Pages

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผู้ก่อการร้ายในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

           ความคิดที่จะสร้างอาณาจักรสมัยกาลิปแห่งเปอร์เซียขึ้นมาใหม่ได้แพร่กระจายไปในทวีปเอเชีย  ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
ในกัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตา  ได้มีคำเตือนว่าพวกสมุนของกลุ่มก่อตั้งรัฐอิสลามเตรียมพร้อมแล้วที่จะโจมตีสถานที่ต่างในประเทศ  บริเวณที่เป็นเป้าหมายคือ สถานที่ราชการ,ที่สาธารณะและสถานที่ซึ่งเป็นจุดอ่อนไหว  เป้าหมายคือการลบล้างสถาบันทางด้านทุนนิยมและแหล่งโลกียสถานเพื่อที่จะนำกฎหมายอิสลาม (ชาเรีย) มาใช้ปกครองประเทศ  มีชาวมาเลเซียอย่างน้อย 20 คนอยู่ในซีเรียที่กำลังทำสงครามจีฮัด  และมีคนจากฟิลิปปินส์ร่วมด้วยเป็นครั้งแรก
ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย รายงานว่ามีชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียหลายคนได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลาม Islamic State terror group (formerly known as ISIS)  ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในอิรักและซีเรีย  และดูเหมือนว่าพวกนี้มีแผนการจะโจมตีและก่อความวุ่นวายในประเทศบ้านเกิดของตนเองด้วย
ความสำเร็จในการยึดเมืองหลายเมืองในอิรัก ทำให้พวกนี้มีความฮึกเหิม  และกระทำการอย่างโหดร้ายต่อชนกลุ่มน้อย  เหตุการณ์นี้กำลังแพร่กระจายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน
กลุ่มเคลื่อนไหวและผู้นำมุสลิมได้รับแรงบันดาลใจจากการกระทำของพวกนักรบนิกายสุหนี่  จึงตั้งใจจะสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐกาลิปอิสลาม
หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายในกัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตาได้เตือนว่า  สมุนของกลุ่มก่อตั้งรัฐอิสลามต้องการล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมาย  ด้วยความคิดที่ว่ารัฐบาลนี้เป็นสถาบันทางโลกียโดยธรรมชาติ  พวกนี้ต้องการนำกฎหมายชาเรียมาใช้อย่างเข้มงวดตามกฎบัญญัติของอิสลาม
ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ  ผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนเพิ่มขึ้น   และในมาเลเซีย,มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างน้อย 19 คนที่ต้องสงสัยว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในระหว่าง 7 เดือนที่ผ่านมานี้ 
ผู้ถูกจับกุมได้เปิดเผยแผนการที่จะโจมตีหน่วยงานภาครัฐ  ไนต์คลับ  บาร์และสถานเริงรมย์บนถนนสายบันเทิงยามค่ำคืน  ในเวลาเดียวกัน  มีชาวมาเลย์อย่างน้อย 20 คนได้เดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมในการทำสงคราม  แต่จำนวนอาจมีมากกว่านี้
ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก  ได้สั่งห้ามการสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวหัวรุนแรง  และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก  อย่างไรก็ตาม  อันตรายยังมีอยู่และมีมากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะข้าราชการชั้นสูงรวมทั้งรัฐมนตรีไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะป้องกันเรื่องนี้
มีรายงานว่ากลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมในฟิลิปปินส์ก็พยายามเข้าร่วมปฏิบัติการแบบเดียวกับกลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น