Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย  ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา  แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ  พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2025 สมโภชนักบุญทั้งหลาย
พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนมากมาย จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ (2) พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
(มัทธิว 5:1-12)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2025 สมโภชนักบุญทั้งหลาย
พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนมากมาย จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ (2) พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
(มัทธิว 5:1-12)
วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
เมลคีเซเดคคือใคร?
 
ในภาษาฮีบรู คำว่ากษัตริย์คือ  מלך (อ่านว่า Melch เมลเลค) 
 และคำว่า ความชอบธรรม ในภาษาฮีบรู คือ צדיק, (Tzedek ซิเดค)
 คำว่า เมลคีเซเดค(Melchizedek)  จึงแปลว่า กษัตริย์แห่งความชอบธรรม
 เมลคีเซเดค(Melchizedek) เป็นกษัตริย์ของเมืองซาเลม(Salem)  ซาเลม มีที่มาจากคำว่า Shalom ซึ่งแปลว่า สันติภาพ(Peace)  คำเหล่านี้ให้วิสัยทัศน์บางอย่างแก่เรา
 กษัตริย์เมลคีเซเดคแห่งเมืองซาเลม เป็นกษัตริย์แห่งความชอบธรรมและกษัตริย์แห่งสันติภาพด้วย  (ฮีบรู 7:2). นอกจากนี้พระคัมภีร์ยังบอกว่า กษัตริย์เมลคีเซเดคเป็นสมณะสูงสุดของพระเจ้าอีกด้วย
 ในหนังสือปฐมกาล สมัยนั้นยังไม่ได้เริ่มต้นมีสมณะเลย  แต่พระคัมภีร์ได้พูดถึงเมลคีเซเดคซึ่งเป็นกษัตริย์และเป็นสมณะของพระเจ้าแล้ว
 เมื่ออับราฮัมรบชนะข้าศึก, เมลคีเซเดคได้ออกมาพบอับราฮัมและนำขนมปังและเหล้าองุ่นมาให้ ทั้งอวยพรอับราฮัมในพระนามของพระเจ้าสูงสุด
 การถวายขนมปังและเหล้าองุ่นของเมลคีเซเดคจึงเป็นรูปแบบของพระเมสสิยาห์,พระเยซูคริสต์ (ฮีบรู 6:20; ฮีบรู 7:2).และเป็นเครื่องหมายของพิธีกรรมในพิธีมิสซา
วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ทำไมพระเยซูจึงทรงเขียนบนพื้นด้วยนิ้วของพระองค์
 
ใน ยอห์นบทที่ 8 เล่าว่า เมื่อบรรดาฟาริสีพาหญิงที่ถูกจับได้ว่าทำผิดประเวณีมาให้พระเยซูตัดสิน โดยพวกเขาบอกว่า”ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร”  แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน ทำไมพระเยซูจึงทรงทำเช่นนั้น?
 อพยพ 31:18 กล่าวว่า  “เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสบนภูเขาซีนายแล้ว พระองค์ประทานแผ่นศิลาจารึกสองแผ่นให้เขา เป็นแผ่นศิลาที่ทรงจารึกด้วยพระหัตถ์ของพระองค์”  
 พระเยซูทรงเอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้น เท่ากับพระเยซูทรงปรารถนาที่จะบอกกับเราว่า พระองค์คือพระเจ้า,พระยาห์เวห์,ผู้ทรงจารึกพระบัญญัติด้วยนิ้วพระหัตถ์บนศิลาและประทานศิลาสองแผ่นแก่โมเสส  
 และเป็นไปได้ว่าบนพื้นนั้นพระเยซูทรงเขียนพระบัญญัติหนึ่งในสิบประการ ซึ่งคงจะเป็นพระบัญญัติประการที่ 5 นั่นคือ "อย่าฆ่าคน"  เพราะฟาริสีต้องการให้พระองค์ทำตามกฎในเลวีนิติที่สั่งให้ลงโทษผู้ทำผิดประเวณีด้วยการเอาก้อนหินทุ่มให้ตาย  แต่พระเยซูทรงล่วงรู้ถึงความคิดของพวกเขา  ถึงแม้ว่าในพระบัญญัติข้อที่ 6 บอกว่า "อย่าทำผิดประเวณี"  แต่พระบัญญัติข้อที่ 5 มาก่อนบัญญัติข้อที่ 6  และในบัญญัติข้อที่ 6 ก็ไม่ได้สั่งให้ลงโทษผู้กระทำผิดแต่อย่างใด  พระบัญญัติของพระเจ้าย่อมใหญ่กว่ากฏเกณฑ์ของมนุษย์
 พวกฟาริสีคิดแต่จะจับผิดพระเยซูเจ้าจนลืมและมองข้ามพระบัญญัติประการที่ 5 ที่สั่งว่า อย่าฆ่าคนและนำเอากฏเกณฑ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นเองมาใช้อย่างไร้ความเมตตา พระเยซูจึงทรงเขียนพระบัญญัติข้อที่ 5 เพื่อย้ำเตือนพวกเขา
 ยอห์น 8:7-11 เล่าต่อไปว่า "เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด”  แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป  เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม  พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ”  หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
 พระเมตตาของพระเยซูเจ้ายิ่งใหญ่กว่าบาปใดๆทั้งสิ้น  
วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ไปหาพระเยซูเจ้าผ่านทางพระนางมารีย์
 
