พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

           ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ
           ลก 3:21-22 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
           ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
(ลูกา 3:15-16; 21-22)








วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2567

พระคัมภีร์พูดถึงนรกว่าอย่างไร?


นรกถูกสร้างขึ้นเพื่อลงโทษซาตานและปีศาจ (มัทธิว 25:41) “ไฟนิรันดรที่เตรียมไว้ให้ปีศาจและพรรคพวกของมัน” 

มีผู้ที่อยู่ในนรกมากกว่าอยู่ในสวรรค์ (มัทธิว 7:13-14) “ประตูและทางที่ไปสู่หายนะนั้นกว้างขวาง คนที่เข้าทางนี้มีจำนวนมาก” 

ถ้าชื่อของท่านไม่มีอยู่ในหนังสือแห่งชีวิต ท่านจะถูกโยนลงไปในบ่อไฟ (วิวรณ์ 20:15) “ผู้ใดไม่มีชื่อบันทึกอยู่ในหนังสือแห่งชีวิตก็ถูกโยนลงไปในทะเลไฟ” 

ผู้ที่อยู่ในนรกจะสามารถจดจำชีวิตในขณะที่อยู่บนโลกของเขาได้ ซึ่งทำให้เขาเสียใจที่ไม่ถวายชีวิตของตนเพื่อพระคริสต์ (ลูกา 16:22-28) อุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส เศรษฐีอยู่ในนรกและจำได้ว่าเขาไม่เคยทำสิ่งที่ดีให้ลาซารัสผู้ยากจนและเจ็บป่วย 

นรกเป็นนิรันดรและไม่สามารถเพิกถอนได้ (วิวรณ์ 14:11) “ควันจากการทรมานเขาจะพุ่งขึ้นตลอดนิรันดร” 

ผู้ที่อยู่ในนรกจะถูกทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไป จะไม่มีเวลาพักเลย (วิวรณ์ 14:11) “ผู้ที่ประทับตราชื่อของมันจะไม่พักผ่อนเลยทั้งกลางวันและกลางคืน”  

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ความเชื่อในพระเยซูคริสต์


ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความแน่ใจในสิ่งที่ยังมองไม่เห็น
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ไฟแห่งความเชื่อ


ไฟแห่งความเชื่อในพระเยซูเจ้าจะเปลี่ยนแปลงโลกและนำพระอาณาจักรของพระเจ้ามาสู่โลก
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567

สวรรค์เป็นอย่างไร


พระคัมภีร์บรรยายถึงสวรรค์

วว.21.21 ถนนทำด้วยทองบริสุทธิ์เหมือนกระจกใส “ลานเมืองเป็นทองคำบริสุทธิ์ สุกใสเหมือนแก้ว”

2 เปโตร 3.8 ไม่มีเวลาในสวรรค์ “สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนหนึ่งวัน”

ฟิลิปปี 3.21 เราจะได้รับร่างกายใหม่ในสวรรค์ “พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์”

วว. 22.5 ไม่มีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะพระเจ้าทรงเป็นแสงสว่างในสวรรค์ “จะไม่มีกลางคืนอีกต่อไป เขาเหล่านั้นจะไม่ต้องการแสงจากตะเกียงหรือแสงอาทิตย์อีก เพราะพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือเขาทั้งหลาย”

1 โครินทร์ 2:9 เราไม่อาจจินตนาการถึงสวรรค์ได้แน่ชัด “ตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้ สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น และหูไม่เคยได้ยิน และจิตใจของมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์”

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567

จงกล้าหาญไม่ท้อแท้


จงยืนหยัดกล้าหาญเหมือนทหารในสนามรบ และหากบางครั้งท่านผิดพลาดและล้มลงเนื่องจากความอ่อนแอ จงรวบรวมพละกำลังของท่านขึ้นมาใหม่ให้กล้าหาญมากขึ้นกว่าเดิม โดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้าอันอุดมบริบูรณ์ จงระวังอย่ามั่นใจและภาคภูมิใจในตนเองมากเกินไป เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนหลงทางและบางครั้งก็ส่งผลทำให้ตาบอดจนแทบจะรักษาไม่หาย จงดูการล่มสลายของคนหยิ่งยโสที่ยกตนขึ้นอย่างโง่เขลา และเตือนใจท่านให้รักษาความถ่อมตนไว้เสมอ
- จำลองแบบพระคริสต์ 
Thomas A Kempis

