พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568

การตรวจสอบมโนธรรม


การไตร่ตรองถึงพระธรรมเทศนาอันศักดิ์สิทธิ์ควบคู่ไปกับพระบัญญัติสิบประการสามารถช่วยให้เราตรวจสอบจิตวิญญาณ
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2568

วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2568

ทูตสวรรค์ของคุณพ่อปีโอ


คุณพ่อปีโอ ยังได้บรรยายถึงทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของท่านว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในชีวิตฝ่ายจิตของท่าน ท่านสื่อสารกับทูตสวรรค์ของท่านเป็นประจำและเชื่อว่าทูตสวรรค์ได้แจ้งให้ท่านทราบถึงความต้องการของผู้อื่น ทำให้ท่านสามารถอธิษฐานภาวนาเพื่อพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น เมื่อท่านทราบเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับลูกฝ่ายวิญญาณคนหนึ่งของท่านก่อนที่ท่านจะได้รับแจ้งผ่านวิธีการทั่วไป ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับการรับรู้ที่พิเศษที่ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของท่านมอบให้ท่านทราบ

คุณพ่อปีโอ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตระหนักรู้ถึงทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของตนเองในฐานะผู้ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง คุณพ่อปีโอสนับสนุนให้แต่ละคนพัฒนานิสัยในการคิดถึงทูตสวรรค์ของตนบ่อยๆ โดยระลึกว่าทูตสวรรค์ของแต่ละคนนั้นเป็นเพื่อนที่รักใคร่ที่คอยชี้นำพวกเขา ตลอดชีวิตของพวกเขา

ลักษณะทั่วไปในคำบรรยายโดยนักบุญ

จากบันทึกต่างๆ ของนักบุญ  เกมม่า กัลกานี และ คุณพ่อปีโอ ได้อธิบายลักษณะหลายประการเกี่ยวกับทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์:

การปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง: นักบุญทั้งสองเน้นย้ำว่าทูตสวรรค์ของพวกเขาอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอ คอยให้ความสะดวกสบายและเป็นเพื่อน

การชี้นำและสั่งสอน: ทูตสวรรค์ทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำที่คอยสั่งสอนชีวิตจิตและช่วยให้เหล่านักบุญผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ได้

การปกป้องจากอันตราย: เหล่าทูตสวรรค์ทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องในช่วงเวลาที่มีอันตรายหรือถูกล่อลวง โดยเพิ่มบทบาทของท่านในฐานะผู้พิทักษ์

ความสัมพันธ์ส่วนตัว: ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้มีลักษณะเฉพาะคือความคุ้นเคย เหล่านักบุญจะพูดคุยกับเหล่าทูตสวรรค์ในฐานะเพื่อนมากกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ห่างไกล

โดยสรุป นักบุญจะกล่าวถึงทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของตนว่าเป็นเพื่อนที่เปี่ยมด้วยความรักซึ่งคอยให้คำแนะนำ ปกป้อง และสนับสนุนตลอดเส้นทางชีวิตในขณะที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันแนบแน่นซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือการสื่อสารและความเคารพซึ่งกันและกัน

Sources Used: 1. Catholic Encyclopedia 
2. Lives of the Saints 
3. Spiritual Writings by Padre Pio

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2568

ทูตสวรรค์ของเกมม่า กัลกานี


นักบุญเกมม่า กัลกานีมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและใกล้ชิดกับทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเธอ ซึ่งเธอบอกว่าทูตสวรรค์ของเธอเป็นเพื่อนที่สนิทคุ้นเคยและอยู่เคียงข้างเธอตลอดชีวิต เธอมักพบกับทูตสวรรค์ของเธอและสนทนากับเขาบ่อยๆ การสนทนากับเขาดูเป็นธรรมชาติมากสำหรับเธอ เกมม่าแสดงออกว่าทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเธอไม่เพียงแต่เป็นผู้ปกป้องเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ให้คำแนะนำและการสนับสนุนในเรื่องจิตวิญญาณและเรื่องในชีวิตประจำวันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น เธอเล่าว่าทูตสวรรค์จะช่วยเธอเตรียมตัวสารภาพบาปโดยนำความคิดมาสู่จิตใจของเธอและแม้กระทั่งบอกคำพูดเพื่อช่วยให้เธอแสดงความคิดของเธอออกมาได้

เกมม่าบอกว่าทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเธอมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจด้านชีวิตฝ่ายจิตของเธอ โดยมักจะตักเตือนเธอเมื่อเธอหลงออกจากเส้นทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์

เกมม่าจำช่วงเวลาที่เขาเตือนเธอถึงความสำคัญของความอ่อนน้อมถ่อมตนและความมีวินัยในตนเอง โดยพูดว่า “เธอไม่ละอายที่จะทำบาปต่อหน้าฉันหรือ?”

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ที่ไม่เพียงแต่เป็นผู้ปกป้องเท่านั้น แต่ยังเป็นครูที่ชี้นำเกมม่าสู่ความสมบูรณ์ครบครันฝ่ายจิตวิญญาณอีกด้วย

แหล่งที่มา: 1. Catholic Encyclopedia 2. Lives of the Saints

วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2568

การาบังดาล จดหมายจากคุณพ่อปีโอ


ในรูป : คอนชิต้า กอนซาเลส,มารี ครูซ กอนซาเลส,มารี โลลิ เมสัน,จาชินทา กอนซาเลส

วันนี้ในประวัติศาสตร์การาบังดาล: 3 มีนาคม 1962 จดหมาย (ฉบับแรก) จากพระสงฆ์กาปูชินชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียงที่มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์,นักบุญคุณพ่อ ปีโอแห่งปิเอเตรลซินา ถึงบรรดาเด็กที่เห็นแม่พระแห่งการาบังดาล

ใน "วันเสาร์แรก" ของเดือนมีนาคมนี้ คอนชิตาได้รับจดหมายที่ส่งถึงเด็กทั้งสี่คนในหมู่บ้าน จดหมายนั้นมาจากคุณพ่อปีโอ การประจักษ์ได้ยืนยันกับคอนชิตาในระหว่างที่เธออยู่ในสัมพันธญาณในวันเดียวกันนั้น โดยจดหมายนั้นบอกพวกเขาว่า:

"ลูกๆที่รัก เช้านี้เวลาเก้าโมง พระแม่มารีย์ทรงขอให้พ่อบอกกับพวกลูกดังนี้: 'เด็กหญิงตัวน้อยผู้ได้รับพระพรแห่งซานเซบาสเตียน เดอ การาบังดาล! พ่อขอสัญญาว่าจะอยู่กับพวกลูกจนกว่าจะสิ้นยุค และพวกลูกจะอยู่กับพ่อจนกว่าสิ้นโลก จากนั้นพวกลูกจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพ่อในความรุ่งโรจน์ของสวรรค์' "

“พ่อได้ส่งสำเนาสายประคำแห่งฟาติมาซึ่งพระแม่มารีย์ขอให้พ่อส่งมาให้ลูก สายประคำเป็นสิ่งที่พระแม่มารีย์ทรงมอบให้แก่พวกเราและต้องทำให้เป็นที่รู้จักเพื่อช่วยคนบาปและเพื่อปกป้องมนุษยชาติจากการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่พระเจ้าจะทรงส่งมา

“พ่อมีคำแนะนำเพียงข้อเดียวคือ จงสวดภาวนาและทำให้คนอื่นสวดภาวนาด้วย เพราะโลกกำลังอยู่บนขอบเหวแห่งความพินาศ “ประชาชนจะไม่เชื่อลูก พวกเขาไม่เชื่อในการสนทนาของลูกกับพระแม่มารีย์ . . . “ประชาชนจะเชื่อเมื่อถึงเวลาที่สายเกินไปแล้ว”

ตัดตอนมาจากหนังสือ 'Garabandal' โดย J. Serre หน้า 125

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2568

พระสงฆ์เมียนมาถูกฆ่า


ACI Prensa Staff, 25 ก.พ. 2025 
สตรีสองคนที่เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมคุณพ่อโดนัลด์ มาร์ติน เย เนียง วิน(Father Donald Martin Ye Naing Win)ในเมียนมาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เล่าให้ฟังว่าพระสงฆ์ผู้นี้ “เผชิญหน้ากับชายติดอาวุธอย่างไม่เกรงกลัว”

สำนักข่าว Fides ซึ่งเป็นสำนักข่าวของสันตสำนักได้รายงานว่า พยานทั้งสองคน ซึ่งเป็นครูและคนงานวัดที่วัดแม่พระแห่งลูร์ดในหมู่บ้าน Kangyi Taw กล่าวว่าเมื่อกลุ่มทหารอาสาสมัครราว 10 คนซึ่ง “เมาสุราหรืออยู่ภายใต้อิทธิพลของยาอย่างชัดเจน” พบกับคุณพ่อ เย เนียง วิน พวกเขาสั่งให้ท่านคุกเข่า

คุณพ่อตอบหัวหน้ากลุ่มทหารติดอาวุธอย่างใจเย็นว่า “ผมคุกเข่าต่อหน้าพระเจ้าเท่านั้น” จากนั้นท่านจึงถามพวกเขาว่า “ผมจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง มีอะไรที่เราจะคุยกันได้ไหม”

ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็ฟันคุณพ่อ เย เนียง วิน จากด้านหลังด้วยมีดสั้นที่ยังอยู่ในฝัก อย่างไรก็ตาม ด้วยการโจมตีครั้งนี้ คุณพ่อได้ตีผู้นำกลุ่มทหารติดอาวุธโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย ผู้นำทหารซึ่งเมาสุราและเพราะคำตอบที่พระสงฆ์ตอบ ก็ชักมีดออกมาแล้วแทงคุณพ่อ “ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างโหดร้ายทั้งร่างกายและลำคอ”

