พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2568

สุขสันต์ปัสกา 2025 แด่ทุกท่าน



คุณคงเคยได้ยินคำพูดอันโด่งดังเกี่ยวกับเทศกาลอีสเตอร์ของพระสันตปาปายอห์น ปอลที่ 2 ที่ว่า "พวกเราคือประชาชนแห่งอีสเตอร์ และอัลเลลูยาคือบทเพลงของเรา!"

คุณรู้ไหมว่าพระองค์ไม่ได้ตรัสวาจานี้ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ แต่เป็นเดือนพฤศจิกายน

พระองค์ทรงประกาศถ้อยคำให้กำลังใจนี้ในวันอาทิตย์ Angelus ของพระองค์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 1986 ในระหว่างที่พระองค์เสด็จเยือนออสเตรเลียในปีนั้น พระองค์ตรัสว่า:

“เราไม่ได้แสร้งทำเป็นว่าชีวิตมีแต่ความสวยงาม เราตระหนักดีถึงความมืดมิดและความบาป ความยากจนและความเจ็บปวด แต่เรารู้ว่าพระเยซูทรงพิชิตบาปและทรงผ่านความเจ็บปวดของพระองค์เองไปสู่ความรุ่งโรจน์ของการกลับฟื้นคืนพระชนม์ และเราอาศัยอยู่ในแสงสว่างของความลึกลับแห่งปัสกาของพระองค์ ความลึกลับแห่งความตายและการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ‘เราเป็นชนชาติแห่งอีสเตอร์และเพลงอัลเลลูยาคือบทเพลงของเรา!’ เราไม่ได้มองหาความปีติยินดีที่ตื้นเขิน แต่มองหาความปีติยินดีที่มาจากความเชื่อ ที่เติบโตโดยอาศัยความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ที่เคารพใน ‘หน้าที่พื้นฐานของความรักต่อเพื่อนบ้าน ซึ่งถ้าไม่มีสิ่งนี้ การพูดถึงความปีติยินดีก็คงไม่เหมาะสม’”

- สุขสันต์ปัสกา



วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2568

พระเมตตาของพระเยซูเจ้า


ไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา - หน้า 1572 - ชั่วโมงที่สาม

1572 เราขอเตือนลูกว่าทุกครั้งที่ลูกได้ยินเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาบ่ายสามโมง จงมาอยู่ในพระเมตตาของเราอย่างเต็มเปี่ยม จงเทิดทูนและสรรเสริญพระเมตตาของเรา สวดภาวนาวิงวอนต่อพระฤทธานุภาพสูงสุดของพระเมตตาสำหรับทั้งโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนบาปที่น่าสงสาร เพราะในเวลานั้น พระเมตตาของเราจะเปิดออกสำหรับวิญญาณทุกดวง ในชั่วโมงนี้ ลูกสามารถได้รับทุกสิ่งสำหรับตัวลูกเองและสำหรับผู้อื่นในสิ่งที่วอนขอ มันเป็นชั่วโมงแห่งพระหรรษทานสำหรับทั้งโลก เวลานี้จะเป็นเวลาที่พระเมตตามีชัยชนะเหนือพระยุติธรรม

พระเยซูเจ้าตรัสว่า ใครก็ตามที่เข้าถึงต้นธารแห่งชีวิต(พระเมตตา)ในวันนี้ จะได้รับการอภัยบาปและยกโทษบาปทั้งหมด”(บันทึกข้อ 0300) และที่สุด พระเยซูเจ้าตรัสแก่ซิสเตอร์โฟสตินาว่า พระองค์ทรงปรารถนาให้มีการเฉลิมฉลองวันอาทิตย์แรกหลังวันอาทิตย์ปัสกากันทั่วโลกให้เป็น "วันฉลองพระเมตตา"

“ลูกรัก เมื่อเราเรียกร้องผ่านลูกให้คนทั้งหลายสักการะพระเมตตาของเรานั้น ลูกควรเป็นคนแรกที่แสดงความวางใจในพระเมตตาของเราให้เห็นเด่นชัด เราเรียกร้องให้ลูกทำกิจเมตตาซึ่งเกิดจากความรักที่มีต่อเรา ลูกควรแสดงความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ทุกเวลาและทุกสถานที่ ลูกไม่ควรหลีกเลี่ยงหรือพยายามหาข้อแก้ตัวที่จะไม่ทำกิจเมตตานี้เราขอบอกสามวิธีที่ลูกจะแสดงความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ได้ วิธีแรก คือ ด้วยกิจการ วิธีที่สอง คือ ด้วยคำพูด วิธีที่สาม คือ ด้วยคำภาวนา ในความเมตตาทั้งสามระดับนี้ มีความเมตตาอย่างครบถ้วนและเป็นการพิสูจน์ความรักต่อเราอย่างไม่มีข้อสงสัย วิญญาณสรรเสริญและแสดงความเคารพเทิดทูนพระเมตตาของเราด้วยวิธีนี้ ถูกแล้ว วันอาทิตย์แรกหลังปัสกาคือวันฉลองพระเมตตา แต่ควรประกอบกิจเมตตาด้วยและเราเรียกร้องให้มีการสักการะพระเมตตาของเราด้วยพิธีสมโภชอย่างสง่า ด้วยการแสดงความเคารพต่อภาพพระเมตตาที่วาดขึ้นมานี้ เราจะมอบพระหรรษทานมากมายแก่วิญญาณทั้งหลายด้วยภาพนี้ ภาพนี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงสิ่งที่พระเมตตาของเราปรารถนา เพราะแม้แต่ความเชื่อที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไร้ประโยชน์ หากปราศจากกิจการ” (บันทึกข้อ 0742)

