พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2565

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565

กษัตริย์นักบุญเฮนรี่แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์


เฮนรี่ผู้ได้รับเลือกจากพระเจ้า,จงลุกขึ้นยืนและรับการจุมพิตที่พระคริสต์ทรงประทานส่งมาให้ท่านด้วยความยินดีเถิด
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2565

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2565

บุญราศีอิซิดอร์ บากันจา


(BLESSED ISIDORE BAKANJA)
             ถูกฆ่าเพราะเป็นคริสตชนและสวมสายจำพวกสีน้ำตาล 
 🌾🌾🌾🌾🌾🌾🌾 
🙏🏻🌹ท่านที่รัก,ให้เรามาใคร่ครวญชีวิตที่กล้าหาญและศักดิ์สิทธิ์ของอิซิดอร์ บากันจาแห่งคองโกกันเถิด เขาเกิดเมื่อค.ศ. 1887 และเสียชีวิต ค.ศ. 1909 เขาถูกนายจ้างทุบตีอย่างรุนแรงเพราะปฏิเสธที่จะหยุดเผยแพร่พระวรสารและการสวมใส่สายจำพวกสีน้ำตาล 
🌹บาดแผลของเขาติดเชื้อ เมื่อเห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะตาย เขาพูดว่า “ท่านครับ,บอกพวกเขาด้วยว่าผมกำลังจะตายเพราะผมเป็นคริสตชน” 
🌹มิชชันนารีในพื้นที่ได้มาเยี่ยมอิซิดอร์และขอให้เขาให้อภัยเจ้านายของเขา อิซิดอร์ได้บอกกับมิชชันนารีและคนอื่นๆว่าเขาได้ให้อภัยเจ้านายเขาเรียบร้อยแล้ว 
 “เมื่อผมอยู่บนสวรรค์ ผมจะสวดภาวนาเพื่อเขามากๆ” 
🌹 พระเยซูเจ้าที่รักยิ่ง, โปรดประทานความเข้มแข็งและความกล้าหาญแก่เราโดยผ่านการเสนอวิงวอนอันทรงพลังของบุญราศีอิซิดอร์ด้วยเถิด เพื่อที่เราจะแน่วแน่ในการทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ และกล้าที่จะปฏิเสธบาป แม้ว่ามันจะหมายถึงความตาย ตราบใดที่เราอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ผู้ทรงทำให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565

คำพูดของนักบุญ


“ถ้าปีศาจไม่สามารถทำให้คนบาปที่กลับใจกลับมาหามันด้วยความเคารพนับถือเชื่อฟังมัน มันก็จะทำให้เขาเกิดความกลัวเป็นอย่างมากเพื่อที่จะได้ครอบครองเขา มันจะหลอกเขาว่าการสารภาพบาปของเขานั้นไม่สมบูรณ์ มันจะหลอกว่าพระสงฆ์ผู้ฟังการสารภาพบาปของเขานั้นไม่เข้าใจเขา มันหลอกว่าทุกสิ่งที่เขาทำจะเปล่าประโยชน์ และเขาจะถูกสาปแช่งเหมือนเดิม ในท้ายที่สุด,เขาจะบรรลุผลแบบเดิมเสมอ และเขาควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเหมือนก่อนดีกว่าที่จะต่อสู้ต่อไป เพราะพิสูจน์แล้วว่าโอกาสบาปมีมากเกินไปสำหรับเขา” 

- นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ 

วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565

นักบุญอิกนาเชียสแห่งโลโยลา


นักบุญอิกเนเชียสต้องการเรียกคณะที่ตั้งขึ้นใหม่ว่า "สหายแห่งพระนางมารีย์" 
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565

คุณค่่าของความทุกข์


“นักบุญบริเก็ตแห่งสวีเดนเคยได้รับการทดลองจากหลายๆคนอย่างต่อเนื่องและด้วยความอดทน มีคนหนึ่งพูดดูถูกเธอ อีกคนยกย่องเธอต่อหน้าเธอ,แต่กลับบ่นว่าถึงเธอเมื่อเธอไม่อยู่ อีกคนด่าเธอ อีกคนพูดไม่ดีกับเธอทั้งๆที่เธออยู่ต่อหน้า ทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกคนหนึ่งทำผิดต่อเธออย่างร้ายแรงและเธอก็อวยพรเขา คนหนึ่งทำให้เธอสูญเสียบางสิ่งและเธอก็สวดภาวนาเพื่อเขา และผู้กล่าวร้ายคนที่เจ็ดให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการตายของลูกชายของเธอ ซึ่งเธอรับไว้อย่างสงบ ต่อจากนั้น,นักบุญอักเนสมรณะสักขีได้ปรากฏแก่บริเก็ตพร้อมกับนำมงกุฎที่สวยงามที่สุดที่ประดับด้วยเพชรพลอยเจ็ดเม็ดมาด้วย นักบุญอักเนสบอกกับบริเก็ตว่าผู้ที่กล่าวร้ายทั้งเจ็ดคนนั้นเป็นผู้ที่วางเพชรพลอยไว้บนมงกุฏนี้เอง แล้วนักบุญอักเนสก็สวมมงกุฏให้แก่บริเก็ตแล้วก็หายไป 
ผู้ที่ยอมรับความทุกข์จากการกระทำที่ไม่ดีของผู้อื่นได้ประโยชน์มากเพียงใดจากความอดทนเช่นนี้ นักบุญแองเจลาแห่งโฟลิกโน,เมื่อถูกถามว่าเธอสามารถทนต่อความทุกข์ด้วยความเบิกบานใจได้อย่างไร? เธอตอบว่า 'เชื่อเถิดว่า ความยิ่งใหญ่และคุณค่าแห่งความทุกข์นั้นไม่เป็นที่รับรู้และเป็นที่เข้าใจของเรา เพราะถ้าหากเรารู้ถึงคุณค่าของการทดลองของเราแล้ว การทดลองเหล่านั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่เราพยายามแสวงหา และเราจะพยายามฉวยโอกาสจากกันและกันเพื่อรับความทุกข์ทรมาน'"