พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

มาลาของพระสังฆราชคาทอลิก

มาลาหรือหมวกของพระสังฆราชคาทอลิก มีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ เราเรียกมาลานี้ว่า Mitre เป็นภาษากรีก แปลว่า Crown มงกุฎ ดังนั้นมาลานี้คือมงกุฎของพระสังฆราช มาลามงกุฏมียอดแหลมสองยอดชี้ขึ้นสู่สวรรค์ ยอดแหลมสองยอดนี้มีความหมาย ยอดแหลมอันหนึ่งเป็นสัญญลักษณ์หมายถึงพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้า ส่วนยอดแหลมอีกอันหนึ่งหมายถึงพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกัน แต่เป็นพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นมนุษย์ ยอดแหลมอยู่ในมาลาเดียวกัน นั่นคือพระเยซูเจ้าพระองค์เดียวมีสองธรรมชาติ คือเป็นพระเจ้าและมนุษย์ รูปทรงของมาลาดูเหมือนภูเขา(บางคนบอกว่าดูเหมือนปลา อาจเป็นปลาฉลาม) ซึ่งหมายถึงพระศาสนจักร เพราะพระเยซูเจ้าทรงตั้งพระศาสนจักรบนศิลา คือนักบุญเปโตร รูปทรงที่เหมือนภูเขาทำให้เรานึกถึงศิลานั่นเอง 
นอกจากนี้ยังมีผ้าแถบสองอันต่อมาจากมาลานี้และห้อยอยู่ทางด้านหลัง  ผ้าแถบทั้งสองก็มีความหมายเช่นเดียวกัน ผ้าแถบอันหนึ่งหมายถึง พระคัมภีร์พระธรรมเก่า และผ้าแถบอีกอันหนึ่งหมายถึงพระคัมภีร์พระธรรมใหม่ 
มาลามงกุฎของพระสังฆราช จึงเป็นสัญญลักษณ์หมายถึงอำนาจปกครองของพระสังฆราชที่ได้รับมาจากพระเยซูเจ้าและพระศาสนจักร เพื่อสั่งสอนพระวาจาของพระเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระธรรมเก่าและพระธรรมใหม่ 

วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

มองแต่ไม่เห็น


วันหนึ่ง สุภาพบุรุษคนหนึ่งเดินทางมาจาก Foggia ด้วยรถยนต์ พร้อมด้วยสุภาพสตรีบางคนจากคณะละครของเขา พฤติกรรมโดยทั่วไปของพวกเขาทำให้คนในหมู่บ้านประหลาดใจ เมื่อคนเหล่านี้ลงจากรถแล้ว ชายคนนั้นก็ถามพวกเขาว่า 
“คุณพ่อปิโออยู่ที่ไหน? ผมอยากให้ท่านทำให้ผมกลับใจ ผมอยากจะไปสารภาพบาป!” และปล่อยให้เพื่อนสาวของเขาหัวเราะคิกคักและสนุกสนานไปกับการแสดงทั้งหมดนี้ ชายคนนั้นก็เข้าไปในโบสถ์ 
ลูกฝ่ายวิญญาณหลายคนของคุณพ่อปีโอซึ่งบังเอิญอยู่ที่นั่นและเป็นผู้ที่ชายคนนั้นหันไปถามได้บอกชายผู้นั้นว่าคุณพ่อปีโอจะต้องอยู่ในห้องซาคริสตี(ห้องฟังสารภาพบาป), ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาเพิ่งออกมา ชายผู้นั้นจึงเดินเข้าไปในห้องซาคริสตีแต่ก็ไม่พบกับคุณพ่อปีโอ เขาเดินตามหาทุกที่ ในอาราม, ในห้องพัก, ในสวน, ในห้องสันทนาการ แต่ก็หาคุณพ่อปีโอไม่พบเลย 
“ในที่สุด ด้วยความเบื่อหน่ายกับการรอคอย เขาจึงพูดว่า: 'เอาล่ะ ผมคิดว่าผมจะกลับละ ผมอยากให้คุณพ่อทำให้ผมกลับใจ!' แต่เขาพูดเช่นนี้พร้อมหัวเราะประชด แล้วก็เดินกลับขึ้นรถ กลับเข้าไปในหมู่บ้าน เขาไปได้ไม่ถึงสามร้อยหลา, ผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็พบกับคุณพ่อปิโอ 
 “'คุณพ่อ, คุณพ่ออยู่ที่ไหน, พวกเราตามหาคุณพ่อไปทั่วแล้ว!' คุณพ่อปีโอตอบ “พ่ออยู่ที่นี่ พ่อเดินผ่านหน้าเธอสามหรือสี่ครั้ง แต่เธอและชายคนนั้นไม่สังเกตเห็นพ่อเลย” " 
ที่มา: Padre Pio The Stigmatist 
~Saint Teresa of Calcutta.

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ความยินดีในเวลาใกล้ตาย


ในเวลาใกล้เสียชีวิต,นักบุญฟรังซิส อัสซีซีเริ่มต้นร้องเพลง และเชิญบรรดาบราเดอร์ร่วมร้องเพลงด้วย บราเดอร์เอลีอัสพูดว่า “คุณพ่อฟรังซิส, ในเวลาแห่งความตาย, เราควรร้องไห้มากกว่าร้องเพลง” “แต่” นักบุญตอบ “ผมจะงดร้องเพลงไม่ได้ เพราะผมเห็นว่าผมกำลังจะไปร่วมความชื่นชมยินดีกับพระเจ้าของผม” 
Source: Preparation For Death 

วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วันฉลองคู่สมรสศักดิ์สิทธิ์


“นักบุญโยเซฟเป็นดังภาพสะท้อนที่มีชีวิตของพระนางพรหมจารีย์มารีย์ ทั้งสองท่านดูคล้ายกันเหมือนไข่มุกสองเม็ด”-นักบุญ เบอร์นาร์ดิโน 
“คุณธรรมแห่งพรหมจรรย์ของนักบุญโยเซฟจะต้องสูงส่งยิ่งสักเพียงใด ท่านถูกกำหนดโดยพระบิดานิรันดร์ให้เป็นมิตรสหายในพรหมจารีย์ของพระนางมารีย์! ทั้งสองท่านได้ปฏิญาณตนว่าจะรักษาความบริสุทธิ์ไว้ตลอดชีวิต และเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะเชื่อมโยงทั้งสองท่านไว้ในศีลสมรสอันศักดิ์สิทธิ์”- นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ 
วันที่ 23 มกราคม เป็นวันฉลองคู่สมรสศักดิ์สิทธิ์

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

คำแนะนำของคุณแม่เทเรซา


“จงอยู่ใกล้ชิดกับคนที่คุณรักเสมอ, แต่อยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมเพื่อไม่ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก, มีหูที่เอาใจใส่เพื่อคอยช่วยเหลือ, พร้อมด้วยความหวานและความอ่อนโยนมากๆที่จะทำให้พวกเขารู้สึกถึงความรัก กำจัดความอิจฉาไปเสีย: เพราะมันเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี แล้วนั้นเตรียมตัวคุณให้พร้อมด้วยความจริงใจทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้เพื่อปลูกและเติบโตในพวกเขาซึ่งดอกไม้แห่งความไว้วางใจ รู้จักที่จะอยู่ห่างๆ, ห่างไกลจากความหน้าซื่อใจคดเพราะมันเป็นเหมือนโรคร้าย 
 - คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา