พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วันแห่งการพิพากษา

             บทเพลงลาตินในศตวรรษที่ 13 มีชื่อว่า "Dies Irae" (วันแห่งพระพิโรธ) กล่าวถึงการกลับมาครั้งที่ 2 ของพระคริสต์และการพิพากษา มีเสียงแตรดังขึ้น, คนตายกลับคืนชีพ, มนุษย์ทุกคนมาอยู่รวมกัน, พระคริสต์ทรงพิพากษาคนดีและคนชั่วตามการกระทำของตน
             เวลานั้น ผู้ชอบธรรมaจะยืนด้วยความมั่นใจเต็มที่
             เผชิญหน้ากับผู้ที่เคยกดขี่ข่มเหง
             และผู้ที่เคยดูหมิ่นความยากลำบากของเขา
             เมื่อคนอธรรมเห็นผู้ชอบธรรม ก็จะตกใจกลัวจนตัวสั่น
             แปลกใจเมื่อเห็นผู้ชอบธรรมได้รับความรอดพ้นอย่างที่ตนไม่เคยคาดหมาย
             เขาจะสำนึกผิด คร่ำครวญ จิตใจระทมทุกข์ พูดกันว่า
             ”ดูซิ นี่คือผู้ที่เราเคยหัวเราะเยาะ
             เราเคยคิดว่าเขาโง่เขลา ทำเขาให้เป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ย
             เราคิดว่าชีวิตของเขาเป็นความบ้า
             และความตายของเขาไร้ศักดิ์ศรี
             เหตุไฉนพระเจ้าจึงทรงนับเขาในหมู่บุตรของพระองค์
             และเขามีส่วนในชีวิตเช่นเดียวกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์
             พวกเราหันเหออกไปจากทางแห่งความจริง
             แสงสว่างแห่งความชอบธรรมไม่ได้ส่องเหนือเรา

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563

กลอุบายของซาตาน


ซาตานจะพยายามแบ่งแยกผู้ร่วมทีม,ทำให้สมาชิกในทีมแตกแยกกัน มันจะทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายฝ่ายวิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีจิตใจอ่อนไหว
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563

นักบุญพูดถึงแม่พระ 3


“จงอย่ากลัวว่าท่านจะรักพระแม่มารีย์มากเกินไป เพราะท่านไม่มีวันรักพระนางได้มากกว่าที่พระเยซูเจาทรงรักพระนางหรอก”
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563

การเตรียมฉลองวันคริสต์มาสในวาติกัน

             ที่จัตุรัสนักบุญเปโตรกำลังมีการเตรียมสำหรับวันคริสต์มาสโดยสร้างถ้ำพระกุมารและตั้งต้นคริสต์มาส การเตรียมการนี้เริ่มต้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันอาทิตย์แรกในเทศกาลคริสตสมภาพ
             รูปปั้นในถ้ำพระกุมารทำด้วยเซรามิคที่มาจากเมือง Castelli, in Abruzzo มีทั้งหมด 54 รูปตั้งอยู่ในพื้นที่ 125 ตรม.
             ต้นคริสต์มาสมาจากเมือง Slovenia ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ฟุตและสูงประมาณ 92 ฟุต
             พิธีเปิดจะจัดขึ้นภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค วันที่กำหนดคือ 11 ธันวาคมเวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นและจะนำโดยพระคาร์ดินัล Giuseppe Bertello ผู้เป็นประธานผู้ว่าการนครรัฐวาติกัน
             ต้นไม้และฉากการประสูติจะจัดแสดงจนถึงสิ้นเทศกาลคริสต์มาสซึ่งตรงกับงานเลี้ยงพิธีรับศีลน้ำของพระเยซูเจ้าในวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2021

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ความยำเกรงพระเจ้า



             ความยำเกรงพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของปรีชาญาณ บรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็ได้ความเข้าใจดี การสรรเสริญพระเจ้าดำรงอยู่เป็นนิตย์
              ภาพวาดพระราชินีคัทเธอรีนแห่งอเล็กซานเดรีย(Catherine of Alexandria – วาดโดย Maestro de Altura.)
             ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นบ่อเกิดแห่งปรีชาญาณ พระองค์ทรงเนรมิตปรีชาญาณให้อยู่กับผู้มีความเชื่อตั้งแต่ในครรภ์มารดา(บสร 1:14)

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563

นักบุญพูดถึงแม่พระ 2


“ถ้าหากพระเจ้าไม่ได้ทำลายมนุษย์ทันทีหลังจากการทำบาปครั้งแรก, นั่นก็เป็นเพราะความรักของพระองค์ที่มีต่อพระแม่มารีผู้นี้เท่านั้น”
>>>อ่านต่อ