พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567

ศีลมหาสนิทเป็นของขวัญจากพระเยซูเจ้า

Fr.Jewel Aytona, CPM 
ความศรัทธาแท้จริงต่อพระนางมารีย์ จะนำเราไปสู่ศีลมหาสนิทเสมอ สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะแสดงต่อคุณก็คือ ถ้าคุณต้องการให้มีอัศจรรย์ในชีวิตของคุณ,ก็ให้ถวายความตั้งใจนั้นต่อศีลมหาสนิท ถ้าคุณรู้จักบางคนที่สูญเสียความเชื่อ อาจเป็นคนในครอบครัวของคุณ ,เพื่อนของคุณ ที่ไม่ไปโบสถ์อีกต่อไป อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อพวกเขาเพื่อทำให้พวกเขากลับมาสู่เส้นทางสู่สวรรค์ ให้คุณสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิทในเวลาเคารพศีลมหาสนิท เพื่อขอให้พวกเขากลับใจจากบาป ถ้าคุณอยากให้คู่สมรสของคุณและบรรดาลูกๆของคุณให้กลายเป็นนักบุญ วิธีใดที่ดีที่สุดที่จะช่วยพวกเขาตามความตั้งใจนี้ ให้คุณอุทิศชีวิตของคุณแด่ศีลมหาสนิท เพราะศีลมหาสนิทเป็นของขวัญที่ประเสริฐที่สุด ,ยิ่งใหญ่ที่สุด, ที่พระเจ้าทรงประทานแก่เราในฐานะที่เราเป็นคาทอลิก เพราะศีลมหาสนิทคือพระเยซูเจ้าเอง คุณแม่เทเราซาเคยพูดว่า ไม่มีช่วงเวลาใดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกนี้,ที่คุณจะรู้สึกถึงความรักยิ่งกว่า,ไม่มีช่วงเวลาใดบนโลกนี้ที่คุณจะรู้สึกได้รับการต้อนรับยิ่งกว่า,มากไปกว่าช่วงเวลาที่คุณอยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท 

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567

Host , Communion , Eucharist

พระเยซูตรัสว่า ถ้าท่านไม่กินเนื้อของเราและดื่มโลหิตของเรา ท่านจะไม่มีชีวิตในตัวของท่านเลย ศีลมหาสนิทคืออะไร? มีคำที่ใช้เรียกในภาษาอังกฤษหลายแบบได้แก่ Host , Communion , Eucharist ทำไมจึงเรียกเช่นนี้? คำว่า Host มาจากภาษาอิตาลีว่า Hostia หมายถึง victim เหยื่อ,ผู้รับเคราะห์ ดังเช่นในเพลง O salutaris hostia (โอศีลบูชามหาสนิท) แปลได้ว่า โอ เหยื่อผู้ช่วยให้รอด พระเยซูทรงมอบชีวิตของพระองค์เองเพื่อพวกเรา ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า ที่ทำให้เราได้รับชีวิต เพราะพระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา Communion with us เช่นเดียวกับการแต่งงานที่ทำให้คนสองคนเป็นเนื้อเดียวกันเป็นคนเดียวกัน พระเยซูก็ทรงตัดสินพระทัยที่จะเป็นเนื้อเดียวกันกับเรา พระองค์ประสงค์ที่จะสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับเราอย่างสมบูรณ์ คำว่า Eucharist เป็นคำที่มาจากภาษากรีก หมายถึง ขอบคุณ และเราจะต้องขอบคุณพระเยซูมากสักเพียงไร เพราะเหยื่อผู้ช่วยให้รอดพระองค์นี้,ปรารถนาที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับเรา ให้เรามอบทุกสิ่งแก่พระองค์ 

