พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

           ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ
           ลก 3:21-22 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
           ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
(ลูกา 3:15-16; 21-22)








วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ความรักอันยิ่งใหญ่ต่อพระเยซู


ครั้งหนึ่งพระเยซูทรงถามคัทเธอรีนแห่งเซียนนาว่า “ลูกที่รัก ลูกรู้ไหมว่าทำไมเราถึงรักลูก?” คัทเธอรีนตอบว่าเธอไม่ทราบ พระเยซูจึงตรัสว่า “เราจะบอกลูก ถ้าเราเลิกรักลูก ลูกก็จะไม่เหลืออะไรเลย ลูกจะไม่สามารถทำอะไรดีๆได้เลย เวลานี้ลูกคงเห็นแล้วว่าทำไมเราถึงต้องรักลูก” “จริงค่ะ” คัทเธอรีนตอบ และทันใดนั้นเธอก็พูดว่า “ลูกอยากจะรักพระองค์แบบนั้น” 

 แต่ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่เหมาะสม พระเยซูทรงยิ้ม จากนั้นเธอก็พูดอีกว่า “แต่มันไม่ยุติธรรม พระองค์สามารถรักลูกด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่ลูกรักพระองค์ด้วยความรักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

ในขณะนั้น พระเยซูทรงขัดจังหวะและตรัสว่า “เราได้ทำให้ลูกสามารถรักเราด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้” เธอประหลาดใจและถามพระองค์ทันทีว่าทำอย่างไร “เราได้ให้เพื่อนมนุษย์ของลูกอยู่ข้างๆใกล้ลูกแล้ว ไม่ว่าลูกจะทำอะไรกับพวกเขา เราจะถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำกับเรา” คัทเธอรีนเต็มไปด้วยความปิติยินดีและวิ่งไปดูแลคนเจ็บป่วยในโรงพยาบาล “ตอนนี้ลูกสามารถรักพระเยซูด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว” 

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567

แปลกแต่จริง



คุณแม่ชาวเซาท์แคโรไลนาคนหนึ่งยังคงไม่เชื่อข่าวนี้ หลังจากที่เธอเพิ่งคลอดลูกคนที่ 4 เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดวันเดียวกันกับพี่ๆทั้งสามของเธอ  

 คริสติน แลมเมิร์ต(Kristin Lammert) เป็นคุณแม่ของลูกสาว 3 คน ได้แก่ โซเฟีย วัย 9 ขวบ จิวเลียนา วัย 6 ขวบ และมีอา วัย 3 ขวบ ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ก่อนที่จะต้อนรับลูกสาวคนที่ 4 วาเลนตินา ที่เกิดในวันเดียวกันในปีนี้ ลูกสาวทั้ง 3 คน,แต่ละคนเกิดห่างกัน 3 ปี

--------------
ข่าวจากวาติกัน 

 ข้อสรุปจากวาติกันเกี่ยวกับการประจักษ์ของแม่พระที่การาบังดัล ไม่มีองค์ประกอบ "เหนือธรรมชาติ" ในการปรากฏตัวของพระแม่มารีย์ ที่ซานเซบาสเตียน เดอ การาบันดัลในช่วงทศวรรษ 1960 แต่อนุญาตให้มีการนมัสการแบบส่วนตัว เนื่องจากผู้คน "ไปสวดภาวนาแล้วจึงไปร่วมพิธีมิสซา"

 เรื่องนี้ได้รับการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา โดยประธานสมณะกระทรวงแห่งความเชื่อ พระคาร์ดินัลวิกเตอร์ มานูเอล เฟอร์นันเดซ แห่งอาร์เจนตินา ในงานแถลงข่าวที่นครวาติกัน (กรุงโรม) ซึ่งรายงานโดย Europa Press เมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองแคนตาเบรียระหว่างปี 1961 ถึง 1965 ซึ่งเด็กหญิง 4 คน อายุระหว่าง 10 ถึง 12 ปี จากเมืองดังกล่าวอ้างว่าได้เห็นการปรากฏมาของนักบุญมีคาแอล อัครทูตสวรรค์ และพระแม่มารีย์หลายครั้ง

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567

ปีศาจกลัวศีลมหาสนิท


ในวีดีโอนี้ ปีศาจที่สิงอยู่ในผู้ชายเสื้อเขียว,เมื่อเข้าใกล้ศีลมหาสนิทก็ล้มลงและชักดิ้นพร้อมทั้งส่งเสียงหอน

เราเคยอ่านในพระวรสารว่า เมื่อพระเยซูเทศน์สอนในศาลาธรรมที่คาเปอร์นาอุม ชายคนหนึ่งถูกปีศาจเข้าสิง เขาร้องตะโกนว่า ท่านมายุ่งกับเราทำไม เยซู ชาวนาซาเร็ธ... พระเยซูทรงดุปีศาจและตรัสสั่งให้ปีศาจออกจากชายผู้นั้น ปีศาจเมื่อทำให้ชายผู้นั้นล้มลงชักและร้องเสียงดังแล้ว มันก็ออกไปจากเขา(มาระโก 1:21)