โปรแตสแตนท์มักจะพูดเสมอว่า คาทอลิกให้ความสำคัญต่อพระนางมารีย์มากกว่าพระเยซูเจ้า  โดยคาทอลิกมักสอนว่า เราควรไปหาพระเยซูเจ้าโดยผ่านทางพระนางมารีย์เพื่อที่จะได้รับความรอดของพระเยซูเจ้า  ทำไมเราจึงไม่ไปหาพระเยซูเจ้าโดยตรงล่ะ ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้องกว่า
 คำตอบ : เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกนี้  พระองค์ไม่ได้เสด็จมาหามนุษย์โดยตรงมิใช่หรือ  แต่เสด็จมาโดยผ่านทางพระนางมารีย์,ทางพระครรภ์ของพระนาง  ทำไมพระเยซูเจ้าไม่เสด็จมายังโลกโดยตรงล่ะ  ทั้งๆที่พระองค์สามารถกระทำได้ด้วยพระฤทธานุภาพอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์  นี่เป็นความล้ำลึกของพระเจ้าที่ประสงค์ให้เป็นเช่นนี้  พระเยซูเจ้าทรงยกย่องพระนางมารีย์ให้เป็นมารดาของพระองค์  และทรงทำให้พระนางมารีย์เป็นผู้ร่วมการไถ่กู้มนุษยชาติพร้อมกับพระองค์ด้วย
 แน่นอนว่าเราสามารถและต้องสวดภาวนาถึงพระเยซูเจ้าโดยตรง  และเราก็ยังมีพระนางมารีย์คอยช่วยเหลือเราให้ใกล้ชิดพระเยซูเจ้าได้ง่ายขึ้นสะดวกมากขึ้นด้วย  เพราะพระนางทรงรู้จักพระเยซูเจ้าดีที่สุด  และรู้จักเราอย่างดีด้วย พระนางมารีย์จะช่วยวิงวอนต่อพระเยซูเจ้าเพื่อพวกเรา
 ไม่มีแม่คนใดที่จะไม่ช่วยเหลือลูกเมื่อลูกวอนขอต่อแม่ของเขา เราจึงวอนขอพระนางมารีย์ให้ช่วยเราให้ไปหาพระเยซูเจ้าดังที่พระเยซูเจ้าทรงมาหาเราโดยทางพระนางมารีย์เช่นเดียวกัน
 #CATHOLIC 4 LIFE
วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
พระศาสนจักรคาทอลิก
 
ทำไมพระศาสนจักรคาทอลิกจึงรอดพ้นจากการถูกทำลายจากผู้มุ่งร้านได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ? 
 เจมส์ ฮิทช์คอก นักประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปรินซ์ตันเขียนไว้ว่า 
 “ขณะที่พระศาสนจักรอยู่ที่โลกเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกโดยอาศัยพระเยซูคริสต์,พระผู้ทรงก่อตั้งพระศาสนจักรขึ้นมา  ความอ่อนแอทางศีลธรรมของผู้นำของเธออันเป็นที่น่าดูหมิ่นกลับเป็นพยานถึงลักษณะที่ศักดิ์สิทธิ์ของเธอ  มนุษย์แต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสวรรค์,ไม่สามารถทำให้พระศาสนจักรบรรลุความสำเร็จในความดีได้ในตลอด 2000 ปี  อาศัยแต่เพียงมนุษย์เท่านั้น,พระศาสนจักรจะพินาศไปแล้วในประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ผ่านมาของเธอ  ทำไมสาส์นของชาวประมงในเรื่องการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ยังคงอยู่ได้ตลอด 2000 ปีโดยผ่านทางธรรมประเพณี?  ในขณะที่จักรวรรดิโรมันอันทรงอำนาจ,ซึ่งได้เบียดเบียนข่มเหงชายหญิงเหล่านี้  ด้วยอำนาจทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อกำจัดพวกเขาให้หมดสิ้นไป แล้วเวลานี้จักรวรรดิโรมันไปอยู่ที่ไหน? ผู้สืบทอดอำนาจของจูเลียส ซีซาร์อยู่ที่ไหน?  เพราะชาวประมงที่ชื่อ เปโตรได้รับชัยชนะในการประกาศถึงพระเยซูคริสต์ในโรม และเวลานี้ผู้สืบทอดของชาวประมง,ชื่อของเขาคือ พระสันตปาปาฟรังซิส  จักรวรรดิโรมันถูกทิ้งไว้เหลือแต่ซากปรักหักพัง
 พระศาสนจักรเชื่อว่าพระจิตเจ้าทรงปกป้องพระศาสนจักรจากข้อผิดพลาดทั้งปวง และพระเจ้าทรงสามารถทำให้เกิดความดีออกมาจากความชั่วที่เกิดจากภายในหรือที่มาจากภายนอกกำแพงของเธอ พระศาสนจักรคาทอลิกจะยังคงอยู่จนถึงวันสิ้นพิภพ จนถึงวันที่พระผู้ทรงก่อตั้งเธอ,พระเยซูคริสต์,จะกลับมาเป็นครั้งทื่สอง
 #Catholic 4 Life
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)







