พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระสันตปาปาในอิรัก

Pope Francis with the Grand Ayatollah Sayyid Ali Al-Husayni Al-Sistani
Vatican News
ตามแถลงการณ์ของสำนักข่าวสันตสำนัก, ในระหว่างการเสด็จเยื่ยมผู้นำศาสนาอิสลามของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งกินเวลาประมาณสี่สิบห้านาที “พระสันตปาปาทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างชุมชนทางศาสนาเพื่อการมีส่วนร่วมกัน โดยอาศัยการปลูกฝังความเคารพซึ่งกันและกันและการเสวนากัน เพื่อประโยชน์สุขของอิรัก,เพื่อความสงบของภูมิภาคและครอบครัวมนุษย์ทั้งมวล”
 
แถลงการณ์ยังกล่าวอีกว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่พระสันตะปาปาจะขอบคุณ อยาตอลลาห์ อัล – ซิสตานี,ผู้นำทางศาสนา,ที่ได้กล่าวแก่ชุมชนชีอะห์เพื่อปกป้องผู้ที่เปราะบางและถูกข่มเหงมากที่สุดท่ามกลางความรุนแรงและความยากลำบากครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและ เพื่อยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์และความสำคัญของความสามัคคีของชาวอิรัก”
 
ในการอำลาท่านอายาตอลลาห์,พระสันตะปาปากล่าวว่า พระองค์ยังคงอธิษฐานต่อไปขอให้พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนจะประทานอนาคตแห่งสันติภาพและความเป็นพี่น้องให้กับดินแดนที่รักของอิรัก,สำหรับตะวันออกกลางและสำหรับคนทั้งโลก
 

วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2564

กิจศรัทธาที่ถูกลืม


มีการกระทำผิดและการพูดดูหมิ่นต่อดวงหทัยนิรมลของพระมารดามารีย์อยู่ห้าประเภ
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระสันตปาปาเสด็จเยือนอิรัก


พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนอิรักระหว่างวันที่ 5 – 8 มีนาคม 2021 นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศมุสลิมที่สำคัญและอันตรายที่สุดครั้งหนึ่ง
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระสันตปาปาเยือนอิรัก

        ก่อนที่พระสันตปาปาฟรังซิสจะเดินทางไปอิรัก, ในวันพฤหัสบดี 5 มี.ค. 2021 พระองค์ได้ไปสวดภาวนาเบื้องหน้าพระรูปแม่พระ Maria Salus Populi Romani. ที่อาสนวิหาร Basilica of St. Mary Major และวอนขอความคุ้มครองในการเดินทางจากแม่พระ
         พระองค์จะเดินทางออกจากกรุงโรมในตอนเช้าวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่ 33 ของพระองค์ และจะอยู่ที่อิรักไปจนถึงวันที่ 8 มี.ค. พระรูปแม่พระนี้มาอยู่ที่กรุงโรมในปี 590 ระหว่างรัชสมัยของพระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่(Gregory the Great.)

วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระเยซูเจ้าเดินผ่านทุ่งข้าวสาลี


       พระเยซูท่ามกลางทุ่งข้าวสาลี วาดโดย J. R. Wehle, 1900 บรรยายฉากในมาระโก 2: 23-27 ที่กล่าวว่า พระเยซูเจ้าและบรรดาอัครสาวกกำลังเดินผ่านทุ่งข้าวสาลี พวกศิษย์รู้สึกหิวจึงเด็ดเมล็ดข้าวสาลี,บดบนมือและกิน พวกฟาริสีติดตามพระเยซูเจ้ามาด้วย,จึงถามพระเยซูเจ้าถึงการกระทำของบรรดาสาวก ซึ่งถือเป็นการทำงานในวันสะบาโต พระเยซูตอบว่า “วันสะบาโตมีไว้เพื่อมนุษย์ไม่ใช่มนุษย์มีไว้เพื่อวันสะบาโต”

วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564

อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่อิตาลี


          วันที่ 22 ก.พ. 2021 มีผู้ถ่ายวีดีโอเหตุการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงที่ผิดปกติเหมือนที่เมดจูกอเรจ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ PESCHIERA DEL GARDA - Sanctuary of the Madonna del Frassino ในอิตาลี Peschiera อยู่ทางด้านขวาของมิลานในอิตาลีห่างไปประมาณ 150 กม.... มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 10,000 คนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นเมืองท่องเที่ยว ผู้ที่เห็นให้ความเห็นว่าดวงอาทิตย์กำลังเต้นเหมือนหัวใจของแม่พระที่กำลังเต้นอยู่

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564

พวกเขาเชื่อฟังรัฐบาล,แต่ไม่เชื่อฟังเรา

         พระเยซูตรัสกับลุยซ่า ปิกค่าเรตต้า(ผู้รับใช้ของพระเจ้า)เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1915 ว่า
         “ลูกสาวของเรา,การลงโทษนั้นสาหัสมากนัก ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังไม่พิจารณาตัวเอง แต่พวกเขากลับทำเฉยเมยราวกับว่าพวกเขาเพียงแค่กำลังดูฉากภาพเหตุการณ์เท่านั้น,ไม่ใช่เรื่องจริง แทนที่ทุกคนจะมาหาเรา,ร้องไห้วิงวอนขอความเมตตาและการให้อภัยจากเรา พวกเขากลับตั้งใจฟังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ อา,ลูกสาวของเรา,ความชั่วร้ายของมนุษย์ช่างหนักหนาสาหัสเพียงใด! ดูสิว่าพวกเขาเชื่อฟังรัฐบาลแค่ไหน พระสงฆ์และฆราวาสไม่เรียกร้องอะไร พวกเขาไม่ปฏิเสธการเสียสละตนเอง และพร้อมที่จะมอบชีวิตของตนเอง [เพื่อรัฐบาล] ... อา,แต่สำหรับเรา, ไม่มีการเชื่อฟังและไม่มีการเสียสละตนเองให้ และถ้าพวกเขาทำอะไรให้,มันก็เป็นเพียงการเสแสร้งและเพื่อหาผลประโยชน์มากกว่า นี่เป็นเพราะรัฐบาลออกกฎบังคับ แต่เราใช้ความรัก,ความรักนี้จึงถูกมองข้ามโดยมนุษย์ พวกเขายังคงเฉยเมยราวกับว่าเราไม่สมควรได้รับอะไรจากพวกเขา!”
          ขณะที่พระองค์ตรัสเช่นนี้,พระองค์ทรงกรรแสง ช่างเป็นความทุกข์ทรมานที่โหดร้ายจริงๆที่เห็นพระเยซูเจ้าทรงกรรแสง! จากนั้นพระองค์ตรัสต่อไป:“เลือดและไฟจะชำระล้างทุกสิ่งให้บริสุทธิ์และจะทำให้มนุษย์กลับใจ ยิ่งเขาล่าช้าลังเล,เลือดก็จะยิ่งหลั่งออกมามากขึ้นและการสังหารก็จะเป็นเช่นที่มนุษย์ไม่คาดคิดมาก่อน” ในขณะที่ตรัสสิ่งนี้พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงการสังหารของมนุษย์ ... ช่างเป็นความทรมานที่ต้องมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้! แต่ขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าจงสำเร็จไปเถิด —จาก Book of Heaven เล่ม 11