครั้งที่สอง และเฉลิมฉลองทุกปี แต่เบทเลเฮมแห่งจิตวิญญาณนั้นก็มีความสำคัญเท่าเทียมกันที่สมควรจะต้องระลึกถึง 
การบังเกิดครั้งที่สองนี้แหละที่นักบุญเปาโลยืนยันถึงเมื่อท่านเขียนจดหมาย,ขณะที่ถูกขัง.ไปยังคริสตชนในเอเฟซัส ท่านได้วอนขอให้พระคริสต์สถิตย์ในหัวใจของพวกเขาโดยอาศัยความเชื่อและทำให้จิตใจของพวกเขาหยั่งรากลึกในความเชื่อ. 
นี่คือเบทเลเฮมที่สอง,หรือเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวของแต่ละคนกับพระคริสตเจ้า” 
~Ven. Fulton J. Sheen 
 บุญราศี ฟุลตัน เจ. ชีน 

วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2566