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567

ปีศาจล่อลวงเราอย่างไร

โดย-Fr.Jewel Aytona, CPM 
มีผู้หนึ่งที่ไม่ต้องการให้เราไปสวรรค์,นั่นคือซาตาน และเช่นเดียวกับกลอุบายที่มันใช้กับอาดัมและเอวาในปฐมกาล พ่อรับรองได้ว่าซาตานก็จะล่อลวงคุณด้วย และพ่อขอบอกบางอย่างเกี่ยวกับปีศาจ มันจะให้คำสัญญามากเกินกว่าที่มันสามารถให้ได้เสมอ มันจะล่อลวงเราให้ทำบางอย่างที่ตรงข้ามกับพระบัญญัติของพระเจ้า และถ้าเราทำตามมัน,มันก็จะกล่าวหาเรา มันจะพูดว่า เจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นคาทอลิก และนี่หรือคือสิ่งที่เจ้าทำกับพระเจ้า นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าทำกับเพื่อนมนุษย์ของเจ้า มันล่อลวงเราให้เสียกำลังใจและเกิดความสิ้นหวังอย่างยิ่งยวด นี่คือวิธีการทำงานของมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันล่อลวงเรา สังเกตว่ามันล่อลวงเราในสิ่งที่ทำให้เรามีความพึงพอใจในประสาทสัมผัสของเรา มันสามารถอ่านจิตใจของเราได้ มันไม่ใช่พระเจ้า มันสามารถรู้สิ่งที่อยู่ภายนอก อย่างเช่น ถ้าเราติดใจในอาหารบางอย่างหรือคนบางคนเป็นพิเศษ ปีศาจก็จะขยายความอ่อนแอของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมันจะทำให้เรามั่นใจว่าบาปนี้เป็นสิ่งที่ดี มันดีสำหรับเรา ดังนั้น,ก็จะมีความดีในบาปเสมอ เพราะถ้าไม่มีสิ่งที่ดีหรือสิ่งน่าพึงพอใจ,เราก็คงจะไม่ทำสิ่งนั้น ดังนั้นถ้าไม่มีสิ่งน่าพึงพอใจสำหรับตาและประสาทสัมผัส สิ่งนั้นไม่ใช่การล่อลวงมากนัก 

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567

คุณพ่อ ปีโอ หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า


คุณพ่อ ปีโอ ช่วยวิงวอนเพื่อวิญญาณต่อหน้าพระบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า 
คุณพ่อปีโอไม่ใช่นักบุญธรรมดา พระเยซูเจ้าทรงอวยพรท่านด้วยพระพรพิเศษ บุคคลต่างๆได้ให้การเป็นพยานว่าคุณพ่อปีโอสามารถปรากฏตัวต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้าได้ และช่วยวิงวอนต่อพระเจ้าให้ทรงลดระยะเวลาการอยู่ในไฟชำระลง เหตุการณ์ต่อไปนี้คงทำให้เรางุนงง: 
ในวันที่พี่ชายของ Maria Pompilio เสียชีวิต, เธอขอให้คุณพ่อปีโอช่วยเหลือเพื่อที่พี่ชายของเธอจะได้มาหาเธอในความฝัน และพี่ชายของเธอก็มาในความฝันจริงๆและพูดกับเธอว่า: "คุณพ่อปีโอได้ช่วยพี่ในความทุกข์โศกเศร้าของพี่ ท่านอยู่จนกระทั่งองค์พระผู้พิพากษาจะตัดสินพี่ พี่ได้รับการพิพากษาให้อยู่ในไฟชำระถึง 11 ปี แต่เนื่องจากการวิงวอนขอร้องของคุณพ่อปีโอ, ความเจ็บปวดจึงลดลงเหลือเพียงหนึ่งปี ความลึกลับมากมายในชีวิตของคุณพ่อปิโอจะเป็นที่รับรู้ในอีกโลกหนึ่งเท่านั้น” 
เช้าวันรุ่งขึ้น, มาเรียไปพบกับคุณพ่อปีโอ จากระยะไกล,คุณพ่อปีโอพูดว่า: "ตอนนี้ลูกดีใจแล้วใช่ไหม?" 
“ใช่ค่ะ, ดูเหมือนว่าคุณพ่อจะอยู่ทุกที่” 
“พ่อจะรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่บนโลกนี้,ถ้าหากพ่อไม่สามารถขึ้นและลงได้? พ่อรู้ว่าพี่ชายของลูกได้บอกลูกว่าความลึกลับในชีวิตของพ่อจะรับรู้ได้เฉพาะในสวรรค์เท่านั้นเท่านั้น "

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567

แบกกางเขนพร้อมกับพระคริสตเจ้า


ผู้ที่โอบกอดกางเขนและทนแบกด้วยความอดทน,ทำให้กางเขนเบาขึ้น แท้จริง,น้ำหนักของกางเขนกลายเป็นสิ่งปลอบประโลมใจเขาด้วยซ้ำ เพราะพระเจ้าทรงประทานพระหรรษทานแก่ทุกคนที่แบกกางเขนด้วยน้ำใจดีของเขาเพื่อทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย 
 ผู้ที่ปฏิเสธกางเขนจะได้อะไรเล่า? เขายิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับกางเขนเท่านั้น 
- นักบุญอัลฟองโซ ลิกัวรี