คุณพ่อ เย เนียง วิน อดทนต่อการโจมตีอย่างเงียบๆ “เหมือนลูกแกะที่ถูกจูงไปฆ่า” พยานกล่าว

สำนักข่าวฟิเดสราบงานต่อไปว่า “คุณพ่อโดนัลด์ไม่พูดหรือคร่ำครวญอะไร ท่านอดทนกับความรุนแรงที่ไร้เหตุผลโดยไม่ตอบโต้ใดๆ เหมือนผู้บริสุทธิ์” “ส่วนคนอื่นๆยืนดูการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น”

เมื่อการโจมตีสิ้นสุดลง “กลุ่มคนเหล่านั้นก็ออกจากที่เกิดเหตุ” หน่วยงานของพระสันตปาปากล่าวเสริม

ชาวบ้าน “ท่ามกลางความตกใจและน้ำตา” ได้นำร่างของพระสงฆ์ไปล้างและปฏิบัติต่อท่านด้วยเกียรติและความเคารพ

สำนักข่าว Fides รายงานว่า คำให้การของหญิงทั้ง 2 ได้รับการบันทึกและส่งไปยังรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของเมียนมาร์ ซึ่งระบุว่ารัฐบาลรู้สึก “เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการฆาตกรรมของบาทหลวงประจำตำบลโดนัลด์ มาร์ตินแห่งมัณฑะเลย์” และให้คำมั่นว่าจะ “ลงโทษผู้ก่อเหตุฆาตกรรมตามกฎหมาย”

กองกำลังป้องกันประชาชนของเขตชเวโบประกาศจับกุมผู้ต้องสงสัย 10 คน ซึ่งพวกเขาระบุว่าเป็นสมาชิกของ “กลุ่มป้องกันท้องถิ่น”

ที่มา : https://bit.ly/3D8KZbM

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2568

พากเพียรภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระ


หญิงสาวผู้มีใจศรัทธาคนหนึ่งเป็นทุกข์โศกเศร้ากับการเสียชีวิตของบิดาของเธอ เขาเป็นนักปฏิวัติที่มุ่งมั่นซึ่งจมน้ำตายในแม่น้ำแซนเมื่อปี 1793 โดยชายสองคนซึ่งเป็นเพื่อนที่ได้ทรยศหักหลังเขา เขาถูกตามล่าโดยกะทันหันท่ามกลางชีวิตที่ชั่วร้าย ลูกสาวของเขาซึ่งลาออกจากงานได้ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเบอร์กันดี ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเพื่อทำงานเพื่อคนยากจนและสวดภาวนาอย่างไม่ลดละเพื่อบิดาผู้โชคร้ายของเธอ แม้ว่าเธอจะมีเหตุผลทุกประการที่จะกลัวว่าบิดาของเธอจะไม่ได้รับความรอด เธอมีความหวังเพียงเล็กน้อย แต่การสวดภาวนาเป็นการปลอบโยนที่แสนหวานและทรงพลังสำหรับหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและกตัญญูของเธอ

ในที่สุด หลังจากหลายปีผ่านไป บิดาของเธอก็ปรากฏตัวต่อเธอในวันหนึ่งเพื่อขอมิสซา เพราะเขาบอกกับเธอว่าเขาอยู่ในไฟชำระ พระเจ้าทรงประทานพระหรรษทานแก่เขาในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเพื่อให้เขาได้เห็นความชั่วร้ายในชีวิตที่ผ่านมา และด้วยจิตใจที่สำนึกผิดอย่างแท้จริง เขาได้วิงวอนขอพระเมตตาและการให้อภัยจากพระองค์ หญิงสาวรู้สึกได้รับการปลอบโยน เธอจึงรีบไปหาพระสงฆ์ประจำตำบล และขอร้องให้พระสงฆ์ประกอบพิธีมิสซาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

พระสงฆ์รีบทำตามคำร้องขอของเธอ โดยประกอบพิธีมิสซาเพื่อวิญญาณหลายครั้ง และอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา วิญญาณของชายผู้เคราะห์ร้ายก็ปรากฏตัวต่อลูกสาวของเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูสดใสและมีความสุข เขาพูดกับเธอว่า "พ่อขออวยพรลูก พ่อได้พ้นจากความทุกข์แล้ว และตอนนี้พ่อกำลังจะไปสวรรค์" ช่างเป็นการปลอบโยนและความสุขใจสำหรับหัวใจของหญิงสาวจริงๆ! การกระทำอันดีงามและคำอธิษฐานที่เธอได้กระทำ ซึ่งพระเจ้าทรงทราบล่วงหน้านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้วิญญาณของพ่อที่ทำผิดของเธอรู้สึกสำนึกผิดอย่างจริงใจ ทำให้เขาได้รับการช่วยให้รอดพ้นชั่วนิรันดร์ในชั่วโมงแห่งความตาย

Source: 30 Days For The Holy Souls