คุณพ่อกาเบรียล เอมอร์ท Fr Gabriele Amorth เป็นพระสงฆ์ผู้พิธีขับไล่ปีศาจแห่งกรุงโรม ท่านเคยทำพิธีนับร้อยครั้งในหลายปีที่ผ่านมา ท่านเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีชื่อ An Exorcist Tells His Story และ An Exorcist: More Stories. บทความข้างล่างนี้กล่าวถึง “อำนาจของซาตาน” โดยนำมาจากหนังสือ An Exorcist Tells His Story (pages 25-36)
........อ่านต่อ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา
  พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา
  พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)
วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ด้วยสายตาแห่งความเชื่อ
สายตาแห่งความเชื่อคืออะไร?
สายตาแห่งความเชื่อ
คือสายตาที่เราใช้มองดูสิ่งที่ไม่ใช่ของโลกนี้แต่เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่า เป็นสายตาที่มองไปในอนาคต เป็นสายตาที่สามารถแยกแยะสิ่งถูกและผิดและสามารถทำให้เห็นหนทางที่จะมุ่งไปสู่สิ่งที่ดี
เรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์ทั้งหมดบอกว่า พระเป็นเจ้าทรงยกย่องผู้มีความเชื่อ ความเชื่อหมายถึงความมั่นใจในพระเป็นเจ้า ยอมให้พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งต่อเราและนำทางเราไปในทุกแห่งทุกสถานการณ์ตามพระประสงค์ของพระองค์ ด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระองค์ และเป็นแผนการของพระองค์ที่ทรงมีต่อชีวิตของเรา
ถ้ามีบางคนพูดถึงบางเรื่องเกี่ยวกับคุณในทางที่ไม่ดี?
จงสลัดมันทิ้งไปเสียจากชีวิตของคุณเหมือนสลัดฝุ่นดินออกจากรองเท้าของเรา จงเรียนรู้ในเรื่องนี้เป็นอันดับแรก – คือสลัดละทิ้งสิ่งที่คนอื่นพูดหรือคิดถึงเราในทางที่ไม่ดี มีบางเวลาที่เราทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่บ่อยครั้งปีศาจจะล่อลวงให้เราทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง ทำให้เราตาบอดและเกิดความกลัว เพื่อทำให้เราหมดกำลังใจ
ทันทีที่มันปรากฏต่อเรา เราต้องรีบปฏิเสธมัน เราต้องขุดรากของมันออกจากใจของเราทันที
ถ้าเราทำเช่นนี้บ่อยๆ เราจะเรียนรู้วิธีในการกำจัดปีศาจได้ง่ายขึ้น
ขั้นต่อไป เราต้องมองตัวเองในแสงสว่าง อย่างที่พระเป็นเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นเรา
พระองค์ทรงรักเรายิ่งกว่าเรารักตัวเราเองเสียอีก จงมองดูตัวเองตามความเป็นจริง –
นี่เป็นพลังที่จะทำให้คุณกลายเป็นผู้รับใช้ที่ดีของพระเป็นเจ้าในนิรันดรภาพ พระเป็นเจ้าทรงทราบดีว่า ภายใต้เนื้อหนังแห่งร่างกายนี้ และส่วนลึกของชีวิตที่เต็มไปด้วยการดิ้นรนนี้
เป็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายในซึ่งพร้อมจะเปิดเผยออกมา เหมือนดังเช่นดักแด้ที่อยู่ในรังเส้นใย
ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะออกมาจากรังเส้นใยกลายเป็นผิเสื้อที่สวยงามบินโผผินไปในอากาศ
เราจะสวยงามเช่นนี้ได้อย่างไรหรือ? เราต้องกลับไปที่เรื่องสายตาแห่งความเชื่อ ด้วยสายตานี้เรามองข้ามความวุ่นวายของปัจจุบัน –
มองข้ามปัญหาทุกอย่าง – และหันไปมองดูสิ่งดีๆที่มีอยู่ สิ่งที่เราต้องการให้เกิด บุคคลที่เราต้องการเป็นเหมือนเขา
และถ้าสิ่งนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า สิ่งนั้นคือเส้นทางที่เราต้องเดินตาม
เมื่อเรายกสายตาของเราขึ้นมองข้ามบุคคลที่ทำร้ายเรา
มองข้ามการทดลองต่างๆของโลกไม่ว่ามันจะร้ายกาจสักเพียงใด นั่นเป็นเส้นทางเดินแห่งความรุ่งเรืองของเรา
บนกางเขน พระเยซูคริสต์ทรงทอดพระเนตรขึ้นเบื้องบน
สวรรค์อยู่ในจิตใจของพระองค์แม้ว่าพระองค์ทรงถูกตรึงอยู่บนกางเขน
และพระองค์ทรงมอบสวรรค์ให้แก่โจรที่ถูกตรึงพร้อมกับพระองค์
ในทางตรงข้าม ปีศาจต้องการให้เราสูญเสียความหวัง ต้องการให้เราหมดกำลังใจ
ต้องการให้เราคิดว่าเราตกต่ำจนไม่สามารถขึ้นมาจากหลุมแห่งความตกต่ำนั้นได้ มันพยายามขัดขวางเราไม่ให้สวดภาวนา แต่มันจะทำไม่สำเร็จถ้าเราจะสลัดมันทิ้งไปเสียด้วยการเอ่ยพระนามของพระเยซูเจ้า
เพราะฉะนั้นในครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกท้อแท้ใจ จงสลัดละความรู้สึกนั้น เริ่มต้นสวดภาวนา
ในการภาวนานี้ให้คุณมองตนเองและสภาพของคุณในแสงสว่าง มองดูปัญหาต่างๆของคุณที่ค่อยๆละลายหายไป มองดูพระคริสตเจ้าผู้ทรงกำลังพยุงคุณให้ลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ปีศาจจะมีอำนาจก็ต่อเมื่อคุณยอมมัน พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ปกครองเหนือทุกสิ่งและทุกสถานการณ์ พระองค์ทรงเป็นความยินดีและสันติสุข
ผู้ทรงกำลังรอคอยคุณและรักคุณมากเกินกว่าที่คุณคิด แต่พระองค์ทรงรอให้คุณยกสายตาแห่งความเชื่อของคุณขึ้น มองดูดินแดนแห่งความชื่นชมยินดีและเข้ามาสู่ดินแดนนี้
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558
An Exorcist Tells His Story 2/3
คุณพ่อกาเบรียล เอมอร์ท Fr Gabriele Amorth เป็นพระสงฆ์ผู้พิธีขับไล่ปีศาจแห่งกรุงโรม ท่านเคยทำพิธีนับร้อยครั้งในหลายปีที่ผ่านมา ท่านเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีชื่อ An Exorcist Tells His Story และ An Exorcist: More Stories. บทความข้างล่างนี้กล่าวถึง “อำนาจของซาตาน” โดยนำมาจากหนังสือ An Exorcist Tells His Story (pages 25-36)
........อ่านต่อ
........อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ถ้าพระเยซูเจ้่าเกิดเป็นชาวเกาหลี
พระเยซูเจ้าเป็นชาวยิว แต่ภาพวาดของพระเยซูเจ้าแสดงออกถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ บางทีเรื่องนี้อาจเป็นสัญญลักษณ์ในความจริงที่ว่าพระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อทุกชนชาติในโลก.....อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)