พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

           ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ
           ลก 3:21-22 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
           ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
(ลูกา 3:15-16; 21-22)








วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์


แม้ว่าหลายคนจะคุ้นเคยกับวันฉลองพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูและพระรูปที่เกี่ยวข้อง แต่วันฉลองดวงหทัยนิรมลอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก ในปี 1638 นักบุญยอห์น ยูดส์(St. John Eudes)ตีพิมพ์หนังสือ Devotion to the Most Pure Heart และ Holy Name of Mary นักบุญยอห์นเป็นพระสงฆ์ในฝรั่งเศสที่ใช้ชีวิตสั่งสอนเกี่ยวกับความรักของพระเจ้าและสนับสนุนให้ผู้คนรักพระคริสต์และพระนางมารีย์ วันฉลองดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์มีการเฉลิมฉลองครั้งแรกในปี ค.ศ. 1648; อย่างไรก็ตาม, ไม่ได้รับความสนใจและติดตามมากนักจนกระทั่งเกือบสองศตวรรษต่อมา 
 ในปี ค.ศ. 1839 พระมารดาของเราปรากฏต่อนักบุญแคเธอรีน ลาบูเร และมอบรูปเหรียญอัศจรรย์แก่เธอ ซึ่งมีรูปพระหฤทัยของพระเยซูและพระนางมารีย์ในเหรียญ ที่ฟาติมาในปี 1917 พระนางมารีย์ทรงบอกกับลูซีอาว่าเธอจะต้องอยู่บนโลกเพื่อช่วยส่งเสริมความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของพระนาง และเด็กๆได้เห็นหัวใจที่ล้อมรอบด้วยหนามอยู่ในพระอุระของพระมารดา 
 ในปี 1942 ระหว่างการทำลายล้างของสงครามโลกครั้งที่ 2 พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ทรงประกอบพิธีถวายโลกแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์ และทรงกำหนดให้มีวันฉลองในวันที่ 22 สิงหาคมของทุกปี ในปี 1969 พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ทรงเลื่อนการเฉลิมฉลองดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์เป็นวันเสาร์,ทันทีหลังจากสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า และเลื่อนการฉลองพระนางมารีย์ราชินีแห่งสวรรค์จากวันที่ 31 พฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 22 สิงหาคม
ในปี 1984 พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ได้ทรงรื้อฟื้นการถวายโลกแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์ พระองค์ทรงทำซ้ำอีกครั้งในปี 2000 โดยถวายโลกไว้กับพระนางมารีย์สำหรับสหัสวรรษใหม่

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วางใจในแม่พระเสมอ


โอ พระแม่ของลูก, ลูกวางความทุกข์ทั้งสิ้นในหัวใจของลูกไว้ในดวงพระทัยของพระแม่ ในดวงพระทัยนี้เองที่ลูกได้รับความเข้มแข็งและความกล้าหาญ 
 - นักบุญ แบร์นาแด็ต ซูบีรุส 

วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2567

คุณพ่อปีโอกับวิญญาณในไฟชำระ


ให้เราสวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระ,และขอให้วิณณาณเหล่านั้นสวดภาวนาเพื่อเราด้วย
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2567

นักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต


เมื่อท่านเสียชีวิตในปี 1716 นักบุญหลุยส์มีอายุเพียง 43 ปี ท่านเป็นพระสงฆ์ได้เพียง 16 ปี การทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อนำวิญญาณมาหาพระเยซูผ่านทางพระนางมารีย์,โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการเทศน์สอนในโบสถ์อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ ทำให้เขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ราวกับว่าการทำงานเหล่านี้ยังทำให้เขาทนทุกข์ไม่เพียงพอ,หลุยส์ยังต้องทนรับการข่มเหงอย่างโหดร้ายจากพระสงฆ์และพวกแจนเซนเฮเรติก แม้กระทั่งถึงขั้นถูกพวกเขาทำร้ายร่างกายและวางยาพิษด้วย อย่างไรก็ตาม,นักรบผู้ไม่ย่อท้อของเรายังคงเดินหน้าต่อไปในสนามรบ โดยเทศน์สอนพระเยซูผ่านทางพระนางมารีย์อย่างต่อเนื่อง อันที่จริง,เมื่อผู้นำในพระศาสนจักรในฝรั่งเศสคิดว่าพวกเขาทำให้หลุยส์ยุติงานของเขาแล้ว,หลุยส์เดินทางเป็นระยะทางหลายพันไมล์ไปยังกรุงโรมและขอคำแนะนำจากพระสันตะปาปา พระสันตะปาปาไม่เพียงแต่บอกให้เขากลับไปฝรั่งเศสและเทศน์สอนต่อไป แต่ยังทรงมอบตำแหน่ง "มิชชันนารีเผยแพร่ศาสนา" ให้กับหลุยส์ด้วย ด้วยความนบนอบเชื่อฟังและอย่างร่าเริง,นักบุญของเรากลับไปยังฝรั่งเศสที่ซึ่งเขายังคงสั่งสอน, เขียน, และอดทนต่อความทุกข์ทรมานมากมายของเขาด้วยความรักต่อพระเยซู, พระนางมารีย์ และต่อวิญญาณของทุกคน  
ความทุกข์ทรมานและความกระตือรือร้นของนักบุญหลุยส์ได้จุดไฟในตัวคาร์โล วอยติยา (Karol Wojtyla) ในวัยหนุ่ม(พระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2) ไม่กี่ปีก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์,พระสันตะปาปาทรงสามารถบรรลุความฝันตลอดชีวิตและไปเยี่ยมหลุมศพของนักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต พระองค์ตรัสในโอกาสนั้นว่า "ข้าพเจ้าดีใจที่ได้เริ่มต้นการเดินทางแสวงบุญในฝรั่งเศสภายใต้หมายสำคัญของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่นี้ พวกท่านรู้ไหมว่าข้าพเจ้าเป็นหนี้บุญคุณนักบุญองค์นี้และความศรัทธาอย่างแท้จริงต่อพระแม่มารีย์เป็นอย่างมาก" 

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2567

วันที่ 7 มิถุนายน วันศุกร์ต้นเดือน


อย่าลืมพระองค์ผู้ทรงยอมรับทนทรมานและความตายเพื่อท่าน ท่านจะรักพระองค์ตราบเท่าที่ท่านยอมรับความทุกข์อย่างเงียบๆ,โดยเลือกพระองค์มากกว่าสิ่งอื่นใดและเลือกชีวิคนิรันดร  
 - - นักบุญมากาเร็ต มารีย์ อาลาก๊อก 
ร่วมพิธีมิสซาและรับศีลมหาสนิททุกวันศุกร์ต้นเดือนเก้าครั้งเพื่อถวายเกียรติแด่ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า และรับพระคุณตามพระสัญญาของพระเยซูเจ้า