พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2024 ผู้ที่เป็นใหญ่ในสวรรค์

           ยากอบและยอห์น บุตรของเศเบดี เข้ามาทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าทั้งสองปรารถนาให้พระองค์ทรงกระทำตามที่ข้าพเจ้าจะขอนี้” พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านปรารถนาให้เราทำสิ่งใด” ทั้งสองทูลตอบว่า “ขอโปรดให้ข้าพเจ้าคนหนึ่งนั่งข้างขวา อีกคนหนึ่งนั่งข้างซ้ายของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์เถิด” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่ากำลังขออะไร ท่านดื่มถ้วยซึ่งเราจะดื่มได้ไหม หรือรับการล้างที่เราจะรับได้หรือไม่” ทั้งสองทูลว่า “ได้ พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้วยที่เราจะดื่มนั้น ท่านจะได้ดื่ม และการล้างที่เราจะรับนั้น ท่านก็จะได้รับ แต่การที่จะนั่งข้างขวาหรือข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะให้ แต่สงวนไว้สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้”
           เมื่อได้ยินดังนั้น อัครสาวกอีกสิบคนรู้สึกโกรธยากอบและยอห์น พระเยซูเจ้าจึงทรงเรียกเขาทั้งหมดมาพบ ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่า คนต่างชาติที่คิดว่าตนเป็นหัวหน้าย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้เป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ท่านทั้งหลายไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์”
(มาระโก 10:35-45)








วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ความสับสนของพระธาตุในกอมโปสเตลา


พระธาตุของนักบุญยากอบองค์ใหญ่ อาจไม่ได้วางอยู่ใต้พระแท่นบูชาของอาสนวิหารกอมโปสเตลาอันยิ่งใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567

สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า


โนักบุญโทมัส อไควนัส นักปราชญ์ประจำพระศาสนจักรเป็นผู้เสนอให้จัดพิธีฉลองพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้าต่อพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 4 เพื่อเป็นการเน้นถึงศีลมหาสนิท เป็นการแสดงออกถึงความยินดีที่ศีลมหาสนิทเป็นพระกายและพระโลหิต, พระวิญญาณ และพระเทวภาพของพระเยซูเจ้า. หลังจากที่พระสันตะปาปายอมรับในปี 1264 ถึงความถูกต้องของอัศจรรย์ศีลสนิทแห่งโบลเซนา โดยอาศัยข้อมูลของนักบุญโทมัส, พระสันตะปาปาซึ่งขณะนั้นประทับอยู่ในเมืองออร์เวียโต ได้กำหนดให้วันฉลองพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้าเป็นวันสมโภชและขยายไปในพระศาสนจักรทั่วโลก 
 - - วิกิพีเดีย 

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

มงกุฏดอกกุหลาบ



คำว่าสายประคำหมายถึง "มงกุฎดอกกุหลาบ" กล่าวคือทุกครั้งที่ผู้คนสวดสายประคำอย่างศรัทธา พวกเขาจะสวมมงกุฎหนึ่งร้อยห้าสิบดอก ได้แก่ กุหลาบสีแดงสามดอกและดอกกุหลาบขาวสิบหกดอกบนพระเศียรของพระเยซูและพระนางมารีย์ ด้วยความที่เป็นดอกไม้แห่งสวรรค์,ดอกกุหลาบเหล่านี้จะไม่มีวันจางหายหรือสูญเสียความงามอันวิจิตรงดงามของมัน บราเดอร์อัลฟอนซุส โรดริเกซ(Brother Alphonsus Rodriguez) คณะเยสุอิตผู้มีชื่อเสียง, เคยสวดสายประคำด้วยศรัทธาแรงกล้าจนเห็นดอกกุหลาบสีแดงออกมาจากปากท่านในขณะที่สวดบทข้าแต่พระบิดา, และดอกกุหลาบสีขาวในขณะที่สวดบทวันทามารีย์ ดอกกุหลาบเป็นราชินีแห่งดอกไม้ ดังนั้นสายประคำจึงเป็นดอกกุหลาบแห่งความศรัทธาทั้งหมด และเป็นดอกกุหลาบที่สำคัญที่สุด 
ที่มา: ความลับแห่งสายประคำ 


วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

บิลจากโรงพยาบาล


ชายคนหนึ่งประสบภาวะหัวใจวายขณะช้อปปิ้งในร้านค้า 
ผู้จัดการร้านจึงโทรแจ้ง 911 เมื่อเห็นเขาล้มลงกับพื้น 
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวชายรายนี้ส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับการผ่าตัดบายพาสหัวใจแบบเปิดฉุกเฉิน 
เขาตื่นจากการผ่าตัดและพบว่าตัวเองอยู่ในความดูแลของแม่ชีที่โรงพยาบาลคาทอลิก 
แม่ชีนั่งอยู่ข้างเตียงโดยถือคลิปบอร์ดที่บรรจุแบบฟอร์มต่างๆพร้อมด้วยปากกา เธอถามเขาว่าเขาจะจ่ายค่ารักษาอย่างไร 
“คุณมีประกันสุขภาพหรือยัง” แม่ชีถาม. 
เขาตอบด้วยเสียงแหบแห้ง “ไม่มีประกันสุขภาพครับ” 
แม่ชีถามว่า “มีเงินในธนาคารไหม?” 
เขาตอบว่า "ไม่มีเงินในธนาคาร" 
คุณมีญาติที่สามารถช่วยคุณเรื่องการชำระเงินได้หรือไม่” แม่ชีถามอย่างหงุดหงิด 
เขาพูดว่า "ผมมีพี่สาวคนเดียว,เธอเป็นหญิงโสดและเธอเป็นแม่ชี" 
แม่ชีรู้สึกไม่ค่อยพอใจและพูดว่า "แม่ชีไม่ใช่หญิงโสด! แม่ชีแต่งงานกับพระเจ้า" 
คนไข้ตอบว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ดีแล้ว, ส่งบิลไปให้พี่เขยผมได้เลย”