พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ซิสเตอร์ เซซีเลีย

รูปภาพนี้กระจายไปทั่วโลกในอินเตอร์เน็ต  เป็นรูปถาพที่ถ่ายขณะสิ้นใจของซิสเตอร์ เซซีเลีย มาเรีย แห่งคาร์เมลไลท์  ภาพหนึ่งภาพเล่าเรื่องได้มากมาย
หลังจากเจ็บป่วยเป็นเวลานาน  ซิสเตอร์ เซซีเลีย ก็สิ้นใจในความยินดีชื่นบาน
เรื่องนี้มาจาก Aleteia’ ในภาคภาษาสเปน
            ถึงแม้จะเจ็บป่วย แต่ซิสเตอร์เซซีเลีย ก็ยังคงมีใจร่าเริง  เธอได้รับแรงใจจากสมาชิกในครอบครัวที่มาเยี่ยมเยียน  หลานชายและหลานสาวอยู่ที่สวนด้านนอกของโรงพยาบาล  และเธอส่งสาส์นด้วยลูกบอลลูนฮีเลียมไปให้พวกเขาจากทางหน้าต่าง
            ความร่าเริงยินดีของเธออาจอธิบายได้จากตอนที่เธอกำลังสวดภาวนาเพื่อรวมใจไปกับพิธีมิสซาในโบสถ์น้อยของโรงพยาบาล  เธอทำเหมือนกับได้ร่วมอยู่ในพิธีมิสซาซึ่งกระทำเสมอๆขณะที่อยู่ที่อาราม Carmel of Villa Pueyrredon ในกรุงบัวโนสไอเรส ของประเทศอาร์เจนตินา
            เมื่อเดือนที่ผ่านมานี้ความเจ็บป่วยทำให้เธอไม่สามารถพูดได้  และความอ่อนแอของร่างกายทำให้เธอไม่สามารถไปร่วมพิธีมิสซาได้
            ผู้ที่อยู่ในเวลาที่เธอสิ้นใจ ได้เห็นใบหน้าของเธอซึ่งเต็มไปด้วยความยินดีและสันติสุข  ราวกับว่าเธอได้พบผู้ที่เธอรอคอยแล้ว  ผู้ที่เธอได้มอบชิวิตของเธอให้ – พระเยซูเจ้า  พระเจ้าของเรา
            “ดิฉันรู้สึกประหลาดใจมาก”  ซิสเตอร์เซซีเลีย เขียนไว้ในเดือนพฤษภาคม “ในผลงานของพระผู้เป็นเจ้าโดยผ่านทางความทุกข์ยากลำบาก  และโดยผ่านทางคนจำนวนมากที่ได้สวดภาวนาเพื่อดิฉัน”
            แม้แต่พระสันตปาปาฟรังซิส ก็ยังได้บอกแก่เธอว่า พระองค์ทรงสวดภาวนาเพื่อเธอด้วย  พระองค์ตรัสว่า  ทรงทราบถึงการถวายตัวของเธอและพระองค์ทรงรักเธอมาก
            พี่สาวของเธอซึ่งอยู่ในอาราม Carmel of Santa Fe กล่าวไว้อาลัยแก่เธอในพิธีฝังว่า “ เวลาที่สิ้นใจ  เธอค่อยๆหลับไปในพระเจ้า  หลังจากได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสในความเจ็บป่วย  แต่เธออดทนรับด้วยความยินดี และยอมรับทุกสิ่งจากองค์เจ้าบ่าวสวรรค์ของเธอ”