วันฉลองพระเมตตาในปีนี้จะเป็นวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2025

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2568

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

ความเสียใจที่ช้าเกินไปของผู้ที่กำลังจะตาย


คนที่กำลังจะตายซึ่งละเลยความรอดของวิญญาณของเขาตลอดชีวิต จะพบหนามในทุกสิ่งที่มาสู่เขา หนามในการรำลึกถึงความสนุกสนานในอดีต การแข่งขันที่เคยเอาชนะได้  หนามในเพื่อนๆที่จะมาเยี่ยมเขา และในสิ่งใดก็ตามที่มาปรากฏต่อหน้าเขา ในทางกลับกันก็มีหนามของบิดาฝ่ายจิตที่พยายามช่วยเหลือเขา หนามของศีลอภัยบาป ศีลมหาสนิท และการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเขาจะต้องรับ หนามแม้แต่ในไม้กางเขนที่วางอยู่ตรงหน้าเขา

โอ้ฉันช่างโง่เขลาเสียจริง! คนใกล้ตายที่น่าสงสารจะพูดว่า ด้วยโอกาสหลายครั้งที่พระเจ้าทรงประทานให้ ฉันสามารถเป็นนักบุญได้ ฉันสามารถใช้ชีวิตที่มีความสุขในพระหรรษทานของพระเจ้า และหลังจากหลายปีที่พระองค์ประทานเวลาให้ฉัน ฉันพบอะไรในความทรมาน ความไม่ไว้วางใจ ความกลัว การตำหนิในจิตใจ และบัญชีที่ต้องชำระต่อพระเจ้า? ฉันแทบจะช่วยวิญญาณของฉันไว้ไม่ได้เลย แล้วเขาจะพูดอย่างนี้เมื่อใด เมื่อน้ำมันตะเกียงกำลังจะหมดลง และฉากของโลกนี้กำลังจะปิดลงตลอดกาล เมื่อเขาพบว่าตัวเองกำลังมองดูความเป็นนิรันดร์สองแบบ แบบหนึ่งมีความสุข อีกแบบหนึ่งน่าสังเวช เมื่อเขาใกล้จะหายใจเฮือกสุดท้ายซึ่งขึ้นอยู่กับความสุขชั่วนิรันดร์หรือความสิ้นหวังชั่วนิรันดร์ของเขา ตราบใดที่พระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้า

คุณไม่รู้หรือว่าความตายไม่รอใคร ไม่เคารพใครเลย โอ้ คุณจะแสดงให้คนบาปที่กำลังจะตายเห็นได้อย่างไรว่า สิ่งของทั้งหมดในโลกนี้เป็นสิ่งไร้สาระ เป็นความโง่เขลา และการโกหก แต่จะมีประโยชน์อะไรที่จะเข้าใจความจริงเหล่านี้เมื่อหมดเวลาในการใช้ประโยชน์จากมัน 

แหล่งข้อมูล: Preparation for Death

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2568

คำแนะนำจากนักบุญ



ฟังพ่อพูดสักครู่แล้วลูกจะรู้ถึงวิธีที่จะทำให้การกระทำทั้งหมดของลูกมีคุณค่าเหมาะสมกับชีวิตนิรันดร์โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกเลย สิ่งที่ลูกต้องทำคือเมื่อลูกจะทำสิ่งใดจงตั้งจุดมุ่งหมายที่จะทำเพื่อให้พระเจ้าทรงพอพระทัย ในตอนเช้าเมื่อลูกตื่นนอน ให้คิดถึงพระเจ้าทันทีและทำสำคัญมหากางเขนพร้อมทั้งพูดกับพระองค์ว่า “พระเจ้าของลูก ลูกขอมอบดวงใจของลูกแด่พระองค์ และเพราะพระองค์ทรงพระกรุณาประทานเวลาให้ลูกอีกหนึ่งวัน โปรดประทานพระหรรษทานแก่ลูกสำหรับทุกสิ่งที่ลูกจะทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์และเพื่อความรอดของวิญญาณของลูก”

- นักบุญยอห์น เวียนเนย์

วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2568

คำพูดของนักบุญ


“วิญญาณที่ชอบธรรมเพียงหนึ่งดวงสามารถช่วยคนบาปนับพันคนให้ได้รับการอภัยโทษ” ~

- นักบุญมาร์กาเร็ต มารี อาลาก็อก