เหตุการณ์ในวีดีโอนี้ดูเหมือนจะตรงกับเรื่องราวในพระวรสาร

เรื่องนี้เตือนเราว่า พระเยซูทรงอยู่ในศีลมหาสนิทอย่างแท้จริง ผู้ที่จะเข้าไปรับศีลมหาสนิทจึงต้องมีความเคารพ และเขาต้องอยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้า ไม่มีบาปหนัก มิฉะนั้นการรับศีลของเขาก็จะไม่เกิดประโยชน์ พระเยซูจะไม่ประทับอยู่กับเขาอย่างแน่นอน ซ้ำยังจะเป็นการซ้ำเติมโทษทัณท์ของเขาเพิ่มอีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2567

พระธรรมชาติของพระเยซูเจ้า


ทำไมพระเยซูจึงตรัสว่าพระบิดาของเราทรงยิ่งใหญ่กว่าพระองค์ ในพระคัมภีร์ ยอห์น 14:28 พระเยซูตรัสว่า “ท่านได้ยินที่เราบอกกับท่านแล้วว่า เรากำลังจะไป และเราจะกลับมาหาท่านทั้งหลาย ถ้าท่านรักเรา ท่านคงยินดีที่เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา เพราะพระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา”

บางคนแปลข้อความนี้ว่า พระเยซูไม่ใช่พระเจ้า เพราะพระองค์ไม่เทียบเท่าพระบิดาผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม การแปลเช่นนี้ขัดแย้งกับความจริงทางเทววิทยาเกี่ยวกับพระธรรมชาติสองอย่างของพระเยซูเจ้า พระเยซูทรงเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์อย่างสมบูรณ์ในเวลาเดียวกัน เมื่อพระองค์ตรัสว่า พระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา นั้น พระองค์ตรัสจากพระธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์ ไม่ใช่ธรรมชาติพระเจ้า  ในฐานะมนุษย์,พระเยซูทรงมีประสบการณ์ ความหิวโหย,ความกระหายและความโศกเศร้า,ซึ่งพระธรรมชาติพระเจ้าไม่มีประสบการณ์เช่นนี้ ตัวอย่างเช่น พระเยซูทรงร้องไห้ขณะทอดพระเนตรกรุงเยรูซาเล็ม และทรงหิวโหยเมื่อทรงอดอาหารในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาสี่สิบวัน สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ในธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์ แต่ในธรรมชาติพระเจ้า,พระเยซูทรงแสดงอัศจรรย์ ทำให้คนตายกลับฟื้นคืนชีพ,ขับไล่ปีศาจออกจากคนที่มันสิง พระธรรมชาติพระเจ้าของพระเยซูเจ้าทรงเทียบเท่ากับพระบิดา แต่ในธรรมชาติมนุษย์,พระเยซูทรงรับรู้ถึงบทบาทอันยิ่งใหญ่ของพระบิดา คริสตศาสนาสอนว่า พระเจ้าได้ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ในองค์พระเยซูเจ้า ใม่ใช่มนุษย์กลายเป็นพระเจ้า   เพราะฉะนั้นเมื่อพระเยซูตรัสว่า พระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา พระองค์จึงระบุถึงธรรมชาติมนุษย์อันเนื่องมาจากการเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระองค์และไม่ได้ทรงปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระองค์   พระองค์ตรัสเพื่อแสดงว่าทรงรับรู้ถึงขีดจำกัดในธรรมชาติความเป็นมนุษย์ของพระองค์เมื่อเปรียบเทียบกับธรรมชาติพระเจ้าของพระองค์  

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 ก.ย. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ก.ย. 2024
ลูกที่รักทั้งหลาย
         ด้วยความรักต่อลูกทั้งหลาย,พระเจ้าจึงทรงส่งแม่มาอยู่ท่ามกลางลูก,เพื่อรักลูกและกระตุ้นจิตใจของลูกให้กลับใจและสวดภาวนาเพื่อสันติภาพในตัวลูกเอง,ในครอบครัวของลูกและในโลก  
          ลูกน้อยทั้งหลาย,อย่าลืมว่าสันติภาพที่แท้จริงมาจากการสวดภาวนาต่อพระเจ้าเท่านั้น พระผู้ทรงเป็นสันติภาพของลูก  
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           
            ***************
ประกาศจากสมณกระทรวงแห่งความเชื่อ โดยได้รับความยินยอมจากพระสันตะปาปาฟรังซิส อนุมัติให้แสดงความศรัทธาที่เชื่อมโยงกับเมดจูกอเรจ์ได้ โดยยอมรับผลลัพท์ทางจิตวิญญาณอันอุดมสมบูรณ์ที่ได้รับจากศาสนสถานราชินีแห่งสันติภาพ โดยไม่ต้องประกาศเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีการอ้างถึง 
            ***************
ประกาศเพิ่มเติม - วาสุลา ไรเดน ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2024 เวลา 2.30 น. 
วาสุลา ไรเดน ผู้ที่ได้รับสาส์นจากพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ เธอได้เขียนสาส์นเหล่านั้นในหนังสือชื่อ “ชีวิตแท้ในพระเจ้า”(True Life in God)