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความถ่อมตนและการแบ่งปัน


 
ที่สนามบินนานาชาติ มีนักธุรกิจสาวบุคลิกดีคนหนึ่ง จำเป็นต้องรอเวลาเครื่องออก อีก 2 ชั่วโมง ในการเปลี่ยนเครื่อง เพื่อไปปลายทาง เธอจึงได้ซื้อหนังสืออ่านเล่น และคุกกี้ 1 ห่อ แล้วก็หาที่นั่งเพื่ออ่านและกินคุกกี้ฆ่าเวลา
เนื่องจากบริเวณที่นั่งรอเครื่องนั้นมีผู้คนมาก เธอจึงมองหาที่นั่ง และเจอที่นั่งที่หนึ่ง เธอสังเกตเห็นว่าข้างๆเธอมีชายหนุ่ม นั่งสบายเหยียดขาอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจใคร ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้างๆ เขา แต่เธอก็ได้ไปนั่งที่ข้างๆชายหนุ่มนั่น เนื่องจากไม่มีที่ว่างอื่นๆแล้ว
สักครู่หนึ่ง ขณะที่เธออ่านหนังสือ ชายหนุ่มก็หยิบคุ๊กกี้ออกมาจากถุงที่วางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง แล้วกินมันทีละชิ้น เธอมองด้วยความ งุนงง ปนโกรธ แต่ไม่ต้องการมีปัญหา เธอจึงข่มใจและทำเป็นไม่สนใจ
เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ารอเวลา ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย กำลังกินคุ๊กกี้เรื่อยๆ เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า ถ้าหากฉันไม่ใช่คนมีชาติกระกูล และการศึกษาสูงล่ะก็ ฉันจะชกหน้าหมอนี่ให้หายซ่าเลย
ทุกครั้งที่เธอหยิบคุ๊กกี้ขึ้นมากิน ชายหนุ่มก็หยิบมันกินเช่นกัน ทั้งสองสบตากัน เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มนั่นจะทำอย่างไร
ชายหนุ่มค่อย ๆ หยิบคุ๊กกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็นสองท่อน ส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น
เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า ช่างเป็นผู้ชายที่ไร้มารยาทจริงๆ ไร้การศึกษา จะขอบคุณซักคำก็ไม่มี
ต่อมาก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของแล้วเดินไปที่ทางออกขึ้นเครื่อง ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองชายหัวขโมย ผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่แล้ว เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอ่านต่อ ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ
เธอตกใจมาก….ถ้าคุกกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ งั้นก็แปลว่าคุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกิน!!
เธอลุกขึ้นทันที แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม
ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ เธอเองนั่นแหล่ะที่ไร้มารยาท เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง
จะมีซักกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ใช่อย่างที่เราคิด แต่มันเป็นการเข้าใจผิด
มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น และเราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากนัก
นี่แหละที่ทำให้เราควรต้องคิดทบทวนให้แน่ใจ ก่อนตัดสินผู้อื่น เพราะหลายๆสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ควรมองผู้อื่นในแง่ดี แล้วคอยสงสัยตัวเองว่า
เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?”
เราได้เคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือเปล่า?”

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความบากบั่นอดทน


หนุ่มบ้านนอกยากจนคนหนึ่งเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ  เขาไปสมัครงานเป็นภารโรงในโรงเรียนแห่งหนึ่งแต่กลับถูกปฏิเสธ  ด้วยสาเหตุที่ว่า เขาอ่านและเขียนหนังสือไม่ได้  เพราะตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อนเลย
หนุ่มบ้านนอกได้แต่เดินออกจากโรงเรียนที่ตั้งความหวังว่าจะได้งานทำนั้นอย่างเงื่องหงอย  เขากลับบ้านนอกด้วยความผิดหวัง
เมื่อกลับถึงบ้านจึงนึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นเพิ่งได้รับมรดกเป็นที่ดินสวนรกร้างเล็กๆมาจากพ่อผู้ล่วงลับไปแล้วด้วยความเจ็บใจจึงเกิดเป็นแรงมานะ ให้จับจอบเสียมหักร้างถางพง ที่ดินสวนเก่าที่รกร้างนั้นและค่อย ๆ พลิกฟื้นลงร่องผลไม้ไปทีละเล็กละน้อยอย่างฮึดสู้ชะตาชีวิต ด้วยความอดทน. . .จนสามารถเก็บเงินซื้อที่ดินในแปลงข้างเคียงขยายอาณาเขตสวนของตนเองกว้างขึ้น...เวลาผ่านไปเขากลายเป็นชายชราที่ร่ำรวย
อยู่มาปีหนึ่งเมื่อขายผลไม้ได้มากมาย  ชายชราก็หอบเงินไปที่ธนาคารในตัวอำเภอเพื่อขอเปิดบัญชีกับธนาคารเป็นครั้งแรก
ผู้จัดการสาขาเดินมาต้อนรับลูกค้าใหญ่รายใหม่ อย่างนอบน้อม  แล้วยื่นใบเปิดบัญชีพร้อมปากกาปลอกทองให้กับชายผู้ชราอย่างพินอบพิเทา พลางพูดขอให้กรอกใบสมัครให้
ชายชราส่ายหน้าช้าๆยื่นปากกาปลอกทองคืนให้กับผู้จัดการพร้อมกับยิ้มให้ กล่าวว่า
พ่อหนุ่มช่วยกรอกรายการให้ลุงทีเถิด ลุงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้หรอก...
ผู้จัดการรับปากกาคืนมาแบบงงๆพลางถามลูกค้ารายใหญ่อย่างเกรงใจ
“...เอ่อ......พวกเราทราบถึงชื่อเสียงของท่านในกิจการสวนผลไม้....แต่ท่านอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนหนังสือไม่ได้ หรือครับ...
“...พ่อหนุ่ม” ชายชรายิ้มให้ผู้จัดการสาขาของธนาคารอย่างใจดี  “...ถ้าลุงอ่านหนังสือออก และเขียนหนังสือได้น่ะนะ...
แกถอนหายใจยาวก่อนจะพูดว่า
“...ป่านนี้ ลุงก็คงได้เป็นภารโรงไปแล้วละ...

