พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2566

วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566

วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์


นิมิตเกี่ยวกับชีวประวัติของพระเยซูเจ้าและแม่พระโดยอันนา คัทรีน เอมเมอริก
>>>อ่านต่อ

วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566

เสื้อคลุมของพระสันตะปาปา


กล่าวกันว่าในปี 1947 คุณพ่อปีโอได้ทำนายพระสงฆ์หนุ่มวอยติยา ซึ่งก็คือพระสันตะปาปายอห์นปอลที่2ในอนาคตว่า เขาจะถูกลอบสังหาร “ท่านจะเห็นเสื้อคลุมสีขาวของท่านเปื้อนไปด้วยเลือด” 
ในปี 1981 ได้มีความพยายามลอบสังหารพระสันตะปาปายอห์นปอลที่2 ขณะที่อยู่จัตุรัสนักบุญเปโตร โดยมือปืนอาลี อักกา 
รูปภาพเสื้อคลุมของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ที่ปรากฏรอยเลือดอยู่  
 

วันอังคารที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2566

เศรษฐีกับลาซารัส


ชายยากจนผู้นั่งอยู่หน้าประตูเพื่อขอเศษอาหารจากงานเลี้ยงหรูหราของเศรษฐี เขาขาดแคลนทุกสิ่ง แต่เขามีชื่อว่า ลาซารัส ส่วนเศรษฐีที่จัดงานเลี้ยงทุกวันมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เขากลับไม่มีชื่อ นี่เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับทุกคน มนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่เขามี แต่เป็นสิ่งที่เขาเป็น มันคือความตายที่กลายเป็นจุดจบของคำกริยา “มี” และจุดเริ่มต้นทั้งหมดของคำกริยา “เป็น” หากเราใช้ชีวิตทั้งชีวิตโดยลืมไปว่าเราเป็นใครและใช้ชีวิตเพียงเพื่อสิ่งที่เรามี ในที่สุดเราจะค้นพบว่าโดยพื้นฐานแล้วนรกคือการมีชีวิตอยู่โดยการยกเลิกกริยาของเราที่จะเป็น พระวรสารนำเราไปสู่มิติแห่งชีวิตหลังความตายและแสดงให้เราเห็นว่าแม้แต่การกล่าวโทษในนรกก็เปลี่ยนจิตใจของเศรษฐีไม่ได้ เขาวอนขออับราฮัมว่าลาซารัสสามารถมาหาเขาได้เพื่อที่ลาซารัสจะได้บรรเทาทุกข์ความทรมานของเขา เศรษฐีไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าลาซารัสเป็นบุคคลที่ควรรัก,ให้ความช่วยเหลือและไม่ใช่สิ่งของที่จะใช้สนองความต้องการ และนั่นเป็นประตูสำหรับเขาที่จะเข้าสู่ความพินาศนิรันดร!  
 

วันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2566

นักบุญแองเจลา เมริชี


เมื่อนักบุญแองเจลา เมริชีอายุได้ 32 ปีและเป็นสตรีฆราวาส เธอได้รับนิมิตซึ่งเธอเห็นบันไดทอดขึ้นไปสู่สวรรค์และมีหญิงสาวและทูตสวรรค์จำนวนหนึ่งเดินขึ้นและลง หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาหาเธอและพูดกับเธอว่า "รู้ไว้เถิด แองเจลา พระเยซูเจ้าทรงส่งนิมิตนี้มาสอนเธอว่าก่อนที่เธอจะตาย เธอจะพบกลุ่มหญิงสาวพรหมจารีย์เช่นนี้ในเบรสเซีย(Brescia) นี่คือพระประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อเธอ" บรรดาสตรีที่มาเข้าร่วมกับแองเจลาในงานสอนคำสอนยังคงใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของพวกเขา และไม่ต้องทำสัตย์ปฏิญาณ พวกเขาเพียงแต่มารวมตัวกันเพื่อสวดภาวนาและสอนหนังสือเท่านั้น หลังจากการเสียชีวิตของนักบุญแองเจลา,นักบุญชาร์ลส์ บอร์โรเมโอ,พระสังฆราชแห่งมิลาน,ได้จัดกลุ่มฆราวาสขึ้นใหม่เป็นองค์กรทางศาสนา ซึ่งในที่สุดได้พัฒนาเป็นคณะอุร์สุลิน ซึ่งเป็นคณะแรกในพระศาสนจักรที่อุทิศตนในการสอนหนังสือ  

# Catholic 4 Life

 

วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2566

Alois Irlmaier ผู้ได้รับพระพรพิเศษ


เมื่อดูรูปถ่ายของบุคคลเหล่านี้,เขารู้ทันทีว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

การทรมานกายเพื่อเอาชนะตนเอง


เราจึงต้องร่วมมือกับพระองค์ด้วยจิตใจอิสระในเรื่องคุณธรรมแห่งการทรมานกายเพื่อเอาชนะตนเองเพื่อให้ชีวิตฝ่ายจิตพัฒนาอย่างเต็มที่
>>>อ่านต่อ