พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

           พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา
(มาระโก 16:15-20)








วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2566

ข้อคิดรำพึงจากนักบุญ


“ความเชื่อมั่นของเราในพระเจ้าต้องตั้งอยู่บนความดีอันไม่มีขอบเขตของพระองค์,ในฤทธิ์อำนาจแห่งพระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์  โดยมีเงื่อนไขคือ เราต้องรักษาและตระหนักถึงปณิธานอันแน่วแน่ที่จะเป็นของพระเจ้าทั้งครบและละทิ้งตนเองในทุกสิ่งโดยไม่สงวนสิ่งใดไว้สำหรับตนเอง,แต่ไว้วางใจในพระาณเอื้ออาทรของพระเจ้าเท่านั้น  ข้าพเจ้าขอบอกว่าเราต้องไม่เพียงแต่รู้สึกปรารถนาปณิธานนั้น  แต่เราต้องมีปณิธานนี้และตระหนักถึงสิ่งนี้ในตัวของเราเอง  เราต้องไม่กังวลกับสิ่งที่เรารู้สึกหรือไม่รู้สึก  เพราะส่วนใหญ่ของความรู้สึกและความพึงพอใจของเรานั้นเป็นเพียงการเคลื่อนไหวของความรักตนเอง  ในการละทิ้งและไม่สนใจต่อสิ่งอื่นทั้งหมดนั้น,เราจะต้องไม่มีความปรารถนาใดที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า  เราจะต้องไม่ละไปจากพระทัยดีของพระองค์  เพราะสิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง  คุณธรรมของการละทิ้งและไม่สนใจต่อสิ่งอื่นนั้นอยู่ในขอบเขตที่สูงขึ้นไปของจิตวิญญาณของเรา  สำหรับส่วนลึกที่สุดของจิตใจนั้น,เราไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรกับมัน,จิตใจของเราต้องอยู่ในสันติและไม่ใส่ใจต่อสิ่งที่ธรรมชาติเบื้องล่าง(เนื้อหนัง)ปรารถนา  เราต้องน้อมรับน้ำพระทัยจากเบื้องบนและเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์—ไม่ว่าสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งสิ่งใดก็ตาม มีน้อยคนนักที่จะมาถึงจุดสูงสุดของการละทิ้งตนเองอย่างสมบูรณ์  กระนั้นก็ตาม,เราทุกคนต้องมุ่งไปสู่สิ่งนี้,ด้วยมาตรการเล็กๆน้อยๆของแต่ละคน”

—นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์,

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566

สุขสันต์วันปีใหม่ 2023




“อีกไม่นานข้าพเจ้าก็จะไปยืนอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้พิพากษาสูงสุดแล้ว แม้ว่าข้าพเจ้าจะมีเหตุผลมากมายที่จะกลัวและกลัว,เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ยืนยาวของข้าพเจ้า อย่างไรก็ตาม,ข้าพเจ้าก็มีความสุข,เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าพระเจ้าไม่ได้เป็นเพียงผู้พิพากษาที่ทรงธรรมเท่านั้น, แต่พระองค์ยังทรงเป็นมิตรสหายและพี่น้องที่ทนทุกข์กับความบกพร่องของข้าพเจ้าด้วย และโดยที่ในฐานะผู้พิพากษา,พระองค์ก็ทรงเป็นทนายของข้าพเจ้าด้วย (Paraclitus) เมื่อคำนึงถึงช่วงเวลาแห่งการพิพากษา, ความสง่างามของการเป็นคริสตชนก็ปรากฏชัดแก่ข้าพเจ้า การเป็นคริสตชนทำให้ข้าพเจ้ามีความรู้และมีมิตรภาพมากขึ้นกับองค์พระผู้พิพากษาชีวิตของข้าพเจ้า และทำให้ข้าพเจ้าสามารถเดินผ่านประตูมืดมิดแห่งความตายได้อย่างมั่นใจ ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าจำสิ่งที่ยอห์นกล่าวในตอนต้นของวิวรณ์ได้ตลอดเวลา นั่นคือ: ข้าพเจ้าเห็นบุตรแห่งมนุษย์ในสง่าราศีทั้งหมดของเขา และล้มลงแทบเท้าของเขาเหมือนคนตาย แต่เขาวางมือขวาบนตัวข้าพเจ้า กล่าวว่า 'อย่ากลัวเลย ... ' (เปรียบเทียบ วว.1:12-17)  

เพื่อนที่รัก ด้วยความรู้สึกเหล่านี้ ข้าพเจ้าขออวยพรทุกท่าน 

สาส์นของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ถึงสังฆมณฑลแห่งมิวนิก,เยอรมนี 
วันที่ 8 ก.พ. 2022  

พระสันตปาปาทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค. 2022 เวลา 9.34 น.(วาติกัน)

ขอดวงวิญญานของพระองค์ได้พักผ่อนในสันติสุขกับพระเจ้าในสวรรค์เทอญ

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565

คำแนะนำสู่ชีวิตศรัทธา 3/6


ความต่ำต้อยคือความยากจน,ความเลวร้ายและความเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวเรา
>>>อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565