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เด็กที่ฝากผลงานไว้ให้โลก4

Claudette Colvin
ฉันจะไม่ลุก เพื่อรักษาสิทธิของความเท่าเทียมกันของมนุษย์



คุณกล้าที่จะต่อสู้กับสิ่งผิดๆ ในสังคมเห็นเป็นเรื่องปรกติหรือไม่?
เรื่องราวของ Claudette Colvin เด็กสาวผิวสีอายุเพียง 15 ปี ในสหรัฐอเมริกา นั่งรถบัสกลับบ้านตามปรกติ ซึ่งในยุคนั้น สิทธิของคนผิวดำมีน้อยมาก เรียกได้ว่าเป็นคนละชนชั้นกับคนผิวขาวเลย ทั้งการจำกัดอาชีพ บริการสาธารณะต่างๆ หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Help จะยิ่งเห็นภาพ เช่นการแบ่งห้องน้ำระหว่างเจ้านายผิวขาวและลูกจ้างผิวสี รวมถึงการขึ้นรถบัสประเภทหนึ่งคือรถบัสแบ่งแยกสีผิว ที่มีกฏว่าคนผิวสีจะต้องลุกให้คนผิวขาวนั่ง แม้จะมานั่งก่อนก็ตาม ซึ่งคงมองกันว่าเป็นกฏที่ปรกติธรรมดาในสมัยนั้น
แต่ Colvin ไม่คิดเช่นนั้น
เธอปฏิเสธและยืนกรานที่จะไม่ปฏิบัติตามกฏนั้น เธอไม่ลุกให้คนผิวขาวนั่ง ซึ่งการปฏิเสธเช่นนี้ทำให้ต้องถูกดำเนินคดี แต่เธอก็ต่อสู้คดีจนถึงศาลสูงสุด
การต่อสู้ของเธอสำฤทธิ์ผล.. ในที่สุดศาลก็มีคำสั่งให้ ยกเลิกรถบัสแบ่งแยกสีผิว จะต้องไม่มีการให้คนผิวใดลุกให้คนผิวใดอีก นี่เป็นดั่งจุดเริ่มต้นจุดหนึ่งที่นำไปสู่แรงกระเพื่อมทางสังคม และมีเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมายหลังจากนั้น จนนำไปสู่ค่านิยมการไม่แบ่งแยกผิวสีและเชื้อชาติตราบจนทุกวันนี้ จากคำปฏิเสธเล็กๆ ของเด็กสาวอายุ 15 ปี

