พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2567

บวชเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุ 75


เขาเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลกและศาสตราจารย์จากเคมบริดจ์ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์คาทอลิกที่อาสนวิหารเซนต์จอห์นในเมืองนอริชเมื่อวันที่ 21 กันยายน แม้ว่าจะมีอายุมากกว่าอายุเกษียณตามกำหนดไว้สำหรับพระสงฆ์ของสังฆมณฑลก็ตาม

 จอห์น มอร์ริลล์ วัย 78 ปี ซึ่งเคยเป็นสังฆานุกรมาเป็นเวลา 28 ปี ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์โดยบิชอปปีเตอร์ คอลลินส์ โดยมีพระสงฆ์, ครอบครัว, เพื่อน, นักศึกษาเก่า, และเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย250 คนร่วมในพิธีนี้ด้วย เว็บไซต์ของสังฆมณฑลอีสต์แองเกลียระบุว่า “ชายผู้นี้ได้ยินเสียงพระเจ้าเรียกเขาหลายครั้ง เขาเป็นคนที่ตอบรับการเรียกของพระเยซูอย่างเต็มใจในหลายๆวิธีตลอดชีวิตของเขา” บิชอปปีเตอร์กล่าวในการเทศน์ของท่าน พร้อมกับเน้นย้ำถึงบทบาทของภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วของมอร์ริลล์ “ผู้ซึ่งเป็นครูคำสอนที่แท้จริงของเขาในความเชื่อคาทอลิก”

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2567

พึงระวังความสนิทสนมอันเกินควร




อย่าเปิดเผยใจของท่านแก่ทุกคน แต่จงปรึกษาเรื่องของท่านกับผู้มีปรีชา และผู้ยำเกรงพระเจ้าเถิด. จงติดต่อกับคนหนุ่มสาวแต่นานๆ ครั้ง ทั้งคนนอก(=คนชาวโลก)ด้วย.

อย่าประจบคนรวย และอย่าชอบแสดงตัวต่อหน้าคนใหญ่คนโต. จงคบหาคนสุภาพ คนซื่อ คนศรัทธา และคนอยู่ในศีลสัตย์. จงสนทนากับเขาในเรื่องปลุกศรัทธา. อย่าสนิทสนมกับสตรีคนใดคนหนึ่ง แต่จงฝากฝังสุภาพสตรีคนดีทั่วๆ ไปไว้กับพระเจ้า. จงปรารถนาสนิทสนมเฉพาะกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และทูตสวรรค์ของพระองค์.

จงหลีกเลี่ยงการหาวิธีให้มนุษย์มารู้จักตน.  

♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡

ความรัก เราต้องมีต่อทุกคน แต่ความสนิทสนมนั้น ไม่เหมาะสม. บางครั้ง อาจเกิดขึ้นได้ คนที่เราไม่รู้จัก ได้ยินแต่ชื่อเสียงของเขา เราก็นับถือเขา แต่ครั้นเขามาอยู่ต่อหน้า เรากลับคลายความนับถือ.  

บางครั้ง เราคิดว่า ถ้าเราไปติดต่อกับเขาบ่อยๆ เขาคงยินดี แต่เรื่องกลับตาลปัตร เขาเริ่มกระอักกระอ่วน เพราะสังเกตเห็นตำหนิในตัวเรา.  

โดย Thomas a Kempis:แปลโดย ผู้หว่าน  

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567

การเดินขบวน 200 วัน


มันเป็นคืนที่มืดมิด และผู้คนไม่สามารถหาทางกลับประเทศของตนได้อีกต่อไป
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567

การเทศน์ของคุณพ่อบอสโก


ให้ข้อคิดว่า เราจะประยุกต์ใช้วิธีการของคุณพ่อบอสโกในเรื่องการเทศน์ได้อย่างไร?
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ความทรมานจากบาปแห่งลิ้น


พระสงฆ์โดมินิกันชื่อดูแรนด์(Durand) ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ดีมาก เขาเข้ากับคนง่ายแต่พูดมากเกินไป เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องอารมณ์ขันที่ขัดต่อความรัก และแม้ว่าอธิการของเขาจะตักเตือนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังคงพูดตามความเคยชินจนถึงขนาดที่ขาดความรักต่อผู้ฟังและบางทีก็ต่อคนที่เขาล้อเล่นด้วย เขาแตกต่างอย่างมากจากลาคอร์แดร์(Lacordaire)แห่งโดมินิกันที่มีชื่อเสียงซึ่งพูดจาไพเราะ,พูดจาอย่างยุติธรรมและมีเหตุผลเสมอ (ภาพด้านบน) ดูแรนด์ซึ่งเป็นนักพรตโดมินิกันซึ่งเป็นคณะนักเทศน์,เขาอาจคิดว่าตนเองสามารถพูดได้มากเท่าที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะเขามักพูดจาโดยไม่ระวัง

หลังจากที่เขาเสียชีวิต เขาก็ปรากฏตัวต่อเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นนักบวชเหมือนกันและขอให้พวกเขาสวดภาวนาอุทิศแก่เขา หนังสือที่ฉันอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ระบุว่านักบวชคนนั้นเป็นนักบวชหรือซิสเตอร์ ดูรันด์ถูกทรมานอย่างโหดร้ายในไฟชำระเพราะวิธีที่เขาทำให้คนอื่นทรมานด้วยการพูดจาเยาะเย้ยไม่หยุดหย่อน เมื่อในคณะโดมินิกันรับรู้ถึงความทุกข์ยากของดูรันด์ จึงพวกเขาทำพลีกรรมรักษาความเงียบเป็นเวลา 8 วันและทำกิจกุศลอุทิศให้แก่ดูรันด์ หลังจากนั้นไม่นาน ดูรันด์ก็ปรากฏตัวและบอกให้รู้ว่าเขาพ้นโทษแล้วและกำลังจะขึ้นสวรรค์: 

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ความครบครันโดยความอดทน


ความดีครบครันเกิดขึ้นได้จากกระบวนการของการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์

กระบวนการนี้จำเป็นที่เราต้องฟังและนบนอบเสียงของพระจิตเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต่อจิตวิญญาณของเรา และเกี่ยวกับวิธีที่จะรักษาความบริสุทธิ์ของเราเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ซึ่งอาจต้องมีความอดทนต่อความทุกข์ (ทุกรูปแบบ) แต่ในท้ายที่สุด หากเราซื่อสัตย์ต่อเสียงของพระจิต, เราจะได้ยินพระบิดาตรัสด้วยความยินดีว่า “ดีมาก!”

ความทุกข์อาจทำให้จิตใจของเราแข็งกระด้างต่อพระเจ้า หรืออาจทำให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพระองค์อย่างสุดจิตใจมากขึ้น, ขึ้นอยู่กับเรา เมื่อเกิดความยากลำบาก, จงอย่าบ่น แต่ให้พูดว่า พระเจ้าข้า, โปรดแสดงให้ลูกเห็นถึงสิ่งที่ลูกสามารถทำได้เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ด้วยเทอญ

“ผู้ที่ซักเสื้อของตนก็เป็นสุข เขาจะมีสิทธิ์กินผลจากต้นไม้แห่งชีวิต และผ่านประตูเข้าไปในนครนั้นได้” (วิวรณ์ 22:14 )