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567

จงระวังกับดักของปีศาจ


จงจำไว้เสมอว่าศัตรูเก่าของท่านพยายามขัดขวางท่านเสมอในการแสวงหาความดี มันขัดขวางท่านจากการฝึกฝนฝ่ายจิตทุกอย่าง เช่น การใคร่ครวญชีวิตของนักบุญ การระลึกถึงการเสียสละของพระเยซูเจ้า การไตร่ตรองถึงบาปของท่าน จงปกป้องหัวใจของท่านและมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติคุณธรรมให้มากขึ้น ศัตรูจะเติมเต็มจิตใจของท่านด้วยความคิดชั่วร้ายที่จะให้ท่านเหนื่อยล้าและหวาดกลัว โดยมีเป้าหมายที่จะดึงท่านออกจากการอธิษฐานภาวนาและการอ่านข้อเขียนศักดิ์สิทธิ์ มันไม่พอใจที่ท่านไปสารภาพบาป และถ้ามันทำได้ มันจะขัดขวางไม่ให้ท่านรับศีลมหาสนิท อย่าไปเชื่อหรือฟังมัน ถึงแม้ว่ามันจะวางกับดักหลอกลวงท่านบ่อยครั้งก็ตาม เมื่อเกิดความคิดไม่ดีและไม่บริสุทธิ์, จงรับรู้ว่านั่นเป็นการกระทำของมัน จงสั่งมันว่า 'จงออกไป เจ้าปีศาจโสโครก' แกไม่รู้สึกละอายใจและเป็นทุกข์ทรมานบ้างหรือ? เพราะแกมีมลทินอันน่าขยะแขยงที่เอาความคิดนี้มาให้ฉัน ไปเสียเถิด เจ้าหลอกลวง เจ้าไม่มีอำนาจเหนือฉัน แต่พระเยซู, ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งของฉันอยู่กับฉัน ฉันยอมทนทุกข์หรือรับความตายมากกว่ายอมทำตามเจ้า จงเงียบและไปจากฉัน ฉันจะไม่ฟังแกอีกต่อไป แม้ว่าแกจะวางกับดักเพิ่มเติมอีกก็ตาม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นแสงสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า? แม้ว่ากองทัพจะยกทัพมาต่อสู้กับข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าก็ไม่หวั่นไหว พระเจ้าทรงเป็นพละกำลังและพระผู้กอบกู้ของข้าพเจ้า
- จำลองแบบพระคริสต์ 
Thomas A Kempis

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2567

คนที่เราไม่ควรคบ


เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสให้เรารักทุกคน พระคัมภีร์ยังได้แนะนำเราในเรื่องการคบหาสมาคมกับผู้อื่น

สุภาษิต 13:20 กล่าวว่า “ผู้เดินกับผู้มีปรีชาก็จะเป็นผู้มีปรีชาด้วย แต่ผู้คบหากับคนโง่จะได้รับผลร้าย” คำกล่าวนี้เตือนเราระวังการที่ผู้อื่นจะมามีอิทธิพลต่อเรา มีคนประเภทที่พระเจ้าทรงเตือนเราให้หลีกเลี่ยง

สุภาษิต 16:28 “คนตลบตะแลงก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท ผู้ใส่ร้ายทำให้เพื่อนสนิทผิดใจกัน” คนที่พูดใส่ความนินทา จะคอยกระซิบกระซาบสร้างความแตกแยกและทำลายความสัมพันธ์

2 เปโตร2 “ในอดีต เคยมีผู้ปลอมตนเป็นประกาศกในหมู่ประชากรของพระเจ้า ในหมู่ท่านทั้งหลายจะมีผู้สอนผิดซึ่งพยายามสอดแทรกความคิดมิจฉาทิฐิที่นำความหายนะมาสู่ท่านเช่นเดียวกัน” พระเจ้าทรงเตือนเราให้ระวังคนที่จะนำความเชื่อที่หลงผิดมา จงวอนขอพระจิตเจ้าให้เรารู้ว่าใครเป็นครูที่แท้จริงและใครเป็นครูเท็จเทียม