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สาส์นแม่พระ2+25มิ.ย.2016

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 มิ.ย. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
จงขอบพระคุณพระเป็นเจ้าพร้อมกับแม่เถิดสำหรับพระพรที่ทรงอนุญาตให้แม่มาอยู่กับพวกลูก  
ลูกน้อยทั้งหลาย  จงสวดภาวนาและปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกลูกบนโลกนี้ 
วันนี้เป็นวันแห่งพระหรรษทาน  แม่ปรารถนาที่จะมอบคำอวยพรแห่งสันติภาพและความรักของแม่แก่พวกลูก
แม่ได้เข้าแทรกแซงช่วยเหลือเพื่อพวกลูกต่อองค์พระบุตรของแม่
และแม่ขอให้พวกลูกสวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อที่แม่พร้อมกับพวกลูกจะได้ตระหนักถึงแผนการณ์ของแม่

ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
 
สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 มิ.ย. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในฐานะมารดาของพระศาสนจักรและในฐานะมารดาของลูก  แม่กำลังยิ้มขณะที่มองดูพวกลูกที่กำลังมาหาแม่และมารวมกันอยู่รอบๆแม่  พวกลูกกำลังแสวงหาแม่ 
การที่แม่มาหาพวกลูกเป็นการพิสูจน์ถึงความรักของสวรรค์ที่มีต่อพวกลูกว่ามีมากสักเพียงไร  
และเป็นการแสดงให้ลูกเห็นหนทางที่จะไปสู่ชีวิตนิรันดร  ไปสู่ความรอดพ้น 
อัครสาวกของแม่เอ๋ย,พวกลูกซึ่งเพียรพยายามทำให้หัวใจบริสุทธิ์และให้พระบุตรพำนักอยู่ในหัวใจนั้น 
พวกลูกกำลังอยู่ในหนทางที่ดีแล้ว 

ลูกที่กำลังแสวงหาองค์พระบุตรของแม่ก็กำลังแสวงหาหนทางที่ดี 
ระองค์ทรงให้หมายสำคัญหลายอย่างของความรักของพระองค์  พระองค์ประทานความหวัง 
เป็นการง่ายมากที่จะพบกับพระองค์ถ้าหากลูกพร้อมที่จะทำพลีกรรมและทำการใช้โทษบาป—ถ้าหากลูกมีความอดทน  มีความเมตตาและความรักต่อเพื่อนบ้าน 
ลูกหลายคนของแม่มองไม่เห็นและไม่ได้ยินก็เพราะพวกเขาไม่ต้องการ  พวกเขาไม่ต้องการยอมรับวาจาสั่งสอนและกิจการของแม่  อย่างไรก็ตามโดยอาศัยแม่,องค์พระบุตรทรงเรียกพวกลูกทุกคน 
พระจิตของพระองค์ส่องสว่างในบรรดาลูกทั้งหลายของแม่  ในแสงสว่างของพระบิดาสวรรค์ ,ในความเป็นหนึ่งเดียวของสวรรค์และโลก,ในความรักซึ่งกันและกัน---เพราะความรักเรียกร้องความรักและทำให้กิจการสำคัญมากกว่าคำพูด
เพราะฉะนั้น,อัครสาวกทั้งหลายของแม่,จงสวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักรของลูก,จงรักพระศาสนจักรและทำกิจการแห่งความรัก  ไม่ว่าจะประสบกับการทรยศหรือได้รับบาดเจ็บก็ตาม 
พระศาสนจักรดำรงอยู่ ณ.ที่นี้ เพราะพระศาสนจักรมาจากพระบิดาสวรรค์ 
จงสวดภาวนาเพื่อนายชุมพาบาลของลูก  เพื่อที่ลูกจะมองเห็นความรักอันยิ่งใหญ่ขององค์พระบุตรของแม่ในบรรดาพวกท่านเหล่านั้น
ขอขอบใจลูก

ท่าทางของมือในรูปไอคอน


เมื่อคุณดูรูปไอคอน  ลองหาความหมายซี่งสื่อเป็นภาษาที่แฝงอยู่ในนั้น

>>>อ่านต่อ 

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สงครามฝ่ายจิต

ในขณะที่เรากำลังทำสงครามเพื่อปกป้องความเชื่อของเรา  พระเจ้า,บรรดานิกรเทวดา  และองค์พระคริสตเจ้าเอง กำลังเฝ้ามองดูเรา
>>>อ่านต่อ